อภิญญา ตะวันออก / หมูบิน! จ้าวเวหา : ปลาเผาที่กำปอด

สํามะหาอะไรกับเสียมเรียบทัวร์ครั้งก่อน ทั้งคราบน้ำมันใต้ปีกเครื่องจากการถูกโจมตี คือสภาพนักบินพาณิชย์เขมรเวลานั้น ที่กีย์และบาบาลจะต้องเผชิญ

ณ อาคารสนามบินโปเชนตง สายการบิน “กัมพูชาแอร์คอมเมอร์เชียล” น้องใหม่ และอีก 6 สายการบินในบริเวณเดียวกันจะเปิดเคาน์เตอร์ให้บริการ พนักงานต้อนรับ-แอร์โฮสเตส ผู้ทำหน้าที่สุดจะประทับใจ กีย์เล่า หนหนึ่ง เมื่อเสียงระเบิดไม่ไกลจากสนามบินดังขึ้นเท่านั้น พลันเธอทั้งหมดก็ผลุบหายหลบเข้าไปในที่กำบังอย่างว่องไว

อย่างไรก็ตาม ช่างเป็นมืออาชีพอย่างวายร้าย เมื่อปรากฏตัวอีกครั้ง เธอๆ ก็ส่งยิ้มอบอุ่นให้ลูกค้าราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

กันแสงอีกคนหนึ่งที่ยืนรออยู่ตรงนั้น เขาแนะนำสมาชิกเพื่อนร่วมงานลูกเรือ แอร์สจ๊วต แอร์โฮสเตส พร้อมด้วยผู้โดยสารอีก 30 ชีวิตที่จะร่วมชะตากรรมในเที่ยวบินแรกของตน

เดิมที ก่อนบินออกมาจากเวียงจันทน์ บาบาลถึงกับลงทุนย้อมสีเครื่องบินเสียใหม่ด้วยพื้นสีน้ำเงิน-ขาวสำหรับใช้บินในเขมร นับเป็นเที่ยวบินประเดิมที่กันแสงหมายมั่นว่า กัปตันของตนจะพิชิตสนามบินกำปอดที่ร่ำลือถึงความหฤโหด

จนแม้แต่บาบาลก็ยังหวั่นหวาดรู้สึกราวกับมี “คานิบาล” มาเขย่าโสตประสาท

 

อย่างที่ทราบกัน มันเป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า ที่กีย์ หมูบิน! พาตัวเองไปยังหอบังคับการบิน เพื่อยื่นแผนการบินต่อเจ้าหน้าที่เขมรซึ่งมีท่าทีถืออำนาจ พวกเขาดูตั้งใจทำให้กีย์และบาบาลอาจต้องลำบากใจในหายนะความสัมพันธ์ แต่เปล่า จริงแล้วหายนะเหล่านี้มีอยู่ทุกนาทีจนกลายเป็นความกดดันที่ไร้ราคาไปแล้ว

กระนั้น การเข้าถึงจริตคิดอ่านเจ้าหน้าที่หอการบินโปเชนตงช่างเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา การแสดงท่าทีอ่อนน้อมจำนนต่อผู้มีอำนาจคือสิ่งที่เขาจะต้องเรียนรู้ โดยเฉพาะอารมณ์ขันห่วยแตกของตน ขณะยื่นใบอนุญาตและประวัติการบิน

บาบาลเหินจากพนมเปญไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ราว 35 นาที สภาพบรรยากาศของช่วงเวลาบินไม่ต่างจากผ้าห่มผืนตุ่นๆ หนาเตอะที่หนักอึ้ง

ดูเหมือนพวกหมูบิน! กำลังเข้าสู่อาการ “P-S-V” คือบินไปอย่างไร้ทิศทาง ทว่าในที่สุด ณ ความสูงราว 6,000 ฟุต ท้องฟ้าก็เจิดจ้าด้วยสีคราม จากนั้นไม่กี่อึดใจต่อมา พวกเขาก็พบกับทัศนียภาพของผืนแผ่นดินที่สุดแสนจะสมบูรณ์แบบของท้องนาเขียวขจีที่กว้างใหญ่ไพศาล เกินกว่าดวงตาของมนุษย์คนหนึ่งจะประมาณการได้

เมื่อสูงลงมาอีกราว 3,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล ที่กีย์ หมูบิน! สามารถจำแนกสีสันธรรมชาติที่มหัศจรรย์เหล่านั้นได้

และเป็นเส้นทางสมรภูมิแห่งสงครามที่ร่ำลือกันมาในอดีต

 

กําปอดเป็นเมืองท่าเรือขนาดเล็กแต่สำคัญมาก เพราะเป็นท่าเรือแห่งแรกของประเทศ แต่ตอนนี้กำปอดกลับไม่อาจแข่งวาสนากับกำปงโสมที่เป็นท่าเรือน้ำลึกแห่งใหม่ และห่างออกไปเพียง 100 กิโลเมตร

