รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว / “ศ. ดุสิต”/วิธีสร้างดวงพิเศษสุด (Premium) (ต่อ)

รู้ชีวิต…ด้วยดวงดาว / “ศ. ดุสิต”

อ่านอนาคตของคุณไม่ยากหรอก…แค่รู้จักดาว 10 ดวงเท่านั้น!

เรื่องลึกในโหราศาสตร์ไทยชุด ‘คลังโหร’

 

วิธีสร้างดวงพิเศษสุด (Premium) (ต่อ)

ผมจะทำตัวอย่างดวงชาตาที่ขับโดยสูตรนี้ให้ดูสักดวงหนึ่ง ดังนี้
ปีที่ทำการขับดวงนี้ เจ้าชาตามีอายุย่าง 85 ปี อายุเต็ม 84 ปี
วิธีขับดาว

ดาว ๑ กำลัง 6 หาร 84 = 14 ลัพธ์ เกิน 12 จึงเอา 12 หาร ได้ลัพธ์ 1 เศษ 2 จึงบวก 1 เข้ากับลัพธ์เป็น 2 จึงต้องขับดาว ๑ ไป 2 ราศี นับจากดาว ๑ ที่ราศีตุลจะไปตกที่ราศีพิจิก ดังนั้น ดาว ๑ ในดวง Premium นี้จึงสถิตที่ราศีพิจิก
ดาว ๖ กำลัง 21 หาร 84 = ลัพธ์ 4 ลงตัวไม่มีเศษ จึงขับดาว ๖ ไปสี่ราศี ตกที่ราศีมังกร
ดาว ๔ กำลัง 17 หาร 84 = ลัพธ์ 4 เศษ 16 บวก 1 กับลัพธ์เป็น 5 จึงขับดาว ๔ ไปห้าราศี ตกที่ราศีกุมภ์
ดาว ๐ กำลัง 14 หาร 84 = ลัพธ์ 6 ไม่มีเศษ จึงขับดาว ๐ ไป 6 ราศี ตกที่ราศีสิงห์
ผมขับดาวให้ดูสี่ดวงนี้ก็คงพอจะเข้าใจกันได้แล้วละ ส่วนการขับลัคนานั้นแตกต่างไปหน่อย คือดูว่าลัคนาสถิตราศีใด ดาวเกษตรเป็นดาวใด นำกำลังของเกษตรนั้นบวกกับอายุจรของเจ้าชาตา ได้เท่าใดเอา 12 หาร เศษเท่าใดนับแต่ลัคนาไปเท่าเศษ ตกราศีใด ลัคนาสถิตที่ราศีนั้น
ในดวงตัวอย่าง ลัคนาสถิตราศีตุลมีดาวศุกร์เป็นเกษตร จึงเอากำลังของดาวศุกร์ 21 + 84 = 105 เอา 12 ได้ลัพธ์ 8 เศษ 9 จึงขับลัคนาที่ราศีตุลไป 9 ราศี ตกที่ราศีมิถุนจึงวางลัคนาจรไว้ที่นั่น
ถ้าจะดูจรต่อไปอีกภายหน้า จะดูในปีใดก็ตามต้องมาขับดาวจากดวงกำเนิดเสมอ
ซึ่งดวง Premium นี้ไม่ใช่ดวงจรประจำปีที่จะต้องมาทำกันทุกปี แต่เป็นดวงที่ใช้ในกรณีที่มีเรื่องสำคัญอย่างยิ่งเกิดขึ้น และเราต้องการที่จะรู้ถึงชาตาในเรื่องนั้นของปีนั้น จึงจะสร้างดวงนี้ขึ้นมาเพื่อตรวจดูเป็นเรื่องๆ ไป
ดวงนี้จะใช้ดูชาตาชีวิตได้ดีด้วย แต่ควรจะดูในช่วงเวลาที่รู้สึกว่าในช่วงนั้นมีความผิดปกติเกิดขึ้นกับตัวบ่อยๆ จนน่าสงสัย จะทำดวงพิเศษสุดนี้มาตรวจดูก็ได้
ที่โบราณท่านไม่ให้ใช้พร่ำเพรื่อก็เพราะว่าดวงพิเศษสุดนี้ดาวจะเปลี่ยนช้าเช่นเดียวกับดวงเดิมนั่นแหละ (แต่ก็มีการเปลี่ยน) การจะทำดวงนี้ทุกปีจึงไม่จำเป็น
ยกเว้นแต่จะมีเรื่องสำคัญดังที่กล่าวแล้ว

