ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 22 - 28 มิถุนายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | วิถีแห่งอำนาจ |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งอำนาจ เอี้ยก่วย / เสถียร จันทิมาธร
ท่าไม้ตาย สตรีชรา (144)
สตรีชราผู้นี้เป็นใคร บางคนที่เคยอ่านหนังสือ หรือเคยดูซีรี่ส์ชุด “มังกรหยก” ย่อมสามารถบอกได้ แต่ไม่ว่าหนัง ไม่ว่าหนังสือ มี “กระบวนการ” แตกต่างกัน
ขอให้เราทำความรู้จักกับ “สตรีชรา” ตามลำดับขั้น
นางเหลือบชำเลืองดูลำต้นไม้ซึ่งผูกอยู่ใต้เท้าเอี้ยก่วย ก๊วยเซียง สีหน้าปรากฏแววตื่นเต้นสงสัยอยู่บ้าง
“เราผู้เฒ่าเร้นกายในแดนเปลี่ยวร้างไม่พบแขกภายนอก พวกเจ้าไปเถอะ”
พูดพลางโบกมือ สุ้มเสียงเย็นยะเยือก ทั้งแหลมทั้งเล็ก ที่ปลายคิ้ว หางตาแฝงแววดุร้าย สตรีชรามีเค้าใบหน้าน่าพรั่นพรึง แต่ยังมีความงามหลงเหลือ แสดงว่าเมื่อวัยสาวต้องเป็นหญิงงามนางหนึ่ง นึกไม่ออกว่าเป็นผู้ใด
“ข้าพเจ้ามีสหายผู้หนึ่งได้รับบอบช้ำภายในต้องได้รับเลือดของ ‘จิ้งจอกวิเศษ 9 หาง’ ค่อยรักษาได้ ขอผู้อาวุโสแสดงความเมตตา”
สตรีชราแหงนหน้าหัวร่อฮาฮา เฮอะ เฮอะ
ในเสียงหัวร่อเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด อำมหิต “รับบอบช้ำภายในต้องช่วยชีวิตเขา วิเศษแท้ เหตุใดบุตรเรารับบอบช้ำภายใน ผู้อื่นกลับเห็นการตายโดยไม่ช่วยเหลือ”
เอี้ยก่วยบังเกิดความตื่นตระหนก ยิ่งสถานการณ์ถึงขั้นลงไม้ลงมือ ยิ่งตื่นตระหนก
ทั้ง 3 อยู่ห่างกันวาเศษ สตรีชราฟาดฝ่ามือแหวกอากาศ ปรากฏพลังความเย็นสายหนึ่งคุกคาม เอี้ยก่วยขยับแขนเสื้อเล็กน้อยสลายลมฝ่ามือที่นางผลักใส่ก๊วยเซียง
ส่วนลมฝ่ามือที่ผลักใส่มัน มันหาได้แยแสสนใจไม่
สตรีชรา, ความจริงไม่คิดทำร้าย เพียงคิดขับไล่ ดังนั้น ใช้พลังฝ่ามือเพียง 5 ส่วน แต่เมื่อเห็นบุคคลที่เบื้องหน้าไม่มีเรื่องราวใด
ถึงกับแตกตื่น ถึงกับเดือดดาล
เกร็งลมปราณขึ้นจากจุดตังชั้งเพิ่มกำลังอีก 1 เท่า ยังคงผลักฝ่ามือทั้ง 2 ยามนี้ไม่คำนึงถึงความเป็นตายของฝ่ายตรงข้ามแล้ว
ก๊วยเซียงพอลมฝ่ามือคุกคามมาถึง รู้สึกทรวงอกอึดอัดขัดข้อง
