ตลกต่างแดน : อย่างนี้ก็มีด้วยสั่งซื้อหนังสือไป 20 ปี เพิ่งได้!!!

สั่งซื้อหนังสือไป 20 ปี เพิ่งได้!!!

ใครที่เวลาฟังเรื่องอะไรแล้วชอบคิดว่า “ไม่จริง” หรอก!!!

ไม่มีหรอก!!!

อยากจะบอกว่า “ไม่หลอก” นะ

และอยากให้ “อ่านข่าวนี้” เลย จะได้รู้ว่า…

ในโลกนี้ยังมีเรื่อง “สุดเหลือ” อีกเยอะ

รวมทั้ง “ข่าวนี้” ด้วย ที่ใครเห็นพาดหัวข่าวก็ต้องร้องว่า “ไม่อยากเชื่อ” ว่าจะเป็นเรื่องจริง!!!

ยิ่งในยุคที่การสั่ง “ซื้อสินค้า” เป็นเรื่องง่าย

และสะดวกรวดเร็ว แค่ “ขยับนิ้ว”!!!

เหอๆๆ

แต่ “เวียร่า วอลเกอร์” หญิงมะกันชาวเมืองโอแลนโด รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา กลับเพิ่งได้รับหนังสือนิทาน “ดร.ซูสส์ (Dr.Seuss )” 2 เล่มที่สั่งซื้อไปเมื่อ 20 ปีที่แล้วส่งมาให้ที่บ้านเมื่อไวๆ นี้!!!

เหอๆๆ อยากจะบ้าตาย!!!

เวียร่าบอกว่า เธอได้สั่งซื้อหนังสือนิทานดังชุดนี้ไปเมื่อปี 2541 ตอนหลานสาวอายุ 4 ขวบ หวังจะเอามาอ่านให้หลานสาวฟัง

แต่ตอนที่หนังสือถูกส่งมาถึงบ้าน หลานสาวของเธอโตจนแต่งงานมีลูกชายอายุ 5 ขวบแล้ว 1 คน!!!

ทั้งนี้ ทางไปรษณีย์ให้เหตุผลว่า ที่นำส่งหนังสือล่าช้าขนาดนี้ เป็นเพราะเพิ่งไปเจอหนังสือติดอยู่ในตู้ไปรษณีย์ใบเก่าๆ

แต่ถึงจะล่าช้าจนน่าใจหาย

แต่ยังโชคดีที่คนสั่งซื้อยังไม่ตาย

คุณเวียร่าก็ยังดีใจ ที่ถึงไม่มีโอกาสอ่านนิทาน ดร.ซูสส์ให้หลานสาวฟัง

มีโอกาสอ่านให้ “เหลน” ฟังก็ละกัน

555

คุกกี้เสี่ยงทายให้โชค 32.5 ล้าน

ขนาดคนยังมีหลายประเภท

เงินก็มี “หลายประเภท” ยิบย่อยเช่นกัน

เงินเดือนเอย เงินโบนัสเอย

แล้วก็ “เงินลาภลอย” เอย ที่ไม่ว่าใครก็หวังอยากให้ “ลอยมา” เข้ากระเป๋าทุก 15 วัน, ทุกเดือน หรือ “ทุกวัน” ยิ่งดี

อย่างเช่น การเสี่ยงโชคซื้อล็อตเตอรี่ซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะโชคร้าย เจอแต่ซื้อทีไรเงินก็ “ลอยออก” จากกระเป๋า

ไม่เคยได้ลอยกลับเข้ามา!!!

555

แต่ปรากฏว่าเมื่อไวๆ นี้ ที่ลองก์ พอนด์ รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา มีชายโชคดีที่ได้เงินลาภลอยจาก “ตัวเลข” ที่เขาได้มาจากคุกกี้เสี่ยงทายที่เขาเคยได้มาเมื่อหลายปีก่อน

นายรอนนี่ มาร์ติน เล่าว่า เขานำตัวเลขจากคุกกี้เสี่ยงทายไปซื้อล็อตเตอรี่เมกะ มิลเลียนส์ ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งทำให้เขาถูกรางวัลเป็นเงินถึง 1,000,000 ดอลลาร์ หรือราว 32.5 ล้านบาท!!!

ซึ่งเขาและภรรยาตั้งใจจะนำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อบ้าน

ไปจ่ายหนี้ แล้วเก็บออมไว้ใช้ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่!!!

ต่อไปนี้ก็รอลุ้นแค่ว่าจะมี “เงินเหลือพอใช้” ไปตลอดชีวิต?

หรือจะมี “ชีวิตเหลือพอ” ที่จะอยู่ใช้เงินไปจนหมดอ๊ะปล่าว?