จดหมาย มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 16 ธ.ค. 59

คน 3 แผ่นดิน

ผมเกิดหลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 ประมาณ 4 ปี

ซึ่งก็ตรงรัชสมัย ร.7

ต่อมา ร.7 สละราชสมบัติ จากนั้น ร.8 ก็ขึ้นครองราชย์ ผมอายุ 10 ขวบ พระองค์ก็สวรรคตในปี 2489

ต่อมา ร.9 ขึ้นครองราชย์ จวบจน 13 ตุลาคม 2559 ก็สิ้นสุดรัชสมัย

ถ้านับแผ่นดินที่ชาวบ้านเรียกกัน ผมก็อยู่ 3 แผ่นดินเลยครับ

ทุกวันนี้ คนไทยยังเป็นเจ้าของประเทศอยู่หรือเปล่า

ผมไม่ค่อยแน่ใจ

เพราะคนดีกลุ่มหนึ่งกำลังชี้นิ้วให้คนไทยส่วนใหญ่ต้องทำตามกติกา ที่พวกเขาร่างกันขึ้นมา

โดยที่พวกผมและคนส่วนมาก ไม่มีสิทธิมีเสียงอะไร

เขาอ้างว่าเป็นช่วงเปลี่ยนผ่าน

ความจริงมันไม่ใช่เลย

ทุกวันนี้พวกคนดี ก็บริหารประเทศแบบศรีธนญชัย

คือพวกมึงพวกกูนั่นเอง

ในเรื่องรามเกียรติ์ นนทกได้นิ้วเพชรจากพระอินทร์ ก็ใช้นิ้วเพชรจัดการศัตรูคู่อาฆาตตายเป็นว่าเล่น

ซึ่งประเทศไทยก็มีคนได้นิ้วเพชร จาก สนช. หรือ สปท. ไม่ทราบเพราะขี้เกียจจำ

คนที่ได้นิ้วเพชร ขณะนี้คือนนท์ยุทธ ซึ่งกำลังใช้นิ้วเพชร 44 กะรัต อย่างเมามัน จนลืมไปว่า สักวันมันจะชี้เข้าหาตนเองอย่างนนทกเป็นแน่

ซึ่งนนทกก็ตายแบบปลาน้ำตื้นจนได้ โดยท่ารำจากนางฟ้า ซึ่งก็คือพระอินทร์แปลงกายมานั่นเอง

ขณะนี้ผมยังเดาไม่ออกเลยว่าจุดจบจะเป็นอย่างไร

เพราะอ้างการเปลี่ยนผ่านมาตลอด

ถ้าเปลี่ยนผ่านเป็นประชาธิปไตย มันก็พอทำใจได้ แต่ตรึกตรองอยู่หลายรอบ มันก็มองไม่เห็นเลยว่าจะเป็นประชาธิปไตยได้เลย

เพราะกฎกติกามันเป็นเผด็จการ ซ่อนรูปดีๆ นี่เอง

ซึ่งขณะนี้โรคสมองสุนัข (ความรุนแรง) ปัญหากระบือ (เป็นทาส ถูกจูงจมูก) ก็ระบาดออกจากกรมกองต่างๆ ของผู้ชอบอำนาจนิยม กระจายไปทั่วประเทศ ไม่เว้นองค์กรเกี่ยวกับความยุติธรรม ซึ่งเป็นที่พึ่งพิงของคนไทยมาตลอด

แต่บัดนี้ ทศวรรษนี้ ไม่มีอะไรให้คนไทยส่วนมากได้พึ่งพิงอีกเลยหรือ?