ถึงตอนนี้ บาบาลเตือนสติถึงสิ่งที่กีย์ควรทำทางกายภาพต่อโลกใบนี้ โดยต้องไม่ลืมว่า สัมปทานเส้นทางบินที่ได้มาจากสงครามภายในประเทศนี้ และตอนนี้ อย่างไม่พ้นไปได้ กำปอดเทร็ลได้กลายเป็นเส้นทางอากาศที่หมูบิน! ต้องทำหน้าที่บินสำรวจ

และต้องไม่ลืมว่า กำปอดเทร็ลคือเส้นทางอากาศที่อันตรายมากเส้นหนึ่ง

มีปัจจัยหลายประการที่ทำให้เป็นเช่นนั้น แรกทีเดียว พื้นผิวสนามบินที่ทำมาจากหินธรรมชาติ-ศิลาแลงที่ง่ายต่อการลื่นไถล โดยเฉพาะฤดูฝน

กรณีการลงจอดครั้งแรกของหมูบิน! บาบาลจึงอยู่ในข่ายดังกล่าว นอกจากนี้ ขนาดของลานสนามบินที่สั้นเพียงเจ็ดร้อยเมตร ทั้งยังรายล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ จากตะวันออกสู่ตะวันตก มีส่วนทำให้การเติมเชื้อเพลิงกลายเป็นปัญหา กรณีที่เครื่องต้องจอดรอนานเกินไป

นอกจากนี้ อันตรายที่ว่า ยังมาจากกระแสของลมทะเล ที่อาจพัดพาการทรงตัวของเครื่องบินในอากาศอย่างน่าหวาดเสียว ราวกับเครื่องบินได้กลายเป็นปูม้าตัวใหญ่ที่ไต่อากาศลงไปเกาะบนพื้นดิน!

แต่ด้วยฝีมือที่มากด้วยประสบการณ์ของบาบาล ทำให้เขาสามารถนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ บนเส้นทางอากาศที่ปราศจากหอบังคับการบินนั่น มันยากจะเชื่อได้

ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินถึงความทันสมัยของระบบสนามบินที่พอมีอยู่บ้างในพระตะบองและพนมเปญ ทว่ามันไม่มีอยู่เลยแม้แต่นิดเดียวที่กำปอด! และด้วยข้อมูลน้อยมากต่อการพบเจอนักบินร่วมสายงาน และนั่นยิ่งอาจทำให้เสี่ยงภัย

เพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถแทรกตัวเครื่องลงไปบนลานพื้นว่าง บาบาลจึงตีปีกวงกว้าง เขาชี้ให้กีย์สังเกตสะพานเหล็กที่ทอดยาวลงไปในทะเลสาบ ให้ตายเถอะ มันจำเป็นอย่างมากสำหรับทัศนวิสัยของทางวิ่งที่เป็นพื้นหินสีแสดนั่น อย่างน้อยก็ช่วยยกระดับให้เป็นประหนึ่งสถานที่สำคัญแห่งอุดมคติ!

โดยไม่มีเวลาแม้แต่จะตั้งคำถามและแสดงความรันทดต่อซากเครื่องบินลำหนึ่งซึ่งไหม้เกรียมอยู่ข้างทาง พอเครื่องบินแตะพื้นผิวรันเวย์เท่านั้น ความสั่นสะเทือนทั้งลำก็บังเกิดขึ้นจากการเบรกอย่างรุนแรง จนเครื่องบินเสียการทรงตัวและไถลไปเกยบนดินโคลนขนาดย่อมนอกรันเวย์

ช่างเป็นการออกแบบทางวิ่งที่ห่วยแตกและไร้รสนิยม ผลกระทบร้ายแรงที่ตามมาคือการชำรุดหนักของเครื่องบินบางส่วนที่ประเมินค่าไม่ได้ แม้ที่สุดแล้วแรงเสียดทานจะทำให้เครื่องบินค่อยๆ เนิบช้าและจอดสนิท แต่ห่างออกไปไม่กี่เมตรนั่น ชาวนาเขมรบางคนกำลังตกตื่นกับผู้บุกรุกซึ่งหน้า-เจ้านกเหล็กตัวนั้น

 

ระหว่างทางรถยนต์ไปยังอาคารสนามบิน อีกด้านฟากหนึ่ง พวกเขาเห็นเครื่องบินคือ ดีซี-3 อีก 2 ลำ มีสภาพทิ้งร้างเหมือนประสานงากับขอบรันเวย์ โอ พระคุณเจ้า เส้นทางการบินสายใหม่ ที่จะเพิ่มพูนรายได้และเศรษฐกิจแก่กัมพูชาแอร์คอมเมอร์เชียล!