อาจจะมีผู้สงสัยว่า ดวงเดิมก็มีให้ดูอยู่แล้ว จะต้องทำดวงพิเศษสุดนี้ขึ้นมาอีกทำไม
คำตอบก็คือ ดวงพิเศษสุดนี้มีดาวที่ไม่เหมือนกับดวงเดิม แต่ก็เป็นดาวชาตาชีวิตของเจ้าชาตานั่นแหละ
ทว่าเป็นดาวที่ได้เคลื่อนไปตามชาตาของชีวิตที่เปลี่ยนไปแล้ว จึงสามารถที่จะแสดงผลของชาตาได้ดีกว่า ตรงและถูกต้องกว่า
เช่น สมมติว่าคุณอยู่กรุงเทพฯ แต่อยากรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นที่เชียงใหม่ ดวงเดิมก็เสมือนคุณใช้สื่อสารดาวเทียมที่บอกให้คุณรู้ว่าขณะนี้ที่เชียงใหม่มีน้ำท่วม มีการสร้างตึกสูง 50 ชั้น หรืออะไรต่างๆ ฯลฯ เรารู้ได้เพราะนำดาวจรในขณะนั้นมากระทบกับดวงเดิม
แต่ก็ไม่เหมือนกับคุณเดินทางไปเชียงใหม่ และเห็นสิ่งที่ปรากฏขึ้นนั้นกับตา นั่นก็คือดวงพิเศษสุดนี้บวกดาวจรในขณะนั้นเป็นผู้บอกให้เรารู้ นี่คือความแตกต่างกันของดวงเดิมกับดวง Premium นี้
สูตรนี้เป็นสูตรที่ไม่เปิดเผย เพราะผู้สร้างสรรค์สูตรนี้เข้าใจดีถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่มักจะแพ้ต่อกิเลสตัวอยากรู้อยากเห็น ได้ความรู้ใหม่มาก็อยากจะลองไปเรื่อย ซึ่งไม่มีความจำเป็นเลย การตรวจดวงด้วยดวงพิเศษสุดนี้ไม่เหมือนกับการตรวจด้วยดวงเดิมตามปกติ เพราะมีความละเอียดสุขุมมากกว่า
ผู้ทำดวงนี้จะต้องเป็นผู้ที่สุขุมรอบคอบดีจึงจะไม่เกิดความผิดพลาด เนื่องจากการผิดพลาดจะทำให้การพยากรณ์ผิดไปด้วย และการทำดวงนี้ก็มีโอกาสที่จะผิดได้สูงด้วย (ที่ผิดกันบ่อยก็คือการขับดาว)
ท่านจึงได้มีกฎห้ามไว้ดังกล่าวแล้ว และปกปิดสูตรนี้โดยจะถ่ายทอดให้แก่ผู้ที่เป็นศิษย์รักหรือผู้ที่ท่านไว้วางใจแล้วว่าจะไม่นำสูตรนี้ไปทำให้เกิดความเสียหายขึ้นภายหลัง

มารยาทของโหร

๑.โหรทุกคนพึงรักษาความลับของผู้มาดูเสมอด้วยความลับของตน
๒. ไม่ควรใช้คำทำนายแม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตามอันเป็นเหตุให้กระทบกระเทือนขวัญของผู้มาดูอย่างร้ายแรง เช่น เรื่องของความตาย เป็นต้น แต่จะบอกกล่าวแก่ผู้แทนไว้ก็ได้
๓. อย่าใช้ภาษาคำทำนายเป็นเชิงบริภาษผู้ดู หรือใช้คำหยาบคายไม่น่าฟัง ทำให้ผู้ดูมีความละอายในท่ามกลางชุมนุมชน
๔. เมื่อดูร้ายก็พึงจะชี้ช่องทางที่จะแก้ไว้ด้วยเสมอ และไม่ควรจะรับหน้าที่สะเดาะเคราะห์โดยเห็นแก่ลาภสักการะ เว้นแต่เจ้าตัวขอร้องก็แนะนำให้ไปตามความถูกความควร
๕. อย่าพูดจาข่มขู่หรือข่มขี่ดูถูก สบประมาทโหรที่มีความรู้อ่อนกว่า หรือผู้ที่แก่กว่า หรือไม่ใช่ครูเดียวกับตน (ยกตนข่มท่าน)

๖.การดูหมิ่นเหยียดหยามครูบาอาจารย์ของคนอื่นนั้น เท่ากับตนเองบริภาษอาจารย์ตนเอง
๗. ธรรมดาที่ตนยกตนเองย่อมไม่ขึ้น ต้องอาศัยคนอื่นยกฉันใด ถ้ามีโอกาสควรจะช่วยยกย่องคุณงามความดีของโหรผู้อื่นเสมอ เพื่อแสดงว่าเป็นคนน้ำใจกว้างขวางไว้ ถ้าคนผู้นั้นเป็นโหรจริงๆ
๘. พึงประพฤติตนให้สมเป็นที่เคารพนับถือของประชาชน มีนิสัยสุจริตยุติธรรม มีความประพฤติเรียบร้อยเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ฉุนเฉียวตึงตัง
๙. แขกผู้มาดูนั้นให้ถือว่าเป็นแขกพิเศษ พึงจักต้อนรับด้วยอาการกระปรี้กระเปร่า โอภาปราศรัยด้วยความไมตรีเสมอ ไม่ว่าท่านจะอยู่ในอารมณ์ใด
๑๐. พึงรักษาร่างกาย และแต่งกายให้สะอาดเรียบร้อย ไม่เป็นที่รังเกียจแห่งสังคม และระวังกิริยาวาจาให้ดี

