อภิญญา ตะวันออก : หมูบิน! จ้าวเวหา-อภิรักษ์เมืองพระนคร

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ปกตินั่น กัมพูชาคือภารกิจท้าทาย

ก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ.2511 กีย์ หมูบิน! เคยไปเยือนปราสาทบายน-นครวัดที่เสียมเรียบ และบัดนี้ เขาแทบจะไม่เชื่อเลยว่า นี่คือประเทศที่เขาเคยรู้จัก

ประสบการณ์ที่สนามบินโปเชนตงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง จากความช่วยเหลือของพันเอกแซงต์ซิมงจนรอดพ้นกับดักตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย กีย์ หมูบิน! รู้สึกถูกชะตากับนายทหารผู้นี้ ว่ากันตามตรง คนฝรั่งเศสในเขมรดูจะมีคลาสกว่าในเวียงจันทน์ เช่นเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์ของที่นี่ที่ดูจะมีวิธีทำลายล้างอันโหดร้ายกว่าลาวมาก โดยเฉพาะการเล่นงานผู้คนในเมืองด้วยการวางระเบิด

นับประสาอะไรกับสนามบินโปเชนตงและอื่นๆ ทั่วประเทศที่กำลังถูกปิดล้อม กลายเป็นเรื่องท้าทาย ที่แม้แต่กันแสงยังได้สัมปทานบนเส้นทางการบินสายใหม่ : พนมเปญ-กำปอด ที่บ่งบอกว่าพรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชารุกคืบเข้ามาในเขตพื้นที่เมืองเหล่านั้น

 

กันแสง-นายจ้างคนใหม่ของหมูบิน! ชื่อที่ฟังเศร้า ในรูปร่างอันสันทัดแต่เขามีพละกำลังสูง และทักษะฝรั่งเศสที่เยี่ยมมากคนหนึ่ง นอกจากนี้ การมองโลกเชิงบวกของเขานั้น มั่นคงและอยู่บนพื้นฐานของความจริง ท่ามกลางสถานการณ์ไม่ปกตินี้ วิสัยทัศน์ของกันแสง ได้สร้างความพอใจต่อหมูบิน! ที่เขาจำต้องนำไปใช้ในการทำงาน

กันแสงยังเชื่อมั่นว่าส่วนแบ่งการตลาดการบินกัมพูชายังมีศักยภาพเติบโตอีก 2 เท่า ที่ส่วนแบ่งรายได้กระจายไป 5-6 บริษัทการบินภายในประเทศ เป็นเดิมพันธุรกิจที่สูงลิบด้วยการแข่งขันและความเสี่ยง ส่วนใหญ่ทั้งหมดใช้เครื่องบินดีซี-3 ที่ดัดแปลงจากกองทัพมาเป็นอากาศยานพาณิชย์

จากโปเชนตงถึงโรงแรมสุขาลัยบนถนนมุนีวงศ์ซึ่งเป็นที่พัก ห้องพักสไตล์จีน-โปรตุเกส จุดเด่นคือเพดานสูงนั่น นอกนั้นก็ไม่เหลืออะไรที่เข้าพวกกันเลย ทั้งเครื่องปรับอากาศและพัดลมรวมทั้งอ่างอาบน้ำ ทุกอย่างช่างใหญ่โตเกิน และเป็นแบบเดียวกับฝรั่งเศสที่ใช้กันเมื่อ 3 ทศวรรษก่อน

ลงมายังล็อบบี้โรงแรม กันแสงนั่งแกร่วรออยู่ก่อนแล้ว ในมือมีแก้วบรั่นดี และตอนนี้ ประวัติศาสตร์กัมพูชายก 2 ฉบับสงครามกลางเมืองก็เริ่มขึ้น โดยไม่พูดพล่ามทำเพลงหรือซ่อนเร้นปิดบังในความเสี่ยงของนักบิน

กีย์รู้สึกชมชอบในความตรงไปตรงมาที่จำเป็นมากต่ออาชีพตน ขณะเดียวกัน ดูเหมือนคำบอกเล่าคราวนี้แตกต่างออกไปจากสื่อที่ประโคมความสำคัญของเจ้าชายสีหนุ แต่ลืมย้ำความผิดพลาดการนำประเทศของพระองค์

แก้วเครื่องดื่มถูกวางลง ราวกับเปลี่ยนฉากตอนของการเล่าเรื่อง กันแสงนำกัปตันคนใหม่ไปยังห้องเขมรา จากนั้นหัวข้อสนทนาใหม่ว่าด้วยธุรกิจ ที่มีคอนญักเครื่องดื่มชนิดเดียวที่กันแสงเรียกหาตอนเจ็ดโมงเช้าและใช้ดื่มกลั้วคอตอนกินเนื้อสเต๊ก พลันการเล็กเชอร์ยก 3 ก็เริ่มต้น อย่างที่รู้กัน มันคือปมแตกหักระหว่างสิริมะตะกับสีหนุ

ดูท่าไม่มีใครที่เมาค้าง! ในการดื่มที่ออกรสชาติแห่งการสนทนา ว่าด้วยการเมืองกัมพูชา

