“ฤดูกาลโยกย้าย” ใกล้เข้ามาแล้ว ตามโปรแกรม วันที่ 30 กันยายนของทุกปีจะเป็นวันสุดท้าย บังเอิญยิ่งว่า พ.ศ.2561 ผู้บัญชาการ 3 เหล่าทัพ “บก-เรือ-อากาศ” พร้อมนายทหารระนาบหัวแถว ที่เป็น “ตำแหน่งหลัก”

พร้อมอกพร้อมใจกันเกษียณอายุราชการแบบล้างกระดาน ยกแพ็กเกจ ไล่รายชื่อกันตั้งแต่

1. “พล.อ.เทพพงศ์ ทิพยจันทร์” ปลัดกระทรวงกลาโหม

2. “พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด

3. “พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท” ผู้บัญชาการทหารบก

4. “พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ” ผู้บัญชาการทหารเรือ

และ 5. “พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง” ผู้บัญชาการทหารอากาศ

แม้จะเป็นรัฐบาล ท.ทหาร มาจากปากกระบอกปืน “กรีน โพลิติกส์” ขนานแท้ ไม่น่าจะมีแรงกระเพื่อม หรือมีอะไรต้องห่วงใยแต่ประการใด แต่กลับเป็นว่า “บัญชีโยกย้ายฤดูกาล 2561” มีการเร่งคีย์ ตีจังหวะ ชงคำสั่ง รีบแต่งตั้งกันตั้งแต่ยังไม่ทันไร

“ผู้บัญชาการเหล่าทัพ” ได้ร่วมประชุมหารือ จัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปีนี้ ส่งรายชื่อกันรอบแรกตั้งแต่ไก่ยังไม่โห่ ลงตัวเรียบร้อยในเบื้องต้น ประกอบด้วย

1. “พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ” รองปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม

2. “พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี” เสนาธิการทหาร เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด

3. “พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์” ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บัญชาการทหารบก

4. “พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน” ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้บัญชาการทหารอากาศ

5. “พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์” รองผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ

ในส่วนหัวขบวนจำนวน 5 ที่นั่ง แชร์กันระหว่าง “ตท.18 กับ ตท. 20” ด้วยสัดส่วน 3 ต่อ 2 แยกในรายละเอียดคือ ตท.18 ประกอบด้วย ตำแหน่ง ผบ.สส., ผบ.ทร. และ ผบ.ทอ. ขณะที่ฝั่ง “ตท.20” ปลัดกระทรวงกลาโหม กับ ผบ.ทบ.

โผโยกย้ายคลอดรวดเร็วฉับไวกว่าฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายเมื่อปี 2559 ที่มีรายการลุ้นระทึกกันระหว่าง “บิ๊กเจี๊ยบ-พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท” ผช.ผบ.ทบ. ในขณะนั้น กับ “บิ๊กแกละ-พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร” เสนาธิการทหารบก ที่เป็นแคนดิเดต ซึ่งปรากฏว่าฝ่ายแรกเบียดแทรกเข้าป้าย ผบ.ทบ. โค้งสุดท้าย

ปีนั้น กว่าบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหาร 3 เหล่าทัพจะแต่งตั้งแล้วเสร็จ ก็ปาเข้าปลายเดือนสิงหาคมเข้าไปโน่น

การแต่งตั้งโยกย้ายทุกฤดูกาล เหล่าทัพที่ถูก “โฟกัส” มากสุดคือโผของกองทัพบก ปีนี้ก็เช่นเดียวกัน

“5 เสือ ทบ.” ลื่นไหลฉับไวดุจจรวดทางเรียบ นอกจาก “บิ๊กแดง” จะแรงฤทธิ์ตามคาดแล้ว

ระนาบ 5 เสือคนอื่นๆ ประกอบไปด้วย “พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์” เสนาธิการทหารบก ตท.20 ขยับเป็นรองผู้บัญชาการทหารบก

“ตู่น้อย-พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา” แม่ทัพภาคที่ 1 ตท.20 เป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก “พล.ท.ธีรวัฒน์ บุณยะวัฒน์” รองเสนาธิการทหารบก หนึ่งเดียวจาก ตท.19 เป็นเสนาธิการทหารบก และ “พล.ท.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ” แม่ทัพภาคที่ 3 ตท.18 ขยับนั่งผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

