สแกนทัพใหญ่ “สีกากี” เปิด “ขุนพล” มือไม้ คสช. ในเกมเลือกตั้ง 2562

บรรยากาศการเมืองไทยยามนี้ ราวกับเข้าฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้าย ผลัดใบเปลี่ยนค่ายครั้งใหญ่ เหล่านักการเมืองหน้าเก่า เลือดใหม่โยกย้ายค่ายพรรคเป็นว่าเล่น

นี่คือเรื่องร้อนๆ ในสนามการเมืองที่ต้องจ้องกันห้ามกะพริบตา ในช่วงเข้าโค้งก่อนเลือกตั้งใหญ่ ที่นาทีนี้บิ๊ก คสช. ทั้ง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรี “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ประสานเสียงปักหมุดปฏิทินกาบัตรกุมภาพันธ์ 2562 ค่อนข้างแน่นอน

พรรคพลังประชารัฐ ที่เต็มไปด้วยบิ๊กและสต๊าฟในรัฐบาล คสช. ดูมีเสน่ห์ดึงดูดกว่าใคร นักการเมืองเก๋าเกมแห่ซบ!!

ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะผู้อำนวยการโครงการสำรวจความนิยมของนักการเมืองที่ประชาชนปรารถนาให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2562 เผยผลโพลสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวนใกล้ๆ หลักหมื่น ตอกย้ำเสน่ห์พลังประชารัฐและ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เผยคะแนนนิยมผู้ที่ประชาชนปรารถนาให้เป็นนายกรัฐมนตรีเรียงตามลำดับ “บิ๊กตู่” มาวิน 27.06% ตามด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล ขณะที่พรรคพลังประชารัฐก็คะแนนนิยมนำหน้า

แม้การเปิดโพลออกมาจะถูกตั้งคำถาม “เอนเอียง” “เอาใจ” หรือไม่

แต่มุมหนึ่งคงทำให้เกิดอาการกระหยิ่มในใจ!!

ท่ามกลางการคาดการณ์จับตามองว่ามีการปูทางสู่การสืบทอดอำนาจของ คสช. ของผู้นำรัฐบาลในปัจจุบัน!!

การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ ฝั่ง “สำนักปทุมวัน” ขยับรับความเคลื่อนไหวทางการเมืองเช่นกัน

ล่าสุดผู้นำสีกากี “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรักษาความปลอดภัย ดูแลความสงบเรียบร้อยในช่วงเลือกตั้งว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความพร้อมทุกด้านอยู่แล้ว

จนถึงขณะนี้ข้อมูลด้านการข่าวยังไม่พบสิ่งผิดปกติหรือมือที่ 3 ก่อเหตุความวุ่นวาย

เรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ไม่ได้กำชับอะไรเป็นพิเศษ ให้ตำรวจปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่เพราะยังไม่ถึงเวลา รอช่วงใกล้วันเลือกตั้งค่อยว่ากันอีกที

ก่อนหน้านี้ประชุมใหญ่มอบนโยบายนายพลผู้นำหน่วยทั่วประเทศ ทั้ง “บิ๊กแป๊ะ” ผบ.ตร. และ “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง สั่งนโยบายชัดให้ตำรวจทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับการเลือกตั้ง ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องและติดตามความเคลื่อนไหวสำคัญที่ส่งนัยยะทางการเมืองและความมั่นคง

4 ปีหลังปฏิวัติโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ปักธงปฏิรูปตำรวจนัยความหมายที่เข้าใจโดยทั่วกันคือ ปรับเปลี่ยนองค์กรสีกากี แก้ปัญหาเก่าที่หมักหมมมานาน ทั้งเรื่องความขาดแคลน คอร์รัปชั่น ความน่าเชื่อถือ และการบริหารงานบุคคล

ทว่า 4 ปียังคล้ายพายเรือวนเวียนในอ่าง

ปฏิรูปตำรวจที่ปักธงขึ้นป้ายสวยหรูไม่คืบหน้าถึงไหน คล้ายแค่ถ้อยวลีในวันรัฐประหาร

ทว่าอีกมุมหนึ่ง 4 ปี นับแต่วันรัฐประหาร คสช.ได้เข้ามาปฏิรูปปรับกระบวนทัพ จัดทัพสีกากีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว!!??

ปฏิเสธไม่ได้ว่า นับแต่ปี 2557 เป็นต้นมา การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจประจำปี ผ่านมา 4 วาระเต็มๆ และอีกวาระที่กำลังอยู่ในกระบวนการแต่งตั้งระดับรองผู้บังคับการถึงสารวัตร วาระประจำปี 2561

คสช.และรัฐบาลปัจจุบันได้วางขุมข่ายกำลัง ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ผู้กำกับการ ตำแหน่งคีย์แมนวางคนที่ไว้ใจในทุกจุดยุทธศาสตร์สำคัญ

หากจะกล่าวหาว่าเป็นการวางคนเพื่อหวังผลทางการเมืองในอนาคตก็จะเป็นการกล่าวหาให้ร้ายเกินไป

แต่หากมองกลไกของอำนาจและการบริหาร ชี้ได้ว่า ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติในบังเหียนที่กำกับโดย “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในการบัญชาของ พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาตามกลไกบริหารจัดทัพต้องวางคนที่ใช่และไว้ใจในตำแหน่งสำคัญ เป็นสิทธิและอำนาจของผู้มีอำนาจ!!