 

ตอนนี้เพื่อนร่วมอาชีพคนใหม่ (และชื่อจัดตั้ง) ก็เดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มทรงเสน่ห์เขมรหนุ่มรูปงาม ในความรู้สึกที่กีย์บอกเล่า ผู้ช่วยฌ็อง โคล้ด เดเนเช่ผู้นี้ยังมีใบหน้าราวกับภาพปั้นของประติมากรรมขอม ส่วนเดเนเช่นั้น เขามีประวัติทำงานกับสายการบินคาราวีล (Caravelle) และรอยัลแอร์กัมโบจด์ ก่อนย้ายมาที่บริตเท็น นอร์แมน ข้อมูลจำเป็นในการบินของเขา คือเรื่องที่ตรึงความรู้สึกอย่างมาก

เช่น สนามบินกำปงโสม ไพลิน พระตะบอง กำปงทมและเสียมเรียบ แน่นอน พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกฝ่ายเขมรแดงยึดครองโดยความช่วยเหลือของเวียดกง มีแต่ตัวเมืองเท่านั้นที่ยังพอตรึงพื้นที่ไว้ได้โดยกองทัพของรัฐบาล

นั่นทำให้การจราจรทางอากาศกลายเป็นทางเลือกเดียวในตอนนี้ ขณะที่ทางน้ำและบกแทบจะถูกตัดขาดจากฝ่ายเขมรแดงและเสี่ยงการถูกโจมตี ตัวอย่างจังหวัดกำปงทม ที่เขมรแดงยึดครองจนแทบจะเต็มพื้นที่ ส่วนเสียมเรียบ การลงจอดรันเวย์มีความสุ่มเสี่ยงถูกซุ่มยิงด้วยไรเฟิลที่มาจากต้นไม้สูงและป่ารอบทิศทางของสนามบิน

ไม่เท่านั้น บางส่วนนครวัด-นครธมที่กว้างใหญ่ก็ถูกยึดได้โดยฝ่ายเขมรแดง และพบอีกว่า เคยมีนักบินถูกยิงบาดเจ็บจากการซุ่มยิงที่ว่า คำแนะนำ 3,000 และ 10,000 ฟุต คือระยะบินที่ปลอดภัย แต่การเทกออฟแบบสั้น และการแลนดิ้งที่รอบต่ำ ณ ความเร็วที่ 55 ไมล์ต่อชั่วโมง อาจเป็นทางออกที่ช่วยให้นักบินสามารถลงจอดสนามบินหินโหดแต่ละแห่งได้ง่ายขึ้น

วันต่อมา ขณะรอเดเนเช่อยู่นั้น กีย์บังเอิญได้รู้จักกับฮาเว่ มานาช (Hev? Manac”h) เจ้าหน้าที่แห่งสำนักงานอภิรักษ์เมืองพระนคร (Conservation d”Angkor) สำนักโบราณวิทยาที่ก่อตั้งมาตั้งแต่สมัยฝรั่งเศสอินโดจีน และกองงานแห่งนี้ยังคงดำเนินงานในกัมพูชาจนเกือบจะวันสุดท้ายที่กัมพูชาปิดประเทศ

ในเวลาเดียวกับที่กำลังเลี้ยงสุราเพื่อนใหม่อเมริกันกว่าสิบชีวิตที่บาร์ ก่อนที่เขาจะบินกลับลาวในวันรุ่งขึ้น กีย์เช่นเดียวกัน เขารู้สึกถูกอัธยาศัยต่อนักวิชาการรุ่นน้องมานาช จนทำให้เขาตัดสินใจร่วมคณะไปนครเสียมเรียบ

ถึงตอนนี้ เมื่อมาสู่อ้อมกอดของกัมพูชาแล้ว ความพึงใจต่อชีวิตและเพื่อนใหม่ๆ ของกีย์ หมูบิน! ในพนมเปญดูจะมากขึ้นไปอีก เมื่อได้พบกับลูกพี่ลูกน้องของมานาช

สุภาพสตรีสาวสวยในชุดสมปดไหมที่ลึกลับและอ่อนหวาน ในแบบหญิงงามตะวันออก

 

เครื่องบินโดยสารดีซี-4 ของกองทัพ ที่ดัดแปลงมาเป็นเครื่องบินโดยสารของรอยัลแอร์กัมโบจด์ ควรระบุอีกว่า เหนือทะเลสาบใหญ่ไปถึงเสียมเรียบตอนบน ได้ถูกตัดแบ่งเป็นโซนๆ โดยฝีมือเขมรแดง

มีเรื่องเล่าว่า เมื่อไม่นานที่ผ่านมา เครื่องโบอิ้ง 707 ของแอร์ฟร้านซ์ และดีซี-8 ของสายการบินยูทาห์ที่ไม่สามารถบรรทุกสินค้า (ของผู้โดยสาร) ได้ทำการขึ้นบิน แต่ประสบปัญหากับทีมงานภาคพื้นดิน เจ้าหน้าที่เขมรและหน่วยผจญเพลิงที่ขาดวินัยและไม่ได้รับการฝึกอย่างเพียงพอ แต่ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบางครั้งก็คือ ไม่มีเจ้าหน้าที่ที่หอคอยควบคุมการบิน!