แต่เอี้ยก่วยพอโบกแขนเสื้อออก พลังความเย็นก็สลายคลาย ทราบว่าคนทั้ง 2 กำลังหักล้างกำลังภายในกัน สตรีชรามีท่าทีเขม็งตึงเครียด เค้าใบหน้าน่าหวาดหวั่น ตรงกันข้าม เอี้ยก่วยกลับปลอดโปร่งเฉื่อยชา
สตรีชราขยับกายวูบหนึ่ง พลันพุ่งตัวไปเบื้องหน้า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้รวดเร็วผิดธรรมดา
ได้ยินเสียงโครม ฝ่ามือทั้ง 2 ข้างกระแทกถูกทรวงอกเอี้ยก่วย นางพอกระแทกใส่ก็ล่าถอยกลับไป 2 วา
“เจ้าถูกพลังฝ่ามือเกาทัณฑ์เยียบเย็น (ฮั่งอิมจี่) ของเรา ไม่อาจรอดชีวิตถึงยามนี้ของวันพรุ่ง”
กิมย้งบรรยายตามสำนวน น.นพรัตน์ ว่าตั้งแต่เมื่อ 15 ปีก่อนพลังฝีมือของเอี้ยก่วยก็สุดที่สตรีชรานี้จะเทียบเปรียบได้
ตอนนี้ฝึกวิชากำลังภายใน ภายนอก บรรลุถึงขั้นลึกล้ำสุดยอด
พลังฝ่ามือเกาทัณฑ์เยียบเย็นของสตรีชราแม้เยียบเย็นอำมหิตไหนเลยทำร้ายได้ เพียงแต่มันกับสตรีชรานางนี้ไม่มีความแค้นต่อกัน ทั้งมันยังต้องการ “จิ้งจอกวิเศษ 9 หาง” สัตว์เลี้ยงแสนรักของนาง ดังนั้น ปล่อยให้นางฟาดใส่ 3 ฝ่ามือโดยไม่ตีโต้กลับคืน
ขณะเดียวกัน 20 กว่าปีมานี้สตรีชราคร่ำเคร่งฝึกปรือพลังฝ่ามือเกาทัณฑ์เยียบเย็นจนสามารถฟาดทำลายก้อนอิฐ 17 ก้อนในฝ่ามือเดียวโดยที่เศษอิฐไม่ปลิวฟุ้งกระจาย นับเป็นวิชาฝีมือที่กล้าแข็งและเย็นเยือก
นางคาดว่าเมื่อฝ่ามือกระแทกใส่ อวัยวะภายในคงแหลกสลาย แต่กลับสามารถยืนหยัดราวกับไม่มีเรื่องราวใดต้องครุ่นคิด “เด็กน้อยนี้ก่อนตายยังดื้อรั้นแข็งกร้าวอีก” ดังนั้นกล่าวว่า
“รีบนำเด็กหญิงน้อยนี้ออกไป อย่าได้นอนตายในบึงมังกรดำของเรา”
“ผู้อาวุโสเร้นกายในแดนร้างอาจไม่ทราบว่าโลกมีวิชาฝีมือหลายหลาก แต่ละสำนักมีปมเด่นแตกต่างกัน”
กล่าวจบเปล่งเสียงหัวร่อดังยาวนาน เป็นเสียงอันแกร่งกร้าวห้าวหาญ
สตรีชราทราบว่าเอี้ยก่วยไม่ได้รับอันตรายถึงกับหน้าซีดเผือด ส่ายร่างโงนเงน ยามนี้ค่อยทราบว่าเอี้ยก่วยต่อให้นาง 3 ฝ่ามือ นางมิใช่คู่ต่อสู้ของมันอย่างเด็ดขาด
ยามนั้นไม่รอให้เอี้ยก่วยหัวร่อจบ หิ้วจิ้งจอกวิเศษขึ้นห่อปากเป่าเสียงดัง
“ท่านที่นับถือมีพลังฝีมือน่าตระหนกเป็นที่เลื่อมใส หากคิดช่วงชิงจิ้งจอกของเราอย่าได้คิดหมายไป ขอเพียงเจ้าเข้ามาก้าวเดียว เราจะบีบเค้นจิ้งจอกตายคามือให้เจ้ากลับไปมือเปล่า”