๑๑.ไม่พึงแย่งอาชีพซึ่งกันและกัน ข้อนี้ถือว่าเสียมารยาทอย่างแรง
๑๒. ผู้เป็นโหรอาชีพไม่ควรไปดูในสถานที่ต่ำช้า อันเป็นทางให้ผู้อื่นเหยียดหยามเกียรติของหมู่โหร
๑๓. พึงรักษาความเที่ยงธรรมในการดู จงกวดขันการทายปราศจากอคติลำเอียงใดๆ อย่าเชื่อข่าว อย่ามีอุปาทาน อย่าเป็นหมอแล (คือไม่ใช่หมอดู) จงใช้หลักวิชาทำนายเท่านั้น อย่าด้นเดา
๑๔. ในการพยากรณ์ดวงชาตา พึงใช้ความพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน ไม่หยาบสะเพร่า
๑๕. ต้องใช้เสรีภาพในการทำนายเต็มที่ ดีก็บอกว่าดี ร้ายก็บอกว่าร้าย ไม่ยกย่อง ทั้งนี้ โดยใช้คำพูดให้เหมาะสม อย่าให้บาดหู กระทบกระเทือนใจ พึงทำนายโดยสุภาพเสมอ

๑๖.ถ้าเห็นตนว่า ตนยังไม่พร้อมที่จะทำนาย เพราะอารมณ์ยังไม่ดี หรือยังไม่มีความรู้พอ ก็อย่าทำนายเลย
๑๗. อย่าแสดงตนเป็นคนเห็นแก่ลาภเกินไป คนที่มาขอให้ดูแม้จะไม่มีค่าคำนับครู ก็พึงทำนายโดยเต็มใจ
๑๘. ไม่ควรทำนายการบ้านการเมืองให้เป็นการยุ่งยาก เพราะถูกผิดก็ไม่สู้จะได้ผลอะไรแก่ตน
๑๙. ไม่ควรสนับสนุนผู้ที่มาดูให้กระทำการที่ผิดกฎหมาย, ศีลธรรม เช่น หนุนให้ฉ้อราษฎร์บังหลวง ลักขโมย ปล้นสะดม ค้าของเถื่อน เป็นต้น อย่าไปให้ฤกษ์พานาทีแก่ผู้ดูนั้นๆ เว้นแต่ไม่ทราบจริงๆ
๒๐. ในเวลาผู้มาดูที่ทุกข์ร้อนสาหัส คำทำนายใดที่จะเป็นเครื่องช่วยปลอบโยนให้คลายทุกข์ หรือปลอบให้มีกำลังใจ อาจหาญรื่นเริง ก็ควรใช้คำทำนายนั้นๆ แม้จะเพี้ยนจากคำตรงไปนิดหน่อยก็ควรยอมให้

๒๑.
ผู้ที่มีโชคดี กลับทายเป็นร้ายโดยจงใจ หรือเคราะห์น้อยก็บอกเป็นมาก เพื่อหวังสินจ้างรางวัลอย่างอื่นใด ไม่ควรประพฤติเป็นอันขาด ประพฤติแล้วจะฉิบหายแก่ตนและครอบครัวตนตลอดชาติ
๒๒. พึงถ่อมตนว่าเป็นผู้รู้น้อยเสมอ ขุนแผนไม่มีลูกศิษย์ มีแต่อาจารย์ฉันใด ท่านก็ควรถ่อมตัวของท่าน ภายหลังท่านจะได้อาจารย์ชั้นวิเศษมาสอนท่านด้วยความเต็มใจ ผู้ที่อวดรู้ใครเล่าจะสอนให้
๒๓. โหรทุกท่านพึงถือว่า มีความรู้แจ้งเห็นจริงเฉพาะอย่าง ไม่ใช่ตรัสรู้ทุกอย่าง ฉะนั้น สิ่งใดตนรู้ก็บอกว่ารู้ ที่ไม่รู้ก็บอกว่าไม่รู้ตรงๆ แนะนำให้ผู้ที่รู้ยิ่งกว่าตนเป็นผู้ทำนาย
๒๔. โหรไม่ควรดึงดันทิฐิมานะ เอาแต่ความเห็นของตนเป็นใหญ่ ควรสดับตรับฟังความเห็นของผู้อื่นบ้าง ถ้ามีเหตุผลดีก็ควรรับฟัง และรับปฏิบัติด้วยสุจริตใจ
๒๕. ควรรักหมู่รักคณะ ไม่รุกรานกันเอง ควรมีสามัคคีธรรมต่อกันให้สม่ำเสมอ ช่วยเหลือกันในสิ่งที่ควร
หวังว่าคงเข้าใจมารยาทโหรนี้ดีแล้ว