กินสมุนไพรอะไร ถึงช่วยเปลี่ยนวัยได้ ? หรืออยากเพิ่มฮอร์โมนเพศชายต้องไปหามา!

สมุนไพรเพื่อสุขภาพ /  โครงการสมุนไพรเพื่อการพึงพาตนเอง มูลนิธิสุขภาพไทย www.thaihof.org

 

มหกรรมสมุนไพรและอาหาร

กับเศรษฐกิจชีวภาพ

 

เหมือนนัดหมายรายปีในช่วงปลายสิงหาคมชนต้นกันยายน มิตรรักแฟนพันธุ์แท้สมุนไพรได้โอกาสเที่ยวงานสมุนไพร
เพียงแต่ปีนี้หน่วยงานหลักภาครัฐจัดงาน 100 ปีการสาธารณสุขไทยได้ผนวกเอางาน “มหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 15” ไปแสดงแล้วเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
เวลาที่ชาวสมุนไพรเคยนัดหมายไว้ก็พลอยจะล่วงไป
หน่วยงานภาคประชาสังคม มูลนิธิ สมาคม กลุ่ม ชมรม และภาคเอกชนได้ชวนภาครัฐบางแห่งนัดหมายจัดงานใหญ่ “สมุนไพรและอาหาร ครั้งที่ 3” ขึ้นให้หายคิดถึงกัน
จัดงานนี้ให้คล้องถึงนโยบายรัฐที่ให้ความสำคัญกับภาคประชาสังคม ชุมชน และการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ด้วยพลัง Bioeconomy หรือ เศรษฐกิจชีวภาพ
ต้องบอกว่าอินเทรนด์กับกระแสโลกอย่างยิ่ง
เพราะประเทศชั้นนำของโลกกำลังมุ่งมาทางนี้ ระดมวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจชีวภาพ ซึ่งเมืองไทยมีอยู่เต็มเปี่ยมทั้งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และพรั่งพร้อมด้วยความหลากหลายทางชีวภาพที่รวมเอาทั้ง พืช สัตว์ แมลง จุลินทรีย์ เห็ด รา ฯลฯ ที่โดดเด่นไม่แพ้ใครในโลก
ขอเน้นย้ำให้การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพไปถูกทิศถูกทาง
ดังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีคนปัจจุบัน เคยกล่าวว่า
“ในเรื่อง Bioeconomy เรามีเป้าหมายร่วมกันเช่นเดียวกับทุกประเทศทั่วโลก โดยให้ความสำคัญกับศักยภาพและคุณค่าของมนุษย์ การรักษาสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร ความอยู่ดีมีสุขของผู้คนในสังคม รวมถึงเปลี่ยนแนวคิดจากการแข่งขันให้เป็นความร่วมมือและเครือข่ายมากขึ้น เปลี่ยนการบริโภคเหลือทิ้งเหลือขว้างให้เป็นการบริโภคแต่พอดี ตลอดจนให้ตระหนักถึงการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติในฐานะที่เป็นแหล่งของพลังงานไม่ใช่เป็นเพียงแค่ทรัพยากรที่ใช้แล้วหมดไปเท่านั้น”

พอจะสรุปการพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพที่สังคมไทยมีศักยภาพได้สัก 5 เรื่อง (อาจมากกว่านี้) ได้แก่
1) การเกษตรอย่างยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหาร ตามเป้าหมายหนึ่งของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals)
2) ทางการแพทย์หรือสุขภาพที่พัฒนาจากสมุนไพร รวมถึงจุลินทรีย์และเห็ด
3) ด้านพลังงานชีวภาพ และถ้าเรานับเอาพลังงานแดด ลม คือชีวภาพธรรมชาติ ประเทศไทยก็มีอยู่พร้อม และในระดับโลกยังพัฒนาพลังงานทดแทนในอุปกรณ์ขนาดเล็ก (แบตเตอรี่ชีวะ) การผลิตพลังงานจากจุลินทรีย์สำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ด้วย
4) การประมงที่ยั่งยืน ท้องน้ำและทะเลไทยมีความหลากหลายทางชีวภาพสามารถนำมาใช้ทางเศรษฐกิจแบบยั่งยืนได้
และ 5) จุดโดดเด่นมากๆ คือ การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ จากเหนือจรดใต้ ตะวันออกถึงตะวันตก เมืองไทยมากด้วยวัฒนธรรม ประเพณี อาหารท้องถิ่น สวนผลไม้ และที่สุดยอดคือน้ำใจคนไทย ทำให้การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นพลังเศรษฐกิจชีวภาพได้สบายๆ
ทั้ง 5 ข้อนี้ เราพยายามนำมาให้ชม ชิมและช้อปในงาน เพื่อให้เห็นว่าชุมชนและชาวบ้านได้ช่วยกันกระตุ้นเศรษฐกิจชาติ เริ่มจากการเกษตรอย่างยั่งยืนและความมั่นคงทางอาหารนั้น
นอกจากผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์มากมายหลายสายพันธุ์ทั้งข้าวเจ้าข้าวเหนียวแล้ว แป้งข้าวพื้นเมืองกำลังเป็นวัตถุดิบมาแรงแทนที่แป้งข้าวสาลี
เกษตรกรหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งได้แปรรูปแป้งข้าวพื้นเมืองมาสู่ “พิซซ่าข้าวไทย” รสอร่อย นุ่มกรอบ
เคยแอบฟังคุณแม่ท่านหนึ่งยืนรอหน้าเตาอบเล็ก เพื่อซื้อนำไปให้ลูกที่บ้านกิน เพราะเด็กน้อยนี้กินแป้งจากข้าวสาลีไม่ได้เนื่องจากอาการแพ้โปรตีนในข้าวสาลี ที่เรียกกันว่า โปรตีนกลูเตน
แป้งข้าวพื้นเมืองจึงเป็นอาหารจากความหลากหลายทางชีวภาพและด้วยฝีมือครัวไทยสามารถปรับแต่งเป็นพิซซ่าเลิศรส และผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่นชุมชนอีกมากมาย