อย่างนี้จึงว่าปฏิเสธไม่ได้ว่า แม่ทัพ ขุนพลที่วางใจได้ถูกวางตัวไว้แล้วในทำเลยุทธศาสตร์

เริ่มจากแม่ทัพใหญ่ “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ นั่งเก้าอี้ ผบ.ตร.เข้าสู่ปีที่ 4 เป็นคนที่ถูกเลือกและผลักดันเต็มแรงจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี คีย์แมนผู้มากบารมีใน คสช.และกองทัพ ให้เป็น ผบ.ตร.นาทีนี้

และเชื่อว่าจนถึงต้นปีหน้าตามปฏิทินเลือกตั้ง แม่ทัพสีกากียังชื่อ “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” และจะเป็นมือไม้สำคัญรักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น

ขณะที่ทัพหลักด้านความมั่นคง มี “บิ๊กปู” พล.ต.อ.ศรีวราห์ เป็นเบอร์ 1 นำทัพ ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลนี้มาตั้งแต่แรก เป็นหัวขบวนการมือไม้สำคัญด้านการบังคับใช้กฎหมาย แบบถึงลูกถึงคน

หากในการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น บิ๊กปูคนนี้แหละคือมือทำงานสำคัญดูแลให้การเลือกตั้งอยู่ในร่องในรอยกรอบกฎหมายตามโรดแม็ปรัฐบาลและ คสช.

ยังมี “บิ๊กช้าง” พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร.ป้ายแดง นายตำรวจที่บิ๊กป้อมเลือกอยู่ข้างกายมากที่สุดในตอนนี้ ทำหน้าที่กำกับดูแลศูนย์ปฏิบัติการตรวจสอบการกระทำอันขัดต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของรัฐ ศูนย์ซึ่งเพิ่งตั้งขึ้นใหม่

ดังนั้น ความเคลื่อนไหวใดๆ ที่กระทบและมีผลต่อรัฐบาลและ คสช.ย่อมไม่คลาดสายตา

อีกด้านที่มองข้ามไม่ได้เลยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ยุทธการสางหนี้นอกระบบและทวงคืนโฉนดที่ดินจากสัญญากู้ยืมที่ไม่เป็นธรรม ช่วยประชาชนชั้นรากหญ้า ชนชั้นล่างถึงชั้นกลาง ซึ่งใช้ “ตำรวจ” เป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อน และมี “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง นายตำรวจคนสนิท มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยโฆษกส่วนตัว “บิ๊กป้อม” เป็นผู้เล่นเอง

และคล้ายจงใจโฟกัสปักหมุด “บิ๊กโจ๊ก” ไปดำเนินการเองแทบทุกจังหวัดในถิ่นอีสาน จัดงานอีเวนต์ใหญ่ ชงหวานเจี๊ยบให้ “บิ๊กป้อม” เป็นประธานงานคืนโฉนดแก่ลูกหนี้ ทั้งที่ จ.อุดรธานี เลย ถิ่นฐานการเมืองขั้วตรงข้ามบิ๊กโจ๊กพาบิ๊กป้อมย่ำมาแล้ว ซื้อใจพี่น้องถิ่นอีสาน

ส่วนหนึ่งปฏิเสธไม่ได้นาทีนี้ภาพลักษณ์จากผลงานที่ออกสื่อถี่ยิบ ชื่อ “บิ๊กโจ๊ก” ติดลมบน ต้นทุนดี มีฐานแฟน เดินเกมพีอาร์รุกทั้งในสื่อหลักและโซเชียล

หลายเดือนมานี้เปิดยุทธการสางหนี้คนจน ช่วยคนรากหญ้า ยึดโฉนดจากเจ้าหนี้ ปราบนายทุนเงินกู้ จนมีภาพ “ขวัญใจคนจน” หนำซ้ำยังปักหมุดยึดพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญทางการเมือง ภาพลักษณ์ภาพจำที่เกาะเกี่ยวกัน “บิ๊กโจ๊กของบิ๊กป้อม” คงพอส่งผลให้คะแนนนิยมใน พล.อ.ประวิตรและ คสช.กระเตื้อง ให้พอได้ใจคนอีสานมาบ้าง

กอปรกับการโยกย้ายของนักการเมืองแปรพรรค แรงประสานคงพอให้เกิดเสียงปันใจจากถิ่นอีสานมาบ้าง อาจไม่ถล่มทลายแต่ก็คงมากพออย่างมีนัยยะสำคัญ

มองอย่างนี้จะเรียกว่า “บิ๊กโจ๊ก” คืออีกหนึ่งขุนพลสีกากี นำทัพปูทางให้ คสช.ก็คงไม่ผิดนัก

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ต้องจับตาความเคลื่อนไหวทั้งการโยกย้ายใหญ่ในสนามสีกากีที่กำลังจะเกิดขึ้น ไปพร้อมๆ กับการขยับไหวในสนามการเมือง ก่อนเลือกตั้ง 2562!!