จิตต์สุภา ฉิน : อเมซอนขอฝันใฝ่ให้ใหญ่ยิ่ง

จิตต์สุภา ฉินFacebook.com/JitsupaChin

แอปเปิ้ลใช้เวลาราวสองชั่วโมงในการเปิดตัวโทรศัพท์ไอโฟนใหม่ 3 รุ่น และนาฬิกาแอปเปิ้ลวอตช์อีก 1 รุ่น

แต่เมื่องานจบลงก็ได้เวลาที่สปอตไลต์ซึ่งสาดส่องไปยังแอปเปิ้ลจะต้องหันไปจับแบรนด์อื่นเป็นรายต่อไป

และแบรนด์ที่ได้สปอตไลต์ไปครองอย่างไร้ข้อกังขาก็คือ “อเมซอน” ที่ป่าวประกาศว่าจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงในการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด 70 ชิ้น!

อเมซอนก่อกำเนิดขึ้นด้วยความใฝ่ฝันอันทะเยอทะยานของเจฟฟ์ เบโซส ที่หมายมั่นปั้นมือจะพลิกโฉมหน้าวงการค้าปลีกออนไลน์โดยเริ่มต้นด้วยการขายหนังสือออนไลน์ ก่อนที่จะขยายตลาดไปสู่เพลง หนัง ดีวีดี ของเล่น เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้า

และตอนนี้ก็ได้ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทุกหมวดหมู่จนแทบจะไม่มีอะไรที่หาซื้อไม่ได้บนร้านค้าออนไลน์ของอเมซอนอีกแล้ว (ยกเว้นอุปกรณ์กูเกิลที่นับว่าเป็นคู่แข่งกันโดยตรง)

เป้าหมายของอเมซอนไม่ได้หยุดอยู่ที่การมีของทุกอย่างบนโลกมาขายบนเว็บไซต์เท่านั้น

แต่ยังต่อยอดไปถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ของตัวเองขึ้นมา

อย่างเช่น เครื่องอ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แท็บเล็ต อุปกรณ์สมาร์ตโฮม อุปกรณ์อัจฉริยะ

ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องคงคอนเซ็ปต์ที่เบโซสสร้างไว้อย่างแข็งแกร่งคือ ต้นทุนต่ำ ขายปริมาณเยอะ

งานเปิดตัวล่าสุดนี้อเมซอนเทความสนใจทั้งหมดไปไว้ที่ไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ให้ชื่อว่าเอคโค่ (Echo)

ซึ่งเป็นลำโพงอัจฉริยะที่มาพร้อมกับผู้ช่วยส่วนตัวสั่งการด้วยเสียงนั่นเอง

 

เอคโค่เป็นลำโพงอัจฉริยะของอเมซอนที่ฝังผู้ช่วยส่วนตัวนามอเล็กซ่าเอาไว้

ซึ่งเราสามารถปลุกให้ตื่นด้วยการเรียกชื่ออเล็กซ่า และสั่งคำสั่งต่างๆ นานาได้

ไม่ว่าจะเป็นการสั่งให้อเล็กซ่าช่วยหาข้อมูลสำคัญๆ ให้ ช่วยจัดการตารางนัดหมาย สั่งของกินของใช้ที่ร่อยหรอ เล่นเกม หรือใช้ให้เปิดเพลง

โดยเอคโค่จะถูกแบ่งออกเป็นหลายรุ่น เช่น เอคโค่ด็อต ลำโพงขนาดเล็ก เอคโค่พลัส ขนาดใหญ่ขึ้นมาและคุณภาพพรีเมียมกว่า หรือเอคโค่ โชว์

ลำโพงที่มาพร้อมหน้าจอให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นกว่าเก่า

ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถใช้เป็นสื่อกลางในการบังคับควบคุมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ภายในบ้านได้ด้วย ซึ่งทั้งสามรุ่นนี้ก็ได้รับการอัพเดตในงานครั้งนี้ด้วยค่ะ

อีกเอคโค่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ เอคโค่ ออโต้ อุปกรณ์ชิ้นเล็กๆ ที่วางเอาไว้บนแดชบอร์ดรถยนต์ เพื่อให้เลขาฯ อเล็กซ่าช่วยอำนวยความสะดวกให้ในระหว่างที่เราขับรถ

เมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนของเราแล้วอเล็กซ่าในเอคโค่ ออโต้ ก็จะทำหน้าที่คล้ายกับเลขาฯ ที่นั่งรถมากับเราด้วย จะสั่งให้เพิ่มรายการของที่ต้องการซื้อ ช่วยบอกเส้นทาง หรือแม้กระทั่งใช้ให้คอยเตือนเราไม่ให้วอกแวกเสียสมาธิในระหว่างขับรถก็ได้

นับเป็นเลขาฯ ชั้นดีที่จ่ายค่าตัวครั้งเดียวจบ ไม่ต้องมาคอยจ่ายเงินเดือนให้บ่อยๆ

แม้ว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ออกมาเกือบเหยียบร้อยชิ้นภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง

แต่สิ่งที่คนตื่นเต้นฮือฮาและพูดถึงกันมากที่สุดก็น่าจะเป็นไมโครเวฟที่ฝังอเล็กซ่าเอาไว้ข้างในด้วย

ทำให้เราสามารถใช้เสียงสั่งการให้ไมโครเวฟอุ่นอาหารให้เราได้

นับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นแรกที่ผลิตภายใต้ไลน์ผลิตภัณฑ์ของอเมซอนที่สามารถทำงานร่วมกับอเล็กซ่าได้

นอกจากจะใช้เสียงสั่งให้อุ่นมันฝรั่งเองได้แล้ว ไมโครเวฟนี้ก็ยังทำงานร่วมกับปุ่ม “แดช” ที่อเมซอนออกแบบมาให้สั่งของได้เองโดยอัตโนมัติทันทีที่ของร่อยหรอลง

แปลว่าเมื่อนำมาใช้กับไมโครเวฟ ไมโครเวฟก็อาจจะช่วยสั่งป๊อปคอร์นให้เราได้เองทันทีที่เห็นว่าป๊อปคอร์นที่เรามีใกล้หมดแล้ว

ความน่าตื่นเต้นก็คือราคาของไมโครเวฟเครื่องนี้ อเมซอนขายเพียงแค่ 60 ดอลลาร์ หรือไม่ถึง 2,000 บาท

แค่เห็นราคาอย่างเดียวก็พร้อมกดซื้อแล้ว ยิ่งถ้าได้รู้ว่าสั่งการด้วยเสียงได้ก็ยิ่งตัดสินใจง่ายเข้าไปใหญ่

ลองนึกดูสิคะว่า ถ้าเราชวนเพื่อนมาที่บ้านแล้วใช้เสียงสั่งการว่า “อเล็กซ่า ทำป๊อปคอร์นให้หน่อยซิ” มันจะเก๋เท่ขนาดไหน

ซู่ชิงก็พยายามมานั่งลองนึกดูนะคะว่าสถานการณ์แบบไหนกันนะที่เราจะอยากใช้เสียงสั่งการไมโครเวฟของเรา

เพราะไหนๆ เราก็ต้องถือแก้วกาแฟหรือถุงป๊อปคอร์นเดินไปใส่ในไมโครเวฟอยู่แล้ว

ทำไมไม่กดปุ่มอุ่นไปด้วยเลยล่ะ จะต้องใช้เสียงสั่งให้ยุ่งยากทำไม

คำตอบที่ได้ก็มีหลายสถานการณ์ค่ะ

บางทีเราก็ยังไม่พร้อมจะให้มันอุ่นตอนนั้น เราอาจจะหยิบแก้วน้ำของเราไปวางไว้ในไมโครเวฟก่อน หันไปทำนู่นทำนี่ พร้อมจะชงกาแฟเมื่อไหร่ก็ค่อยใช้เสียงสั่งมาจากอีกห้องหนึ่งก็ยังได้

หรืออย่างในกรณีที่เราก็ไม่แน่ใจว่าของที่เราต้องการจะอุ่นเราควรใช้ความร้อนหรือเวลาในการอุ่นเท่าไหร่ อเล็กซ่ารู้ค่ะ ไม่ต้องไปตั้งค่าเองให้วุ่นวายเลย

หมดปัญหาการต้องคอยเปิดๆ ปิดๆ หยิบเข้าหยิบออกเนื้อแช่แข็งที่ถ้าอุ่นไม่นานพอน้ำแข็งก็ไม่ละลาย หรืออุ่นมากไปก็กลายเป็นเนื้อสุกไปเลย

