ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 17 - 23 สิงหาคม 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศอินโดจีน |
เผยแพร่ |
ดานัง เมืองใหญ่อันดับ 3 ของเวียดนาม ที่มีประชากรมากถึง 1 ล้านคน ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแห่งหนึ่งของประเทศ ควบคู่ไปกับการเป็นแหล่งผลิตสินค้าออกหลายต่อหลายอย่าง พะยี่ห้อ “เมด อิน เวียดนาม” แข่งกับ “เมด อิน ไชน่า” ให้ทึ่งกันอยู่ในเวลานี้
“เหวียน บา ฮอย” กำลังพยายามสร้างมิติใหม่ให้ดานังและเวียดนามโดยรวมอีกมิติ นั่นคือการเป็น “ศูนย์กลางนวัตกรรม” แห่งใหม่ของโลก
เขาเป็นเจ้าของ “เมกเกอร์ สเปซ” ศูนย์สร้างสรรค์ผลงานในแบบสหกรณ์ ที่ใครก็ตามที่มีแนวคิดสร้างสรรค์สามารถเข้ามา ทดลองประดิษฐ์คิดค้นและทดสอบผลงานของตนได้ที่นี่
ผลลัพธ์ในบั้นปลายคือ นวัตกรรมใหม่ๆ หลายๆ อย่างที่นำเสนอขายออกไปทั่วภูมิภาคในเวลานี้
นักศึกษามหาวิทยาลัยสามารถมาที่นี่เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับสมการเธอร์มัล หรือสร้างสรรค์เครื่องดนตรี ตามแนวคิดตัวเองได้ภายใน 2 ชั่วโมง
หรือใครก็ตามที่มีแนวคิดพัฒนาอุปกรณ์สำหรับให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยซึ่งมีปัญหาสโตรก หรือเส้นเลือดในสมองแตก ก็สามารถมาทดลองทำและแก้ไขแนวคิดของตนได้ที่นี่
“ต้นแบบ” ที่ได้ คือจุดเริ่มของนวัตกรรมที่สามารถกลายเป็นกิจการและอุตสาหกรรมได้ในอนาคต
“เมื่อได้ยินเกี่ยวกับเทคโนโลยีล่าสุด ผมมักได้ยินเสมอมาว่า ถ้าไม่เป็นใครสักคนในเยอรมนีก็เป็นในสหรัฐอเมริกา ทำไมไม่เป็นจากเวียดนามบ้างล่ะ?”
นั่นคือแรงบันดาลใจของฮอยในการลงทุนเพื่อสร้างศูนย์นวัตกรรมแห่งนี้ขึ้นมาภายในอาณาบริเวณของมหาวิทยาลัยดานัง เมื่อปี 2015 และตอนนี้ประสบความสำเร็จขยายสาขาออกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ฮอยไม่ใช่คนดานัง พื้นเพเขาอยู่ที่จังหวัดกวางนัม ในหมู่บ้านชนบทเล็กๆ ชื่อบินห์ ลัน วอร์ด
“บ้านผมยากจน พ่อ-แม่เป็นครูแล้วก็ทำนาเป็นอาชีพเสริม เลี้ยงหมู รายได้ต่ำมากๆ” เขาบอกด้วยว่าย่านบ้านเกิดของเขา เรียกได้ว่ายากจนกันถ้วนหน้า
ฮอยเดินทางมาดานังเพื่อเรียนหนังสือ แล้วก็ทำงานหนักเพื่อหาเงินส่งกลับไปบ้าน
“ตอนเรียนผมหนักแค่ 38 กิโลกรัม เพราะทั้งทำงานทั้งเรียน ได้นอนแค่วันละ 4 ชั่วโมง เพื่อเรียนภาษาอังกฤษ เพราะอยากไปเรียนต่อในต่างประเทศ”
เขาสำเร็จการศึกษาปริญญาตรีด้านวิศวกรรมอิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กตริกจากมหาวิทยาลัยดานัง ข้ามฟากมาสำเร็จปริญญาโทด้านไมโครอิเล็กทรอนิกส์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) ที่ประเทศไทย แล้วเดินทางต่อไปทำงานในมิวนิก ประเทศเยอรมนี
ที่นั่น เขามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบ “แบล๊ก บ๊อกซ์” มันสมองอิเล็กทรอนิกส์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์
แต่มิวนิกไม่ใช่แหล่งเรียนรู้สุดท้ายของฮอย เขาเดินทางไปเรียนต่อจนได้ปริญญาเอกด้านไบโอเมดิคัล เอ็นจิเนียริ่ง-วิศวกรรมชีวะการแพทย์ จากมหาวิทยาลัยคาทอลิกแห่งอเมริกา ในวอชิงตัน
ก่อนเดินทางกลับบ้านอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยพลังในการรังสรรค์สังคมใหม่ให้กับประเทศ
“ดานัง” กำลังกลายเป็น “กรีนซิตี้” เมืองสีเขียวตามแรงผลักดันของรัฐบาลให้ได้ภายในปี 2025 เป็นเมืองที่ใช้รถยนต์ไฮบริด และใช้อุปกรณ์ทำน้ำร้อน น้ำอุ่นในหน้าหนาวด้วยพลังงานแสง
เป็นเมืองที่บริษัทอเมริกันมากกว่า 60 บริษัท รวมทั้งไอบีเอ็ม และไมโครซอฟท์ มองมาเพื่อแสวงหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ
ที่นี่ ฮอยกับคนหนุ่มสาวเวียดนามรุ่นใหม่ กำลังเค้นสมองมองหานวัตกรรมภายใต้ชื่อของตนเองอยู่อย่างเข้มข้น
บนผนังอาคารของ “เมกเกอร์ สเปซ” มีข้อความเรียบๆ ปรากฏอยู่เด่นชัดว่า “ดีไซน์ เดอะ ฟิวเจอร์”
พวกเขากำลัง “ออกแบบอนาคต” ทั้งของตัวเองและของประเทศชาติอยู่ในเวลานี้