สัพเพเหระหลังบอลโลก 2018 ปิดฉาก

จรัญ พงษ์จีน

ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว “ฟุตบอลโลก 2018” หรือ “ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2018” ที่ประเทศรัสเซียได้รับฉันทานุมัติให้เป็นเจ้าภาพ และถือเป็นรางวัลชีวิตครั้งสำคัญสุดอีกครั้งหนึ่ง ที่ได้เป็นหนึ่งในฐานะผู้เข้าชมจากจำนวน 90,000 คน ในสนาม “ลุชนีกี สเตเดี้ยม” ในกรุงมอสโก ในนัดชิงแชมป์ระหว่างทีมชาติ “ฝรั่งเศส” กับม้ามืด “โครเอเชีย” เมื่อเวลา 18.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ในวันอาทิตย์ที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา

นั่งแถว 3 เกือบติดขอบสนาม ระหว่างกองเชียร์ “ตราไก่” และ “ตาหมากรุก” เห็นนักเตะชั้นนำฝีเท้าระดับโลกตัวเป้งๆ เป็นๆ แต่ละคนใหญ่ยักษ์ไม่ใช่เล่น ผิดแผกแตกต่างไปจากฟุตบอลโลกครั้งก่อนๆ ที่ได้นั่งๆ นอนๆ ดูชมทางหน้าจอทีวี

ผลการแข่งขัน ดังที่ทราบ “ทีมฝรั่งเศส” คว้าแชมป์โลกไปครองเป็นสมัยที่ 2 ชนะ “โครเอเชีย” ไปด้วย 4 ต่อ 2 ประตู จริงๆ แล้วรูปเกมค่อนข้างสูสี จุดพลิกผันอยู่ที่ประตูที่ 2 ของ “ทีมตราไก่” ซึ่งกรรมการ “เนสเตอร์ ปิทาน่า” ชาวอาร์เจนตินา เป่าลูกโทษให้ในนาทีที่ 38

จังหวะที่บอลแฉลบไปโดนมือของ “อีวาน เปริซิช” ที่ตอนแรกไม่ให้ แต่เปลี่ยนใจหลังจากวิ่งไปชมภาพจากวีเออาร์ จากนั้นประตูของฝรั่งเศสเริ่มลื่นไหล ไปไกลถึง 4-1 ก่อนไล่มาเป็น 2 ต่อ 4 แต่ไล่ไม่ทัน

ลูกสำคัญนั้น อดีตตำนานลูกหนังดังหลายคนออกมาแสดงความคิดเห็น ตำหนิการทำหน้าที่ของท่านเปาชาวฟ้าขาว ประมาณว่า คงไม่เคยเล่นฟุตบอลมาก่อนแน่ๆ เพราะมือของเขาอยู่ในตำแหน่งปกติ ไม่มีการเคลื่อนไปข้างหน้า ไม่ใช่จุดโทษแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เกมมันจบไปแล้ว “ฝรั่งเศส” ผงาดคว้าแชมป์สมัยที่ 2 มาครองได้สำเร็จ หลังจากเคยคว้าแชมป์มาหนหนึ่งแล้วเมื่อปี 1998

“ฟุตบอลโลก 2018” ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ มี 32 ชาติทีมสุดท้ายเข้าแข่งขัน รวม 64 นัด เริ่มพันตูกันตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน เจ้าภาพ “รัสเซีย” ลงทุนไปมากมายมหาศาล เพื่อปรับปรุงสนามเมืองหลักๆ ให้เป็นสนามแข่งขัน

นอกจาก “มอสโก” แล้ว ยังมีเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, คาลินินกราด, วอลโกกราดโชชิ และอื่นๆ อีกหลายเมือง รวม 13 สนามด้วยกัน “ลุชนีกี สเตเดี้ยม” อลังการ จุผู้ชมได้มากที่สุด 90,000 คน ใช้แข่งขันมากที่สุด ทั้งวันเปิดสนาม ระหว่างทีมเจ้าภาพกับซาอุดีอาระเบีย -รอบ 16 – รอบ 8 ทีม – รอบตัดเชือก และวันปิดรอบชิงชนะเลิศ

“มอสโก” เมืองหลวงของประเทศรัสเซีย เนืองแน่นไปด้วยผู้คนจากทุกมุมเมืองทั่วโลก ที่เป็นทัพกองเชียร์ของแต่ละทีม แต่ไม่น่าเบื่อ เพราะเป็นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย

ที่พลาดไม่ได้ไปต้องให้ถึงรัสเซียคือ “จัตุรัสแดง” พร้อมโบสถ์วิหารเซนต์เบซิล และสุสานเลนิน ที่ถือเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั้งสิ้น

 

เหลือเชื่อมากๆ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เคยเดินทางไปรัสเซียมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่กี่เดือนก่อนที่ฟุตบอลโลกจะฟาดแข้ง “กรุงมอสโก” ยังเงียบเหงา ไม่มีวี่แววว่าจะรับมือการแข่งระดับเวิลด์คลาส จะมีผู้คนที่ไหนกันมาดูฟุตบอล ป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ไม่ค่อยจะพบเห็น ขนาดตระเวนตามศูนย์การค้าขนาดใหญ่เพื่อหาซื้อเสื้อฟุตบอลก่อนล่วงหน้าสักตัว กว่าจะเจอสักร้าน เลือดตาแทบกระเด็น