 

งานเปิดตัวครั้งนี้อเมซอนก็เข้าใกล้ความฝันของการเข้าไปครอบครองพื้นที่ทุกตารางนิ้วในบ้านของผู้ใช้ และทำให้สมาร์ตโฮมเป็นเรื่องที่คนเข้าถึงได้มากกว่าเดิม ลองนึกดูเล่นๆ นะคะว่าในอนาคตข้างหน้าอีกไม่ไกลสักเท่าไหร่ ของทุกชิ้นจะสามารถรับคำสั่งเสียงได้ เราจะคุ้นเคยกับการใช้เสียงสั่งการด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติจนเรานึกไม่ออกเลยว่าเราเคยอยู่ในยุคที่ต้องใช้มือควบคุมสั่งการกันมาได้ยังไง

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ต้องไม่ลืมก็คือ การมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตไว้ในบ้านก็ย่อมหมายความว่ามีช่องโหว่สำหรับการถูกโจมตีหรือข้อมูลที่หลุดรั่วไหลออกไปด้วย จำได้ไหมคะว่าก่อนหน้านี้ไม่นานเคยมีกรณีที่ลำโพงเอคโค่เกิดเข้าใจคำสั่งผิด และแอบบันทึกบทสนทนาของคู่สามี-ภรรยาและส่งออกไปให้เพื่อนที่อยู่ในรายชื่อติดต่อโดยที่เจ้าตัวไม่ระแคะระคาย แม้ว่าในกรณีนั้นจะไม่เกิดความเสียหายใหญ่หลวง แต่ความเป็นส่วนตัวภายในบ้านก็ได้ถูกทำลายไปภายในช่วงเวลาไม่กี่นาที

ยกตัวอย่างอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ภายใต้ไลน์เอคโค่ที่จะว่ามีประโยชน์ก็มี จะน่ากลัวก็ใช่ ก็คือเอคโค่ ลุค กล้องอัจฉริยะที่ผู้ใช้สามารถไปยืนข้างหน้าเพื่อให้กล้องถ่ายภาพการแต่งตัวในแต่ละวัน และให้คะแนนเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหรือให้คำแนะนำว่าจะต้องแต่งตัวอย่างไรจึงจะดีที่สุด ลำพังแอบอัดเสียงออกไปก็น่ากลัวแล้ว อุปกรณ์นี้มาพร้อมกล้องที่เราไม่มีทางรู้เลยว่ามันกำลังทำงานอยู่หรือไม่ ถึงแม้อเมซอนจะย้ำว่าการเปิด-ปิดกล้องจะมีตัวบ่งชี้ให้เรารู้ได้ หรือเราสามารถปิดกล้องหรือลำโพงได้ตามต้องการ แต่ผู้ใช้ก็คงไม่มีทางนิ่งนอนใจหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่ดี คล้ายๆ กับการที่ทุกวันนี้ซู่ชิงต้องมีเทปแผ่นเล็กๆ ปิดไว้ที่กล้องเว็บแคมของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กตลอดเวลา เพราะกันไว้ยังไงก็ดีกว่าแก้จริงไหมคะ

ในวันที่อุปกรณ์ทั้งหมดของเราเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้และปัญญาประดิษฐ์ก็เก่งขึ้นเรื่อยๆ ความเสี่ยงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลก็จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกัน ดังนั้น อเมซอนซึ่งเดิมทีก็ไม่ได้มีนโยบายที่แข็งแกร่งสักเท่าไหร่อยู่แล้ว หากต้องการจะครองทุกห้องของบ้านให้สำเร็จก็จะต้องทำให้ผู้ใช้เชื่อมั่นให้ได้ก่อนว่าอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกจะไม่แปรพักตร์ไปเป็นหนอนบ่อนไส้อยู่ในบ้านตัวเอง

อเมซอนไม่ใช่ยักษ์ใหญ่เพียงรายเดียวที่กระโดดเข้ามาในตลาดนี้ และจะว่าไปยอดขายลำโพงอัจฉริยะเอคโค่ก็ยังเป็นรองลำโพงอย่างกูเกิลโฮมอยู่ กูเกิลจะมาแก้เกมด้วยไม้ไหน สปอตไลต์เตรียมส่องไปที่นั่นเป็นที่ต่อไปค่ะ