ยิ่งกว่าเสี่ยงภัยที่เกิดกับโบอิ้ง 707 คือเครื่องบินถูกทิ้งอย่างเดียวดายในสวนยางพาราที่ห่างจากกรุงพนมเปญไปกว่าร้อยกิโลเมตร เช่นเดียวกับเสียมเรียบวันนี้ คือเมืองอันตราย โดยเฉพาะการซุ่มโจมตีในเขตสิบกิโลเมตรของโซนตะวันออกเฉียงเหนือที่คุมพื้นที่โดยเขมรแดง

เครื่องบินดีซี-4 ลดเพดานบินต่ำ เมื่อเห็นยอดปรางค์ปราสาทพนมกรอม จุดที่จะสังเกตเห็นได้ คือบารายแม่บุญตะวันตก สระขุดจากฝีมือมนุษย์ งานแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 12 ที่มีความกว้าง 2 และยาวถึง 8 กิโลเมตร

นี่เป็นอีกทัศนียภาพหนึ่งที่จะมองลงไปเห็นกลุ่มปราสาทนับเป็นสิบๆ หลัง ที่ผลุบโผล่อยู่ในราวป่า ส่วนด้านขวาแห่งปราสาทนครวัดนั้นเล่า ล้อมรอบด้วยคูน้ำสี่เหลี่ยมจัตุรัสที่สวยงามจับใจ เช่นเดียวกับปราสาทนครธมอันลึกลับ สำหรับศูนย์กลางปราสาทกำแพงหินขนาด 12 กิโลเมตร ที่ไม่อาจเข้าถึงได้แล้วตอนนี้

แต่จุดสูงสุดอยู่ที่ปราสาทพนมบาแค็ง ที่อาจสร้างความหายนะ หากว่าป้อมปืนที่นี่จะมีสมรรถนะสูงพอ

ระนาบพื้นดินที่สัมผัสกับตัวเครื่องเพื่อหักเลี้ยวอย่างหนัก ณ ตรงใจกลางลานสนามบิน ที่ล้อมรอบไปด้วยบังเกอร์ ไม่ต่างจากสมรภูมิรบที่มีหน่วยรักษาความปลอดภัยของกองทัพ พวกเขายังอยู่กันแบบครอบครัว มีเป็นจำนวนมาก แม้แต่เด็กๆ มันอาจเป็นเรื่องธรรมดาในภาวะสงคราม แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์ยังสงบเรียบร้อยก็ตาม แต่ผิดวิสัยสภาพบ้านเมือง

 

ออกจากเครื่องทางประตูหลัง กีย์พบตำแหน่งชำรุดของเครื่องยนต์ดีซี-4 บริเวณส่วนหางของใต้ปีก ที่เกิดจากผู้โดยสารกรูกันออกประตูหลังพร้อมกันนั่นเอง

นี่คือสภาพเครื่องดีซี-4 ที่ไม่ต่างกันนักกับดีซี-3 ที่กีย์พบมาในลาว แต่กัมพูชาดูจะสาหัสกว่ามาก แต่ตอนนี้เครื่องบินได้กลายเป็นเครื่องส่งสินค้าไปแล้ว สภาพบริเวณห้องโดยสารที่นั่งถูกรื้อถอนออกจนหมด

เมื่อออกจากสนามบินอย่างทุลักทุเลไปด้วยสัมภาระ สภาพถนนและสิ่งกีดขวาง ซากบ้านเรือนปรักพังสองข้างทาง ต้นตาลตระหง่านยืนกลางทุ่งร้างที่โดดเดี่ยวนั่น

แต่นี่ดูจะไม่ใช่ฝันร้ายแรกและแห่งเดียวของเสียมเรียบ

ตรงด่านตรวจทหารตรงทางเข้าตัวเมืองซึ่งมีตลาดเล็กๆ เหมือนโอเอซิสในดงสงคราม และ “สำนักงานอภิรักษ์เมืองพระนคร” (Conservation d”Angkor) เกาะกลางแห่งความโดดเดี่ยวที่เปราะบาง และเป็นสำนักงานทางโบราณคดีที่ใหญ่แห่งหนึ่งของโลก ที่เต็มไปด้วยโบราณวัตถุอันทรงคุณค่า

ส่วนหนึ่งถูกขนย้ายไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกรุงพนมเปญ โดยมีแบร์นาร์ด-ฟิลิปป์ โกรสลิเยร์-นายใหญ่ผู้ควบคุมดูแล และเชื่อมต่อสำนักงานกับเมืองหลวง ด้วยเครื่องส่งวิทยุจากเสาอากาศยักษ์ที่ติดตั้งอยู่บนอาคารสำนักงาน

และเครื่องมือขนส่งอพยพสมบัติโบราณแห่งชาติเขมรเหล่านี้ ก็คือดีซี-4 ที่สุดแสนจะโกโรโกโสนั่น