ดูมิติของเรื่องบางเรื่อง มันหดหู่ใจเหลือเกิน มีการรุกไล่ ให้อีกฝ่ายจนมุม

ทุกอย่างเป็นไปตามใบสั่ง จัดฉากทุกอย่างให้เลวร้าย แล้วก็อ้างคำพูดเดิมๆ เพื่อขจัดความขัดแย้ง เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง แล้วลากปืน รถถังออกมา ทั้งที่ไม่ใช่หนทางที่อารยชนพึงกระทำ

ถ้าหากพวกท่านทำหน้าที่ปกป้องประชาธิปไตยจริง ก็ควรเป็นผู้สนับสนุนรัฐบาลโดยการออกมาปราม เจรจา และแยกมวลชน หรือขั้นสุดท้ายคือการปลดอาวุธ (หากทราบว่ามี) แล้วส่งกลับบ้าน

แต่ที่พวกท่านทำมาตลอดคือการเป็นพระเอกขี่ลาขาว ไม่ใช่ม้าขาว

เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ ทำร้ายประเทศ เศรษฐกิจตกต่ำ จนยากจะเยียวยาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

2 ปีเศษ มีอะไรที่น่าภูมิใจบ้าง นอกจากความสงบที่พวกท่านพูดเอาเอง

เป็นความสงบบนภูเขาไฟรอเวลาที่ระเบิดเท่านั้น

ที่มีคนพูดว่าตั้งแต่ปฏิวัติมานี้ มีคนตายสักคนไหม

ผมบอกว่ามีเพราะคนตายทั้งเป็นยังไงครับ ตายครึ่งค่อนประเทศ โดยเฉพาะเกษตรกรและลูกจ้าง ล้วงกระเป๋าทีไรพบแต่เศษสตางค์

สุพรรณ สิงห์มรกต

นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็น “ผู้อาวุโส 3 แผ่นดิน” ไว้แต่ต้น

คงนึกว่า จดหมายนี้ เขียนโดยหนุ่มห้าวยี่สิบกว่าๆ

ดุเดือด เลือดพล่าน

จนต้องเซ็นเซอร์หลายๆ เรื่อง

ใจเย็ลล…

คุณปู่ใจเย็นๆ

แม้หลายเรื่องจะไม่ได้ดังใจ แต่ก็น่าจะคุ้มค่ากับการ “รอคอย” ว่า หลังยุคเปลี่ยนผ่านอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง

อยู่รอดูเถิดครับ

“อิน” มากห่วงเส้นเลือดสมองจะแตก

คนที่ควรจะเครียด คือเขา ไม่ใช่เรา

หูเหล็ก

รัฐธรรมนูญผ่านประชามติไปแล้ว เมื่อ 7 สิงหาคม 2559

ต่อไปการเขียน กฎหมาย อย่าลืม

พระบรมราโชวาท ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานแก่เนติบัณฑิต เมื่อ 7 สิงหาคม 2515 ณ เนติบัณฑิตยสภา ดังนี้

“โดยที่กฎหมายเป็นเครื่องมือในการรักษาความยุติธรรม ดังกล่าว จึงไม่ควรถือว่ากฎหมายมีความสำคัญยิ่งไปกว่าความยุติธรรม หากจะต้องให้ความยุติธรรมมาก่อนกฎหมายและอยู่เหนือกฎหมาย การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีใดๆ โดยคำนึงถึงแต่ความถูกผิดตามกฎหมายเท่านั้น ดูจะเป็นการไม่เพียงพอ จำต้องคำนึงถึงความยุติธรรม ซึ่งเป็นจุดประสงค์ด้วยเสมอ การใช้กฎหมายจึงจะมีความหมายและได้ผลที่ควรจะได้”

วันที่พระราชทานพระบรมราโชวาท กับวันลงประมติ วันเดียว เดือนเดียวห่างกัน 44 ปี

สมควรที่นักกฎหมายรุ่นใหม่ควรถือปฏิบัติ จะได้ลดความขัดแย้งและเกิดการปรองดองได้

ผมถือปฏิบัติในการทำงานมาตั้งแต่ปี 2517 ได้ผล

ตะวันรอน อ.ลอง จ.แพร่

“ตะวันรอน” แนะนำเฉพาะ “นักกฎหมายรุ่นใหม่”

แล้ว รุ่นเก๋าๆ ในกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ที่กำลังนำเสนอกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ อยู่ตอนนี้เล่า

จะแนะนำด้วยไหม

หรือเห็นว่า มีเสียง “แนะนำ” ระเบ็งเซ็งแซ่ จนหูจะระเบิด อยู่แล้ว

จึงไม่ควรไปยุ่ง

หรือยุ่งไปก็เท่านั้น เพราะท่านๆ ระดับหูเหล็กทั้งน้านน…