วิเคราะห์โผทหาร : ‘บิ๊กป้อม’ จัด ‘บิ๊กตู่’ ตรวจ โค้งสุดท้าย นายพลอกหัก-ลูกรักพี่ใหญ่ จับตาคลื่นใต้น้ำ เขย่าเต็ง ‘แม่ทัพภาค 4-บิ๊กแดง’

รายงานพิเศษ

‘บิ๊กป้อม’ จัด ‘บิ๊กตู่’ ตรวจ

โค้งสุดท้ายโผทหาร

นายพลอกหัก-ลูกรักพี่ใหญ่

จับตาคลื่นใต้น้ำ

เขย่าเต็ง ‘แม่ทัพภาค 4-บิ๊กแดง’

 

ในระหว่างทางของโผโยกย้ายทหาร ก่อนที่จะถึงมือ รมว.กลาโหม และนายกรัฐมนตรี และนำขึ้นทูลเกล้าฯ นั้น ย่อมต้องมีแรงกระเพื่อมจากความเคลื่อนไหวในการชิงเก้าอี้กัน
ด้วยเพราะต่างคนต่างมีความหวัง และมั่นใจในแบ๊กอัพและคอนเน็กชั่นของตัวเอง
แม้ว่า ผบ.เหล่าทัพจะส่งบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารให้บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม 10 สิงหาคม แต่ก็ใช่ว่าทุกอย่างจะนิ่ง


แม้ พล.อ.ประวิตรจะยืนยันว่าโผทหารลงตัวแล้วเรียบร้อย ไม่มีปัญหา
แต่ในระหว่างที่บิ๊กเข้ พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์ ปลัดกลาโหม จะนำบัญชีโยกย้ายไปดำเนินการตามขั้นตอน ในส่วนของกรมเสมียนตรา ก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการ 7 เสือกลาโหม เพื่อลงนามในเอกสาร ก็อาจมีการเขย่าเล็กๆ ในบางตำแหน่ง
เพราะในบางตำแหน่งนั้น ได้มีการส่งชื่อลอยไว้ให้ พล.อ.ประวิตรพิจารณาว่าควรจะลงตำแหน่งไหน

เช่น บิ๊กอ้อม พล.อ.วีรชัย อินทุโศภน ผช.ผบ.ทบ. ลูกรักของ พล.อ.ประวิตร ว่าจะให้เป็นประธานที่ปรึกษา ทบ. หรือว่าให้ข้ามไปเป็นรอง ผบ.ทหารสูงสุด
ด้วยเพราะในระดับ ผบ.เหล่าทัพ ไม่ได้มองว่า พล.อ.วีรชัยจะไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุดได้ เพราะมีบิ๊กกบ พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี เสธ.ทหาร เป็นเต็งหนึ่งอยู่แล้ว

พล.อ.วีรชัย อินทุโศภน

หรือแม้แต่เก้าอี้ปลัดกลาโหม ก็มีบิ๊กณัฐ พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ รองปลัดกลาโหม เป็นเต็งหนึ่งอยู่แล้ว เพราะอาวุโสที่สุดในกลาโหม เนื่องจากรองปลัดกลาโหมทั้ง 4 คนเกษียณราชการหมด
แม้คนในกองทัพจะจับตามองกันก่อนหน้านี้ว่า ด้วยความเป็นลูกรัก 1 ใน 5 คนของ พล.อ.ประวิตร แล้ว พล.อ.วีรชัยจะได้ตำแหน่ง ผบ.ทหารสูงสุด หรือปลัดกลาโหม หรือไม่
แต่ พล.อ.ประวิตรก็ไฟเขียวให้ พล.อ.ณัฐขึ้นเป็นปลัดกลาโหม แม้จะเป็นเตรียมทหาร (ตท.) 20 และเกษียณกันยายน 2564 ไม่ได้ให้ พล.อ.วีรชัยที่เป็นรุ่นพี่ ตท.18 ข้ามมาเป็นปลัดกลาโหม ขัดตาทัพก่อน 1 ปีแต่อย่างใด
และไม่ได้มีการต่อรองกับบิ๊กต๊อก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผบ.ทหารสูงสุด เพื่อให้ พล.อ.วีรชัยข้ามไปเสียบยอดเป็น ผบ.ทหารสูงสุด 1 ปี ขัดตาทัพก่อนให้ พล.อ.พรพิพัฒน์ที่เกษียณกันยายน 2563 แต่อย่างใด

