ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 สิงหาคม - 6 กันยายน 2561 |
---|---|
เผยแพร่ |
เศรษฐกิจ
สับไพ่ โยกย้ายข้าราชการ
3 สูตร 3 กระทรวง จะปรี๊ดหรือจี๊ด
ลุ้นหลังเลือกตั้ง ได้เห็นผลงาน!!
เดือนสิงหาคมปีนี้ สำหรับข้าราชการระดับสูงในกระทรวงเศรษฐกิจ คงเป็นเดือนแห่งความจดจำไปอีกนาน หลังมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ทยอยเห็นชอบรายชื่อการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดกระทรวงคมนาคม
ดังนั้น ตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา จะเห็นเรื่องร้อน เรื่องดราม่า และเรื่องผิดหวัง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่นานๆ จะได้เห็นสักครั้ง
ที่เพิ่งผ่านมาสดๆ ร้อนๆ เมื่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจรที่จังหวัดชุมพร มีมติแต่งตั้งโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงในสังกัดกระทรวงคมนาคมรวดเดียว 9 ตำแหน่ง
ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของประเทศไทยทั้งสิ้น
และเป็นชื่อที่พลิกโผ เริ่มจากตำแหน่งปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ที่จะต้องเข้าไปแทนที่ ‘ชาติชาย ทิพย์สุนาวี’ ปลัดกระทรวงคนปัจจุบัน ที่จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้
ปรากฏผู้ครองตำแหน่งคือ ‘ชัยวัฒน์ ทองคำคูณ’ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และให้ ‘สราวุธ ทรงศิวิไล’ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ไปเป็นผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจรแทน
นอกจากนี้ยังมีการโยกย้ายให้ ‘ธานินทร์ สมบูรณ์’ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม
โดยให้ ‘อานนท์ เหลืองบริบูรณ์’ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ไปเป็นอธิบดีกรมทางหลวงแทน
‘สนิท พรหมวงษ์’ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ให้ไปเป็นรองปลัดกระทรวงคมนาคม
และให้ ‘พีระพล ถาวรสุภเจริญ’ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นอธิบดีกรมการขนส่งทางบกแทน
‘จิรุตม์ วิศาลจิตร’ อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ให้เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม
และให้ ‘สมศักดิ์ ห่มม่วง’ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ไปเป็นอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) แทน
ขณะที่ ‘อัมพวัน วรรณโก’ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ไปเป็นอธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) แทน ‘ดรุณ แสงฉาย’ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ที่จะเกษียณอายุราชการ 30 กันยายนนี้
ชื่อที่ออกมาพร้อมกับเสียงแว่ว เพราะมีผู้ใหญ่ใจดีระดับรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีเป็นปลื้มกับผลงานที่ผ่านมา แถมคุยภาษาเดียวกันเกี่ยวกับการทำงาน และสะพัดจะมีผู้บริหารบางคนเตรียมยื่นใบลาออก!! ตามด้วยสะพัดนายอาคมต้องออกโรงเรียกมากล่อมยับยั้งไม่ให้ลาออก!!!
เดิมนั้น ชื่อปลัดกระทรวงคมนาคมคนใหม่ไปอยู่ที่นายธานินทร์ เนื่องจากเป็นผู้ที่สามารถเดินหน้าโครงการเมกะโปรเจ็กต์ตามนโยบายรัฐบาลไปได้สำเร็จ
ไม่ว่าจะเป็นการเดินหน้าก่อสร้างโครงการทางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายพัทยา-มาบตาพุด มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี รวมถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ตอนที่ 1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร จนการก่อสร้างคืบหน้าไปกว่า 28% และกำหนดเสร็จเดือนตุลาคมนี้
เช่นเดียวกับนายพีระพล เป็นอีกชื่อตัวเต็ง เพราะนั่งรองปลัด และถือว่าเป็นผู้อาวุโสที่จะขึ้นเป็นปลัดได้
ส่วนผู้บริหารอื่นๆ แรกๆ ก็ออกอาการไม่พอใจ ใช้ไลน์สื่อสาร พิมพ์ข้อความ “หลุดพ้น ปล่อยวาง” แต่ถึงตอนนี้ ทุกเสียงก็เงียบหายไป
