ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/ออลนิว ‘Suzuki ERTIGA’ รถครอบครัวราคาประหยัด

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

ออลนิว ‘Suzuki ERTIGA’

รถครอบครัวราคาประหยัด

 

ค่าย “ซูซูกิ” ได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อรถเล็ก และราคาน่าคบหา

ไม่เพียงแต่จะมีเก๋งอีโคคาร์อย่าง “สวิฟต์” ที่สร้างปรากฏการณ์ยอดขายและยอดจองข้ามปีเท่านั้น แต่ยังมีรถครอบครัวที่น่าสนใจเช่นกัน

“เออร์ติกา” (ERTIGA) รถแบบ 7 ที่นั่งซึ่งเข้ามาจำหน่ายในปี พ.ศ.2555 ถือว่าเป็นเจเนอเรชั่นแรก

ล่าสุดถึงคิวเจนฯ 2 เข้ามาสานต่อ

รุ่นแรกที่จำหน่ายในบ้านเรามีเสียงตอบรับพอประมาณ ด้วยเป็นรถที่ราคาค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับรถ 7 ที่นั่งค่ายอื่นๆ แต่แน่นอนว่าด้วยราคาที่ทำมา จึงไม่แปลกที่วัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ต้องเป็นไปตามราคา

กระนั้นก็ตาม มีสาวกที่เลือกซื้อไปใช้เป็นรถครอบครัวเนื่องจากไปกันได้หลายๆ คน

ในเจนฯ ใหม่นี้ ต้องบอกว่าซูซูกิปรับโฉมมากพอสมควร การออกแบบภายนอก-ภายใน และวัสดุดูจะน่าสนใจกว่ารุ่นเก่า

“เออร์ติกา” ใหม่ยังคงเป็นรถที่นำเข้าจากอินโดนีเซีย

แต่บอกไว้ก่อนว่าแม้จะมาจากอินโดนีเซีย แต่ระยะหลังรถที่นำเข้าจากประเทศนี้มาจำหน่ายในไทย ฝีมือการประกอบถือว่าดีกว่าสมัยก่อนเยอะ

 

“เออร์ติกา” ใหม่ มาในแนวคิด “Unlock Your Life…ปลดล็อกอีกด้านของชีวิต”

พัฒนาขึ้นให้เป็นรถ 7 ที่นั่ง ที่มีสไตล์และให้อารมณ์การขับขี่ที่พร้อมปลดล็อกอีกด้านของชีวิต ให้โลดแล่นไปสู่ทุกเส้นทาง

การออกแบบตัวรถภายนอกตามหลักอากาศพลศาสตร์ (Aerodynamics) พร้อมด้วยเส้นสายดีไซน์โฉบเฉี่ยวโดดเด่นด้านข้างตัวรถ ให้ความรู้สึกโฉบเฉี่ยวเร้าใจ ทันสมัย

บนแพลตฟอร์มใหม่ HEARTECT เทคโนโลยีเฉพาะของซูซูกิที่ช่วยเพิ่มทั้งสมรรถนะและความปลอดภัย ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile เชื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน เพื่อความแข็งแกร่งและปลอดภัยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

โครงสร้างตัวถัง TECT ออกแบบจากเหล็กกล้าทำให้ทนทานต่อการสึกหรอ

ระบบ NVH ให้การขับขี่นุ่มนวล ดูดซับแรงสั่นสะเทือน พร้อมลดเสียงรบกวนตลอดเส้นทาง

กระจังหน้าแบบแถบโครเมียม รับกันดีกับไฟหน้าแบบโปรเจ็กเตอร์ ที่แอบมีอารมณ์คล้ายๆ รถยุโรปค่ายหนึ่ง

ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอก

กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยว ไฟท้าย LED แบบ Light Guides ออกแบบใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่นยอดนิยมค่ายหนึ่งเช่นกัน

ล้ออัลลอยขนาด 15 นิ้ว

โดยภาพรวมการออกแบบภายนอกดูสวยและโดดเด่นกว่ารุ่นแรกเยอะ

 

ภายในออกแบบให้ดูเรียบหรู เน้นโทนดำแซมด้วยลายไม้

พวงมาลัย 3 ก้านแบบ D-shape ออกแบบมาเป็นพิเศษเพิ่มพื้นที่วางขามากขึ้น ปุ่มควบคุมระบบสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย

มาตรวัดแบบวงกลม 2 วง ตรงกลางเป็นจอแสดงผล ทั้งระดับน้ำมัน อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันต่อระยะทาง แสดงผลตำแหน่งเกียร์ ฯลฯ