เพียงไม่กี่เดือน เมื่อถึงวันแข่งขัน รัสเซียเนรมิตทุกเมืองที่เป็นสนามฟาดแข้งได้มหัศจรรย์ หนังคนละม้วน ยอดเยี่ยมในทุกมิติ

อย่าว่าแต่เราๆ คนดูธรรมดาเลย ขนาด “จานนี อินฟานติโน” ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือประธานฟีฟ่า ยังเอ่ยปากชมเจ้าภาพรัสเซียว่าจัดการแข่งขันได้อย่างยอดเยี่ยมสมบูรณ์ ไม่มีที่ติ

“พูดได้เต็มปากเลย เป็นฟุตบอลโลกที่ดีที่สุด นับตั้งแต่มีการแข่งขันมาเลยก็ว่าได้ รัสเซียทำให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา พวกเขาให้หัวใจและรอยยิ้ม”

นอกจาก “กล่อง” ได้แก่คำเยินยอ ชื่นชมแล้ว ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย การแข่งขันสามารถทำเงินทะลุเป้า ตามรายงานของฟีฟ่าระบุว่า รายได้ทั้งหมดตก 6.1 พันล้านดอลลาร์จากการแข่งขันทุกแมตช์ สูงกว่าประมาณการไว้ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการขายสิทธิการถ่ายทอดสด การขายโฆษณา เพิ่มขึ้น และมีกำไรกว่าการแข่งขัน 4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งบราซิลเป็นเจ้าภาพ

จุดแข็งของ “ฟีฟ่า เวิลด์คัพ 2018” คือ บัตรประจำตัวผู้เข้าชมการแข่งขัน หรือ “FAN ID” ที่เจ้าภาพออกแบบขึ้นใหม่ สำหรับผู้เข้าชม จะต้องมีบัตรและถือเป็นเอกสารสำคัญสำหรับใช้ในการเข้าชมการแข่งขันตามสนามต่างๆ ผู้ชมต้องกรอกใบสมัครเพื่อรับ FAN ID หลังจากการซื้อตั๋วเข้าชมได้แล้ว เป็นบัตรลามิเนต ที่มีข้อมูลส่วนตัวและรูปภาพของผู้ถือบัตร

ชาวต่างชาติและบุคคลไร้สัญชาติสามารถเดินทางเข้ารัสเซียได้โดยใช้บัตรนี้ และไม่ต้องใช้วีซ่า โดยผู้ถือบัตรสามารถเดินทางเข้ารัสเซียได้ล่วงหน้า 10 วันก่อนที่จะมีการแข่งขัน และต้องเดินทางออกจากรัสเซียภายใน 10 วันหลังจากที่การแข่งขันนัดสุดท้ายจบลง

ผู้ถือบัตรยังได้รับสิทธิมากมาย ทั้งในการโดยสารรถไฟขบวนพิเศษระหว่างเมืองที่จัดการแข่งขัน และลดหย่อนภาษี

FAN ID ถือว่าเป็นเครื่องทุ่นแรงหนึ่ง ที่กำราบเหล่าอันธพาลลูกหนังที่ชอบก่อความวุ่นวายได้อยู่หมัด ไม่มีหือไม่มีอือ แม้กระทั่งกองเชียร์จากเมืองผู้ดี

นัดชิงระหว่าง “ฝรั่งเศส” กับ “โครเอเชีย” กองเชียร์ทั้ง “ตาหมากรุก” และ “ตราไก่” ต่างอยู่ในเกม

 

โฉบไปเรื่องการเมืองนิดหน่อย รัสเซียมี “วลาดิมีร์ ปูติน” ผูกขาดอยู่ในศูนย์อำนาจ ยึดเก้าอี้ประธานาธิบดีมายาวนาน ครั้งแรก 2 สมัย 8 ปี ระหว่างปี 2000-2008 ครบเทอมลดเพดานมาเป็นนายกรัฐมนตรี 4 ปี โดยดันลูกน้องขึ้นมาขัดตาทัพ เป็นประธานาธิบดีสืบแทน ตามกลไกรัฐธรรมนูญ

พอครบวาระ กลับมาลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัย เมื่อครบเทอม สมัครซ้ำอีกครั้ง เพิ่งจะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2018 เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการแก้รัฐธรรมนูญให้ดำรงอยู่ในตำแหน่ง 6 ปี จะครบวาระในปี 2024

สรุป “ปูติน” ผูกปีอยู่ในศูนย์อำนาจบริหารรัสเซีย รวมศิโรราบ 24 ปีเต็ม ในฐานะประธานาธิบดี 20 ปี ในฐานะผู้กำกับประธานาธิบดี 4 ปี

คิดว่าไง เมื่อนำไปเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์กับ “ประเทศประชาธิปไตยเต็มใบ” หยั่งสหรัฐอเมริกา ที่มี “โดนัลด์ ทรัมป์” เป็นประธานาธิบดี