นอกจาก “5 เสือ ทบ.”แล้ว ระดับรองลงมาก็สะเด็ดน้ำ ลงตัวในทุกตำแหน่ง เช่น “พล.ท.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้” รองแม่ทัพภาคที่ 1 (ตท.22) เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 “พล.ท.ธรรมนูญ วิถี” (ตท.21) แม่ทัพน้อยที่ 1 เป็นรองเสนาธิการทหารบก

“พล.ต.ฉลองชัย ชัยยะคำ (ตท.20) รองแม่ทัพภาคที่ 3 เป็นแม่ทัพภาคที่ 3 “พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์” (ตท.20) แม่ทัพน้อยที่ 4 เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ระดับแม่ทัพภาคมีเพียง “พล.ท.ธรากร ธรรมวินทร” (ตท.18) คนเดียวที่ยังอยู่ในตำแหน่งเดิม แม่ทัพภาคที่ 2

 

ขั้นตอนต่อไป กระบวนการแต่งตั้งโยกย้าย ทาง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะนั่งหัวโต๊ะเรียกประชุม “สภากลาโหม” โดยเชิญผู้บัญชาการแต่ละเหล่าทัพทำการ “เคาะ” อีกครั้ง ซึ่งกำหนดโปรแกรมไว้เรียบร้อยแล้ว เป็นปลายเดือนกรกฎาคม

ดำเนินตาม “กฎเหล็ก” คือระเบียบกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยหมวดสภากลาโหม พ.ศ.2551 ที่แก้ไขปรับปรุงพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม ให้มีผลบังคับใช้ หลังประกาศยกเลิกระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยสภากลาโหม พ.ศ.2543 โดยสมาชิกสภากลาโหม ตามข้อ 4 ประกอบด้วย นายทหารโดยตำแหน่งหลักจำนวนหลายตำแหน่ง นอกจาก ผบ. แล้วยังมีระนาบรอง-เสธ.-ผู้ช่วย

การแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปี ใช้กลไกของมาตรา 35 เพื่อความกะทัดรัด ใช้แต่ตำแหน่งหลักของแต่ละเหล่า ที่วรรค 2-3 ระบุว่า

“การพิจารณาแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพลของสำนักงานปลัดกระทรวงและส่วนราชการในกองทัพไทย ให้ดำเนินการโดยคณะกรรมการที่ส่วนราชการแต่งตั้ง หนึ่งคณะ ประกอบด้วย”

1. “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม”

2. “ผู้บัญชาการทหารสูงสุด”

3. “ผู้บัญชาการทหารบก”

4. “ผู้บัญชาการทหารเรือ”

5. “ผู้บัญชาการทหารอากาศ”

6. “ปลัดกระทรวงกลาโหม” เป็นกรรมการและเลขานุการ เดิมทีมีอยู่ 6 คน

ซึ่งต่อมามีการแก้ไขเพิ่มเติมเป็น 7 ที่นั่ง โดยเพิ่ม “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม”

ว่ากันว่า ช่วงที่ปรับปรุง เพิ่ม “คณะกรรมการคนที่ 7” ขึ้นมาในตอนนั้น เป็นฝีมือของรัฐบาล “พลเรือน” ที่ไม่สามารถเข้าไปเกี่ยวดองข้องแวะบัญชีโยกย้ายนายทหารในแต่ละฤดูกาลได้ เนื่องจาก “ผบ.เหล่าทัพ” เรือ-อากาศ-บก ผนึกเสียงกันด้วยความเหนียวแน่น

แต่ละฤดูกาล ซีกการเมืองเจอแต่ความยากลำบาก ยุ่งยากใจ ล้วงโผไม่ได้ เลยวางแผนถ่วงดุลอำนาจ ด้วยการเติมโควต้า “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม” เข้าไปอีก 1 ที่นั่ง

“เพาเวอร์บาลานซ์” ร่วมด้วยช่วยกัน กับ “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม” และปลัดกระทรวงกลาโหม แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถกระทำได้ดังที่ใจต้องการ

คณะกรรมการชุดที่ว่า รัฐบาลทหารของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ยังนำมาใช้ในการโยกย้ายนายทหาร 3 เหล่าทัพอยู่

เพิ่มเติมโควต้ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผลดีเสียด้วยซ้ำ