สะดวกสบายยิ่งขึ้นด้วยระบบ Keyless Entry และ Keyless Push Start

ระบบเครื่องเสียง เครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์ Bluetooth

ระบบเครื่องเสียง ลำโพง 4 ตำแหน่ง (คู่หน้า-คู่หลัง)

ช่องเชื่อมต่อ USB และ AUX

ระบบปรับอากาศพร้อมระบบกรองอากาศ และติดตั้งช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถวหลังให้ด้วย

ด้วยความที่เป็นรถครอบครัวทำให้มีช่องวางแก้วน้ำถึง 8 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟสำรอง 12V อีก 2 ตำแหน่ง

เบาะนั่งเป็นผ้าสีดำ ซึ่งต่างจากตัวที่ขายอยู่ต่างประเทศ ซึ่งมีเบาะหนังและสีเบจมาให้ด้วย เข้าใจว่าซูซูกิไทยสำรวจแล้วว่าภายในสีอ่อนแบบนั้นไม่เป็นที่นิยม เพราะดูแลรักษายาก

เบาะนั่งแถว 2 ปรับพับ 60:40 สามารถเลื่อนหน้า-หลังพร้อมฟังก์ชั่นปรับเอนเบาะ เพื่อความสะดวกในการขึ้นลงของผู้โดยสารแถว 3

เบาะนั่งแถว 3 ปรับพับ 50:50 พร้อมพนักพิงศีรษะแบบแยกส่วน 2 ตำแหน่ง

มีขัดใจนิดๆ ตรงที่ไม่มีที่พักแขนด้านซ้ายของคนขับมาให้ ส่วนใครที่อยากได้ที่พักแขนลดอาการเมื่อยล้ายามที่เดินทางไกล ต้องลองดัดแปลงกันเอง

ภายในมองรวมๆ ไม่ขี้เหร่ แถมยังดูกว้างขวางและโปร่งโล่ง

มิติตัวรถของรถรุ่นนี้ (กว้าง x ยาว x สูง) 1,735 x 4,395 x 1690 ม.ม. ฐานล้อ 2,740 ม.ม. ความสูงใต้ท้องรถ 180 ม.ม.

 

มาถึงหัวใจของ “เออร์ติกา” ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ใหม่ K15B แบบ 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT 1,462 ซีซี กำลังสูงสุด 104 แรงม้า/6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 138 นิวตัน-เมตร/4,400 รอบต่อนาที ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด

ระบบความปลอดภัยระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกะทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล

ระบบ ESP ควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวให้เข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

แม้ดูเหมือนไม่มีระบบไฮเทคอะไรมากนัก แต่ด้วยราคาที่ตั้งมา ถือว่าน่ารักน่าชังทีเดียว

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย GL ราคา 655,000 บาท และ GX ราคา 695,000 บาท

แต่บอกไว้ตรงนี้นะครับว่า เป็นราคาช่วงแนะนำถึงสิ้นเดือนเมษายนเท่านั้น หลังจากนั้นน่าจะปรับขึ้นอีกเล็กน้อย

กระซิบตรงนี้อีกนิด หากใครสนใจจริงๆ ควรจะเร่งจับจอง ไม่ใช่เพราะอีกไม่กี่เดือนจะปรับขึ้นราคา แต่เพราะประเทศไทยได้โควต้าจากอินโดนีเซียมาราวๆ เดือนละ 200 คันเท่านั้น

เนื่องจาก “เออร์ติกา” ใหม่ ที่อินโดนีเซียขายกันระเบิดระเบ้อ หลังเปิดตัวไม่กี่เพลาซัดเข้าไปเกือบๆ 7,000 คันแล้ว

ขณะที่เมืองไทยซึ่งได้โควต้าเดือนละไม่มากนัก ทำให้บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งเป้ายอดขายปีแแรก 2,500 คัน

หากดูจากราคาที่เป็นรถมินิเอ็มพีวี แต่ถูกกว่าซิตี้คาร์ด้วยซ้ำ แถมรูปลักษณ์ภายนอก-ภายในก็ไม่ขี้เหร่ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ให้มา เป้าหมายแค่ 2,500 คันในปีแรก ถือว่าไม่สูงมากอะไรเลย

การมาถึงของ “เออร์ติกา” ใหม่ น่าจะเขย่าตลาดรถมินิเอ็มพีวีในเมืองไทยพอสมควร