ในกองทัพบกและกองทัพไทย จึงถามไถ่กันอย่างกว้างขวางว่า พล.อ.วีรชัยไปอยู่ตรงไหน เพราะไม่มีชื่อใน 5 เสือ ทบ. อันสะท้อนว่าถูกจับตามองอย่างยิ่ง ในฐานะลูกเลิฟที่ใกล้ชิดบิ๊กป้อม
แต่ก็คาดกันว่า น่าจะเป็นประธานที่ปรึกษา ทบ. ครองอัตรา “พลเอกพิเศษ” หรืออัตราจอมพลเดิม เป็นการส่งท้ายก่อนเกษียณเท่านั้น เพราะจะว่าไปแล้ว เส้นทางเดินของ พล.อ.วีรชัยก็ไม่ได้เป็น “เส้นทางเหล็ก” ของคนที่จะขึ้นเป็นผู้นำกองทัพ

พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี

ทว่ากลับมีการปล่อยข่าวว่า พล.อ.ประวิตร และบิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. มีความเห็นไม่ตรงกัน เพราะใครๆ ก็เชื่อว่า พล.อ.ประวิตรก็น่าจะช่วยให้ พล.อ.วีรชัยได้เป็นเบอร์ 1 ที่ไหนสักแห่ง
สายข่าวใกล้ชิด พล.อ.ประวิตรยืนยันว่า ไม่ได้ต่อรองหรือผลักดัน พล.อ.วีรชัยให้นั่งผู้นำกองทัพ เพราะมีตำแหน่งรองรับอยู่แล้ว
แต่ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประวิตรยืนยันว่า ไม่ได้มีการเปิดตำแหน่งพิเศษ เช่น ประธานที่ปรึกษากลาโหม เพื่อรองรับโผทหารที่ไม่ลงตัวแต่อย่างใด
“เราดูเรื่องความเหมาะสม ไม่ได้ดูว่าเป็นคนของใคร เด็กของใคร หรือสนิทกับใคร” พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
พล.อ.ประยุทธ์เผยว่า ตนเองติดตามเรื่องการจัดทำโผทหารอยู่ เพราะตนเองจะดูทั้งเรื่องประวัติการทำงาน ความรู้ ความสามารถ ให้เกิดความเป็นธรรมและเหมาะสม แต่ไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้ตำแหน่งจะไม่เก่ง เพราะขึ้นมาถึงระดับนี้ ถือว่าใช้ได้หมด
อันอาจสะท้อนได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่ได้ให้ พล.อ.ประวิตรทำโผทหาร ดูโผทหารแค่คนเดียว เช่นที่เคยพูดมาทุกปี
“เรื่องการแต่งตั้งโยกย้าย เป็นเรื่องของกลาโหมและนายกฯ” บิ๊กตู่ย้ำ
จนทำให้เกิดข่าวสะพัดถึงความเห็นที่ไม่ตรงกันในบางตำแหน่งของน้องเล็ก พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร พี่ใหญ่

พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์

แต่ก็รู้กันดีว่า พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตร นั้นคุยกันทุกวัน แม้จะไม่ได้เห็นหน้า
โดยเป็นที่รู้กันว่า สไตล์ พล.อ.ประวิตร จะให้คะแนนเรื่องความใกล้ชิด ความสัมพันธ์ส่วนตัวมากหน่อย แถมใจดี ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จะมีเหตุผลซักค้านมากกว่า ในบางตำแหน่ง บางคน
แถมทั้ง พล.อ.ประวิตรก็ไม่สบายจากอาการอาหารเป็นพิเศษ จนถูกจับตามองว่ามีผลในการต่อรองหรือไม่ เพราะไม่สบายครั้งนี้ นานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว
ยิ่งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ลงมาดูแลโผทหารเอง ที่ก็อาจทำให้ พล.อ.ประวิตรมีอาการน้อยใจบ้าง
แต่ทุกกระแสข่าวก็ถูกสยบเพราะ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ยังคงพูดคุยกันตามปกติพี่น้อง
“คนไหนที่ไม่ได้อยู่ในไลน์ สื่อก็อย่าไปเอาชื่อมาเป็นแคนดิเดต เพราะจะทำให้เขามีความหวัง” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว เพราะจะตามมาด้วยการวิ่งเต้น และกองทัพวุ่นวาย

พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ

แม้แต่ในส่วนของทหารเรือ ที่สื่อยังจับตามองกันว่า บิ๊กตุ๋ย พล.ร.อ.พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสธ.ทร. จะพลิกกลับมาแซงโค้ง บิ๊กลือ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ รอง ผบ.ทร. ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทร. หรือไม่
แต่ทว่าความจริงแล้ว ไม่ใช่สื่อจับตา แต่เกิดจากทหารเรือในกองทัพจับตากัน เพราะระดับห้าฉลาม หรือพลเรือเอก ก็ล้วนมีสิทธิ์เป็นแคนดิเดตทั้งสิ้น แถมทั้งมีกองเชียร์ในหมู่ทหารเรือด้วยนั่นเอง
แถมทั้งในอดีตก็มีรายการพลิกโผเกิดขึ้นในการแต่งตั้ง ผบ.ทร. มาแล้ว เช่น ตอนที่บิ๊กยุ้ย พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง ผช.ผบ.ทร. ได้รับการเสนอชื่อเป็น ผบ.ทร. แต่ที่สุดกลับต้องแก้โผมาเป็นบิ๊กณะ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ
แม้จะรู้กันดีว่า บิ๊กนุ้ย พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. เสนอชื่อ พล.ร.อ.ลือชัย เป็น ผบ.ทร.คนใหม่ แทนแน่นอนก็ตาม แต่ดูเหมือน พล.ร.อ.พิเชฐก็ยังคงตั้งความหวัง
ขณะที่คาดว่าบิ๊กนวล พล.ร.อ.นวพล ดำรงพงศ์ ผช.ผบ.ทร. จะถูกส่งข้ามไปเป็นรอง ผบ.สส. ขณะที่ในที่สุด พล.ร.อ.พิเชฐอาจถูกส่งไปเป็นรองปลัดกลาโหม แยกทางกับ พล.ร.อ.ลือชัย เพื่อน ตท.18 แต่หากรอมชอม ก็ให้อยู่เป็นรอง ผบ.ทร. รอเกษียณ

พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ

ความวุ่นวายที่เกิดจากโผโยกย้ายทหาร มีเกิดขึ้นในทุกฤดูกาล มากน้อยตามจำนวนตำแหน่งสำคัญที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง ยิ่งครั้งนี้ เปลี่ยนทั้งปลัดกลาโหม ผบ.สส. ผบ. 3 เหล่าทัพ รวมทั้งระดับแม่ทัพภาค
ที่ยังคงจับตามองกันว่า ในที่สุดแล้ว บิ๊กตี๋ พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 จะได้เป็น ผช.ผบ.ทบ. หรือไม่ หรือโดนปาดหน้า เพราะมีแคนดิเดต ผช.ผบ.ทบ. หลายคน
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ที่ พล.อ.เฉลิมชัยเสนอชื่อ พล.ท.วิจักขฐ์ เป็น ผช.ผบ.ทบ. ก็เพราะเป็นแม่ทัพภาคที่ 3 มาแล้ว 2 ปี ถือว่าอาวุโสในหมู่แม่ทัพภาค
จากสถิติ เก้าอี้ ผช.ผบ.ทบ. มักจะตกเป็นของแม่ทัพภาคที่ 1 จะได้สิทธิ์มานั่งครองก่อนเลย เพราะกองทัพภาคที่ 1 เป็นขุมกำลังรบ ขุมกำลังปฏิวัติ คุมกำลังกลางกรุง
แต่หากเก้าอี้ ผช.ผบ.ทบ. ว่าง 2 ตัว ก็จะเป็นโอกาสของแม่ทัพภาคที่ 2 ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ที่เทียบเท่าแม่ทัพภาคที่ 5 แม่ทัพภาคที่ 4 แม่ทัพภาคที่ 3 และเจ้ากรมฝ่าย เสธ.ฝ่ายอำนวยการ และ ผบ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (ผบ.นปอ.) ที่เทียบเท่าแม่ทัพภาคที่ 6 ตามลำดับ
รวมทั้ง ผบ.หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน (ผบ.นรด.) ที่เทียบเท่าแม่ทัพภาคที่ 7 ที่คุมกำลังนักศึกษาวิชาทหาร หรือ ร.ด. เป็นแสนคน และทหารในกองบัญชาการต่างๆ รวมทั้งกองพัน นรด.
โดยมีนายทหารที่ถูกเรียกว่าเด็กบิ๊กป้อม น้องรัก ลูกเลิฟ หรือขาประจำบ้าน ร.1 รอ. ลุ้น แต่เก้าอี้มีน้อย จึงต้องมีคนอกหัก
ขณะที่บิ๊กเป้ง พล.ท.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์ รอง เสธ.ทบ. แห่ง ตท.19 ที่จะขึ้นมาเป็น เสธ.ทบ.คนใหม่นั้น เป็นคนเก่งของฝ่ายยุทธการ เพราะคนที่จะเป็น เสธ.ทบ. เป็นแม่บ้าน ทบ. คิดวางแผนให้กองทัพบก ควรจะต้องโตมาจากกรมฝ่ายเสนาธิการ มากกว่าแม่ทัพภาค
แม้ว่าบิ๊กชู พล.ท.ชูชาติ หนองบัว รอง เสธ.ทบ. อีกคน ก็เป็นคนเก่งและโตมาจากกรมยุทธการทหารบก แถมเป็น ตท.20 เพื่อนของ พล.อ.อภิรัชต์ ว่าที่ ผบ.ทบ. ด้วยก็ตาม แต่ พล.อ.อภิรัชต์คงไม่อยากให้ถูกมองว่า ตท.20 ยึดกองทัพบก โดยเฉพาะห้าเสือ ทบ. จนมีข่าวว่าถูกส่งชื่อมาชิงเก้าอี้ ผอ.สำนักนโยบายและแผนกลาโหม (ผอ.สนผ.กห.) หรือที่เรียกกันว่า เสนาธิการกลาโหม

พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท

แม้แต่ในชายแดนภาคใต้ ที่แม้จะมีข่าวว่า บิ๊กเจี๊ยบ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. เสนอชื่อบิ๊กเดฟ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพน้อยที่ 2 ขึ้นเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เพราะเติบโตมาตามไลน์ แถมเป็น ตท.20 เพื่อนร่วมรุ่นของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผช.ผบ.ทบ. ที่คาดว่าจะขึ้น ผบ.ทบ. ด้วย
แต่ก็เกิดกระแสต่อต้านในพื้นที่ โดยมีการทำใบปลิวโจมตีกันเกิดขึ้น เพราะยังมีรองแม่ทัพภาคที่ 4 อีกหลายคนที่เหมาะสม ซึ่งงานนี้ไม่ใช่แค่ทหารในกองทัพภาคที่ 4 ถูกสงสัยเท่านั้น แต่พลเรือนที่ทำงานร่วมกับทหารในภาคใต้ก็ถูกจับตามองเช่นกัน
จนทำให้เกิดกระแสข่าวลือเรื่อง “ตาอยู่” จะข้ามจากกองทัพภาคอื่น ลงมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 เลยทีเดียว หรืออาจมีรองแม่ทัพภาคที่ 4 บางคน ได้กลายเป็นตาอยู่
ใบปลิว ไม่ใช่มีแค่ในชายแดนใต้ แต่ในเมืองกรุงก็มี แต่เป็นไปตามยุคสมัย เช่น ใบปลิวอิเล็กทรอนิกส์ หรือมาในรูปแบบของข้อความส่งต่อกันทางไลน์
โดยมีการพุ่งเป้าไปที่บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ที่คาดว่าจะเป็น ผบ.ทบ.คนใหม่ ด้วยการนำข้อมูลต่างๆ มาประมวล และเชื่อว่า ในที่สุด พล.อ.อภิรัชต์จะไม่ได้เป็น ผบ.ทบ.

แต่ทว่าข้อมูลที่ถูกแชร์กันนั้น เป็นข้อความที่เกิดจากการบิดเบือนและความไม่รู้เกี่ยวกับ พล.อ.อภิรัชต์ ทั้งเรื่องการได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ทม.รอ.) และการไปฝึกหลักสูตรต่างๆ ในห้วงที่ผ่านมา

พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์

ด้วยเพราะเป็นข้อมูลไม่อาจจะกล่าวถึงลงไปในรายละเอียดได้ จึงทำให้กระแสข่าวลือต่างๆ ยังคงคลอกระแสมาตลอด
อีกทั้ง พล.อ.อภิรัชต์ก็มีชื่ออยู่ในแบล๊กลิสต์ของคนเสื้อแดง ตั้งแต่เป็น ผบ.ร.11 รอ. และฝ่ายต่อต้าน คสช. อยู่แล้ว จึงทำให้มีการแพร่สะพัดข่าวลือนั้น
แม้ว่าปกติ พล.อ.อภิรัชต์จะทำหน้าที่สำคัญตลอดในห้วงที่ผ่านมา จนปัจจุบัน รวมถึงการควบคุมการฝึกหลักสูตรการสร้างทหารแกร่ง ที่ทั้งทหารบกจากกองทัพภาคที่ 1 และหน่วยกำลังรบ ทหารเสือราชินี หน่วยซีล และหน่วยอากาศโยธิน และตำรวจ กว่า 200 นายกำลังฝึกกันอยู่
แต่จะเห็นได้ว่า พล.อ.อภิรัชต์ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนิ่งสงบ แล้วรอให้เวลาเป็นคำตอบในอนาคตอันใกล้นี้

 

ท่ามกลางการจับตามองว่ากองทัพบกจะนำร่องกองทัพไทยในการเปลี่ยนโฉมทหาร เปลี่ยนโฉมกองทัพ ในหลายๆ ด้าน ทั้งความเข้มแข็ง แข็งแกร่งของร่างกาย จิตใจ และความสมาร์ต การแต่งกายแบบหัวจรดปลายเท้า โดยที่ พล.อ.อภิรัชต์ทำเป็นตัวอย่างให้ในทุกเรื่องอยู่แล้ว
กระแสข่าวลือต่างๆ จึงถือเป็นบททดสอบความนิ่ง แข็ง แกร่ง ของ พล.อ.อภิรัชต์ ก่อนที่จะแบกรับภาระอันหนักอึ้งไว้บนบ่า ในอีกไม่ช้านี้
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่เข้มข้น ในยุคเปลี่ยนผ่าน…