อาคารสนามบินกำปอดมีหน้าตาเหมือนสถานีรถประจำทางในต่างจังหวัดมากกว่าอาคารทันสมัย ว่ากันตามตรง ห้องพักผู้โดยสาร ก็คือพุ่มไม้ใบบัง ที่ลูกค้าพากันรวมตัวไปอาศัยร่มเงาระหว่างที่รอขึ้นเครื่อง พวกเขาดีเหลือเกินที่ไม่ตัดพ้อต่อสิ่งที่ตนได้รับ

เมื่อผ่านการแนะนำตัวแล้ว เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางคนก็เริ่มจดจำสไตล์การต้อนรับที่อบอุ่นด้วย “คอนญักผสมโซดา” ของบาบาล แม้จะเป็นเที่ยวบินเช้าแรกของวันนั้น ภายใต้สถานการณ์ที่อ่อนไหวในทุกสถานะ นี่คือปฏิสัมพันธ์ที่ช่างเปราะบาง และการทำความเข้าใจในคนท้องถิ่น คืองานหลักของพวกหมูบิน! ด้วยเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้ ในเที่ยวบินขากลับนั้น นอกจากจำนวนผู้โดยสาร 15 ที่นั่งแล้ว

ในท้องเครื่องบินยังเต็มไปด้วยปลาจำนวนมากจากทะเลอีกด้วย

 

บาบาลดูจะเป็นนักบินที่ไม่ธรรมดา เขาให้ความสำคัญต่อการจดบันทึกจนอาจจะเรียกได้ว่าเป็นอันดับต้น ไม่เพียงแต่ปริมาณของสัมภาระสินค้าเท่านั้น แต่ยังกระตือรือร้นอย่างมากในการซักถามเอากับผู้เช่าเหมาเข่ง (ปลา) คนสำคัญ

กีย์เองก็ด้วย การตรวจตราตะกร้าหวายใบเขื่องพะเรอทั้งหลาย ซึ่งภายในบรรจุปลาสดโปะทับด้วยน้ำแข็ง ถือเป็นภารกิจหลักของนักบินผู้ช่วย

การขนปลาสดในสภาพเช่นนั้นคงไม่มีอันตรายใดนักหรอก มันก็แค่มีน้ำแข็งละลายระหว่างเที่ยวบิน หรืออย่างมากก็แค่เปลี่ยนสภาพท้องเครื่องบินเป็นที่หมัก “ปลาร้าสด” ไปบ้าง เว้นเสียแต่อานุภาพของมันที่สามารถโจมตี “วงจรไฟฟ้า” อย่างร้ายกาจ

อีกจงเฝ้าระวังน้ำหนักมวลรวมของผู้โดยสารและสินค้าพิเศษตามใบอนุญาตจากกำปอดที่ 3 ตันให้จงหนัก โดยเฉพาะสัมภาระอย่างหนึ่งซึ่งไม่ถือเป็นสินค้า มันคือ “น้ำแข็ง” บนเข่งปลาทู ฆาตกรจอมสังหารที่อาจหยิบยื่นความตายอย่างไม่คาดคิด หลักฐานตรงหน้า ก็ซากเครื่องบินดีซี-3 ที่ไหม้เกรียมอยู่ข้างรันเวย์

มันยังมีกลิ่นโชยที่ล่องลอยอยู่ที่ใดสักแห่ง หรือมิฉะนั้นก็ในสมองของบาบาล ตอนที่เขาหันไปมองเครื่องยนต์และซากปลาเผาทะเลด้วยความรู้สึกอันสลด ที่มีต่อสหายนักบินและครอบครัวที่บาบาลเคยรู้จักตั้งแต่สมัยบินในไซ่ง่อน

ไม่มีอะไรเหลือไว้เป็นอนุสรณ์ นอกจากนังดาโกต้าโทรมๆ ที่กลายเป็นซากไปแล้วจากอุบัติเหตุ 3 สัปดาห์ก่อน ตอนที่เขาพยายามนำเครื่องขึ้นบิน พร้อมด้วยปลาสดกับน้ำแข็งอีก 3 ตันก่อนจะตกลงกระแทกอย่างรุนแรง

โดยไม่คิดว่าปลาทะเลนั่นจะมีน้ำหนักเกินกว่าเครื่องบินจะขึ้นบินได้

น้ำเสียงของบาบาลที่ประกาศต่อผู้โดยสาร สั่นเครือและบ่งบอกถึงความสะเทือนใจ ราวกับเขากำลังไว้อาลัยต่อเพื่อนนักบินผู้นั้น โดยที่เขาเองและกีย์ก็ทราบดีว่า

มันช่างบัดซบ-โหดร้ายเกินกว่าจะได้ชื่อว่า “ข้าเป็นกัปตันนักบิน!”