ต้นตดหมูตดหมา

ที่จะมีให้ชมจุใจคอสมุนไพรตรงที่มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจัดเต็มในธีมสมุนไพรในอาหาร “กินเปลี่ยนวัย” ช่วยส่งเสริมสุขภาพและบรรเทาความรุนแรงของโรคต่างๆ
เช่น การกินพืชตระกูลขิงข่า ขมิ้นชัน ช่วยต้านการอักเสบ กินอบเชย มะขามป้อม ตรีผลาก็เข้าข่ายและช่วยต้านอนุมูลอิสระด้วย
ถ้ากินช่วยเพิ่มฮอร์โมนเพศชาย ควรเลือกกิน ตดหมูตดหมา ผักปลังขาว
ถ้าเพิ่มฮอร์โมนเพศหญิงก็ต้องลูกยอ และรากสามสิบ เป็นต้น
ถ้ากลุ่มผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องการกินสมุนไพรเพื่อเป็นการดูแลแบบผสมผสานกับการรักษาหลัก ตอนนี้ที่ฮิตมากๆ ก็สมุนไพรหนานเฉาเหว่ยหรือป่าช้าหมอง ที่มีรสขมจัดเป็นสรรพคุณลดน้ำตาลในเลือด ก็จะมีการแปรรูปสมุนไพรรสขมให้กินง่าย ให้ติดตามมาชิมกัน
แต่ถ้าพอทนรสขมไหวอาหารสมุนไพรมะระขี้นกหรือมะระจีนก็ช่วยลดน้ำตาลในเลือด
แต่ขอย้ำว่าผู้ที่เป็นเบาหวานการควบคุมอาหารการกิน การออกกำลังกาย คือพฤติกรรมสุขภาพที่ดีที่สุดในการดูแลสุขภาพ นอกจากนี้ยังมีอาหารสมุนไพรอีกมากมาย

นอกจากให้ความรู้การกินแล้ว มิตรจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคยกขบวนนำผลทดสอบอาหารจากนิตยสารฉลาดซื้อมาโชว์และตอบข้อสงสัย เช่น เรื่องสารกันบูดในขนมจีน ไขมันทรานส์ในโดนัท ตะกั่วและแคดเมียมในช็อกโกแลต ยาปฏิชีวนะในเนื้อสัตว์ เป็นต้น และเศรษฐกิจชีวภาพด้านพลังงานด้วยการจัดซุ้มสาธิตและสอนอบรมด้วยในการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในบ้านเรือนแบบต่างๆ (สอนฟรีเพราะนึกถึงบุญคุณได้แดดมาฟรีๆ)
สำหรับบู๊ธนิธิสุขภาพไทยองค์กรประสานงานก็ตั้งใจนำเอาสมุนไพรยาธาตุน้ำเปลือกอบเชยไปนำเสนอให้ผู้สูงวัยที่มักมีอาการท้องอืดเฟ้อและอาหารไม่ย่อยได้ชิมและใช้ และงานส่งเสริมการนวดไทยที่ขณะนี้มีคนพิการทางการเห็นมีความสามารถสูงสอบได้ใบประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยด้านการนวดไทยหลายสิบคน พูดแบบภาษาชาวบ้าน “หมอนวดตาบอดที่ได้ใบประกอบวิชาชีพ” จะไปสำแดงฝีมือศิลปะการนวดไทยด้วย
พวกเราอยากสร้างเศรษฐกิจและความภูมิใจในความหลากหลายทางชีวภาพ เชิญทุกท่านมาชมและให้กำลังใจกันในงาน “มหกรรมสมุนไพรและอาหาร ครั้งที่ 3” วันที่ 29 สิงหาคม ถึง 2 กันยายน 2561 นี้ที่ฮอลล์ 7-8 อิมแพ็คเมืองทองจ้า