สำหรับกระทรวงคมนาคม ภาระหน้าที่สำคัญที่ผู้บริหารทุกคนจะต้องช่วยกันผลักดันหลังจากเข้ารับตำแหน่งคือ โครงการภายใต้แผนปฏิบัติการด้านคมนาคมขนส่ง หรือแอ๊กชั่นแพลน อาทิ โครงการที่ยังไม่ได้เริ่มลงมือก่อสร้าง ทั้งรถไฟทางคู่อีก 9 เส้นทาง วงเงิน 398,383.25 ล้านบาท เช่น ช่วงชุมพร-สุราษฎร์ธานี ช่วงสุราษฎร์ธานี-สงขลา ช่วงหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ช่วงขอนแก่น-หนองคาย ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี เป็นต้น
รวมถึงส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าอีกหลายเส้นทาง เช่น รถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) สายสีส้ม (ตะวันตก) ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-บางขุนนนท์ รถไฟชานเมือง รถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน คือ สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เส้นทางกรุงเทพฯ-ระยอง พาดผ่านพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ยังมีรถไฟไทย-ญี่ปุ่น หรือรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน อีกทั้งการพัฒนาท่าเรือ รวมถึงสนามบินต่างๆ ก็ยังจะต้องเดินหน้าต่อเนื่องอีกมาก
ซึ่งได้รับการยืนยันจากนายสมคิด โยกย้ายครั้งนี้เป็นไปตามความเหมาะสม และงานที่ทำอยู่ไม่มีสะดุดอย่างแน่นอน
เกือบอีกสัปดาห์ ที่กระทรวงพาณิชย์ ก็เกิดการพลิกโผ เมื่อมติ ครม.วันที่ 14 สิงหาคม ได้โยก ‘บุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร’ อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นปลัดกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ แทน ‘นันทวัลย์ ศกุนตนาค’ ที่จะเกษียณราชการปีนี้
พร้อมโยก ‘บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์’ รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
โยก ‘วิชัย โภชนกิจ’ รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมการค้าภายใน
และวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ที่พลิกโผ เพราะเดิมนั้นชื่อบรรจงจิตต์เต็งหนึ่งมาตลอด เพราะพร้อมในเรื่องการผ่านงานในประเทศ นอกประเทศ และมีอาวุโสตรงตามธรรมเนียมของกระทรวงพาณิชย์เคยปฏิบัติมา แม้จะมีอายุการทำงานก่อนเกษียณ 1-2 ปี เหมือนปลัดกระทรวงที่ผ่านมา
จึงเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ครั้งก่อนการตั้งปลัด ที่ปลัดกระทรวงจะมีเวลาทำงานก่อนเกษียณเกิน 4 ปี
ขึ้นมาอีกสัปดาห์ เป็นจุดของเสียงฮือฮาอย่างหนัก เมื่อมติ ครม. 7 สิงหาคม โยก ‘กุลิศ สมบัติศิริ’ อธิบดีกรมศุลกากร ไปนั่งเป็นปลัดกระทรวงพลังงาน ต่อจาก ‘ธรรมยศ ศรีช่วย’ ปลัดกระทรวงพลังงานคนปัจจุบัน เรียกว่าเป็นการแต่งตั้งแบบฟ้าแลบ ที่คนถูกตั้งรู้ตัวก่อนล่วงหน้าเพียง 2 วัน
ดังนั้น ที่กระทรวงการคลัง เมื่อโยกนายกุลิศมาพลังงานแล้ว ครม.ก็โยกคนคลังในครั้งนี้ด้วย คือ กฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต เป็นอธิบดีกรมศุลกากร
‘พชร อนันตศิลป์’ อธิบดีกรมธนารักษ์ เป็นอธิบดีกรมสรรพสามิต
‘อำนวย ปรีมนวงศ์’ รองปลัดกระทรวง เป็นอธิบดีกรมธนารักษ์
‘ยุทธนา หยิมการุณ ‘ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองปลัดกระทรวง
และ ‘แพตริเซีย มงคลวนิช’ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การจัดเก็บภาษี กรมสรรพากร เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวง
ที่น่าสังเกตโปรไฟล์ปลัดพลังงานคนใหม่ เพียงอายุ 55 ปี ได้ชื่อว่ามีความคุ้นเคยในแวดวงงานที่เกี่ยวข้องกับพลังงานอย่างดี จึงมองว่าเหมาะกับภารกิจใหม่การทำงานแบบบูรณาการร่วมกันระหว่างกระทรวงพลังงานและคลัง โดยกระทรวงพลังงานยังมีงานคงค้างที่จะสะสางอีกมาก เช่น กระจายการผลิตไฟฟ้าไปสู่ภาคประชาชน จัดการในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี บริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานทดแทน และเรื่องการประมูลแหล่งก๊าซธรรมชาติ
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ถูกตั้งข้อสังเกต ผังโยกย้าย เพื่อรองรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า!!
ซึ่งต้องติดตามใกล้ชิด ท้ายสุดแล้ว ผลจากโยกข้ามห้วย ข้ามขั้นอาวุโส จะได้งานหรือเสียงาน
ไม่นานเกินรอ…ชัดเจน