ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 1 - 7 มิถุนายน 2561 |
---|---|
คอลัมน์ | ท่าอากาศยานต่างความคิด |
เผยแพร่ |
My Chefs (36)
อาหารยามจาริก (8)
ไคลน์ยุติการเล่าเรื่องของเขาลง
“ได้เวลาอาหารค่ำแล้ว ทานอาหารตะวันตกกันบ้างน่าจะดี นายคงไม่ถือสากระมัง”
ไม่มีทางที่ผมจะปฏิเสธข้อเสนอของไคลน์ เขาเป็นเชฟฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งเท่าที่ผมเคยพบเจอ ผมเดินไปที่ชั้นหนังสือของไคลน์ บนชั้นนั้นมีหนังสืออยู่ไม่มากเล่มนัก มีตำราอาหารของ Larousse อันเป็นคัมภีร์ไบเบิลของเชฟทั่วโลก
มีหนังสือนวนิยายเรื่อง Catch-22 ของโจเซฟ เฮลเลอร์ ที่นักเดินทางชอบพกพากัน
และหนังสือว่าด้วยแฟชั่นติดกระดุมคอของหนุ่มลอนดอนแถบตะวันออกที่เขียนโดย Fantastic Man
ไคลน์นั้นเป็นหนุ่มที่นิยมติดกระดุมคอ จึงไม่น่าแปลกใจที่มีหนังสือเล่มนี้
ผมหยิบหนังสือเล่มนี้ลงจากชั้น พลิกหน้าแรกของมันขึ้นอ่าน
“วง Pet Shop Boys เป็นวงดนตรีคู่ดูโอ้ที่มีชื่อเสียงที่สุดวงหนึ่งของอังกฤษอย่างไม่ต้องสงสัย คริส โลว์ ที่ยืนเล่นดนตรีอยู่หลังคียบอร์ดของเขามักชอบแต่งตัวด้วยชุดกีฬา แต่นีล เทนแนต์ กลับแต่งตัวด้วยชุดสุภาพ นีลจะติดกระดุมเม็ดบนสุดของเสื้อเชิ้ตเขาเสมอ และมักไม่ผูกเน็กไท ยี่สิบแปดปีหลังจากอัลบั้มแรกของเขา เรามีนัดพบกับนีลในอาหารมื้อค่ำมื้อหนึ่ง นีลมาพบเราในเสื้อเชิ้ตติดกระดุมคอเรียบร้อยของ Comme des Garcons แจ๊กเก็ตยีนส์และกางเกงยีนส์ ทั้งชุดมาจาก Acne
ผู้สัมภาษณ์ : ทำไมคุณถึงชอบติดกระดุมคอหรือกระดุมเม็ดบนสุดของเสื้อเชิ้ตล่ะ นีล?
นีล : ผมชอบประโยชน์ใช้สอยของมัน เสื้อเชิ้ตทุกตัวมีกระดุมคอ ถ้าเช่นนั้นทำไมเราไม่ใช้มันเล่า การไม่ติดกระดุมคอให้ความรู้สึกผ่อนคลายก็จริง แต่นั่นไม่ใช่ความรู้สึกในแบบของผม
ครั้งหนึ่งเราถ่ายภาพแฟชั่นประกอบเพลง Always on my mind กับปิแอร์ ลา โรช ที่เป็นช่างแต่งหน้าประจำให้กับเดวิด โบวี่ ในครั้งนั้นเขาขอให้ผมติดกระดุมบนของเสื้อเชิ้ตตัวที่สวม ในขณะที่คริสใส่หมวกประหลาด เราทั้งคู่ถูกแต่งหน้าจนจัด และดูเซ็กซี่เอามากๆ เสื้อเชิ้ตของโยจิ ยามาโมโต้ อันเป็นเสื้อที่เราใช้ถ่ายแฟชั่นในวันนั้น
ผมยังจำได้จนกระทั่งบัดนี้…
ผมหยุดการอ่านลงเมื่อไคลน์เดินออกจากครัว
“กันทำการต้มมันฝรั่งแล้ว เดี๋ยวนายทำ mash potato ส่วนกันจะนึ่งปลากับดอกไม้ในท้องถิ่น และจะทำซุปเห็ดสนอีกอย่าง ระหว่างการทำอาหารเราจะสนทนาไปด้วย ดีไหม”
ไคลน์ไม่รอให้ผมปฏิเสธ เขาเดินนำผมเข้าไปในครัว ผมทดสอบความอ่อนนุ่มของมันฝรั่งที่ไคลน์ต้มในน้ำเกลือ มันนุ่มนวลเหมาะสม ผมลงมือใช้เครื่องบดที่มีมันฝรั่งบดจนเป็นเนื้อเดียวกัน
หลังจากนั้นผมตั้งกระทะบนเตาถ่านที่ไคลน์จุดไฟให้เรียบร้อยแล้ว นำเนยและนมสดลงผัดเข้าด้วยกันจนมีกลิ่นหอม ใส่เกลือ และพริกไทย ก่อนเทมันลงในมันฝรั่งที่บดเรียบร้อยแล้วลงมือคลุกเคล้ามันอีกที
ใช้เวลาไม่นานนักงานที่ผมได้รับมอบหมายจากไคลน์ก็เสร็จสิ้นลง
ผมหันไปมองไคลน์ เขากำลังจัดการกับปลานิลตัวใหญ่ด้วยการสอดไส้สารพัดสมุนไพรทั้งผักชีลาว กระเทียม ไทม์ ลงไปในตัวปลา
ผมหันไปดูดอกไม้ที่ไคลน์พูดถึง มันคือดอกกระเจียวสีชมพูที่เราพบเห็นกันในเทศกาลท่องเที่ยวแถบนี้ เขาใช้ดอกกระเจียวเหล่านั้นรองที่ก้นหม้อนึ่ง ก่อนจะวางปลานิลลงบนดอกกระเจียวเหล่านั้น
ไคลน์ได้สูตรที่ว่านี้มาจากไหน ไม่ต้องคาดเดา เขาคงได้มันมาจากมิตรสหายในหมู่บ้านนี้เป็นแน่
“เราอาศัยอยู่ในท้องของแม่เป็นเวลาเก้าเดือนใช่ไหม เติบโตและมีชีวิตจากแม่ สิ่งเหล่านี้มักไม่ค่อยถูกตระหนักว่าทำไมเราจึงมักมีคำพูดที่ได้ยินมาโดยตลอดว่าอาหารจากรสมือแม่นั้นเป็นสิ่งที่อร่อยเลิศที่สุด เพราะไม่มากก็น้อย เราได้รับอาหารตามรสนิยมของแม่ในช่วงที่เราอยู่ในครรภ์ ดังนั้น รสนิยมที่ว่าจึงถูกส่งผ่านสายรกและฝังแน่นในตัวเรานับจากนั้น”
คำอธิบายของไคลน์ว่าด้วยรสนิยมของแม่กำหนดรสนิยมด้านอาหารของเราผ่านทางสายรกในเวลาเก้าเดือนนั้นเป็นคำอธิบายที่ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเอาเลย
ไม่มีหลักฐานทางชีววิทยา ทางประสาทวิทยารองรับ แต่หลังจากที่ได้ฟังเรื่องเล่าของไคลน์ที่ถ้ำแห่งหนึ่งในเวียดนามแล้วนั้น ผมกลับมีความเชื่อมั่นในคำอธิบายของไคลน์
บางสิ่งที่หาเหตุผลไม่ได้ ย่อมหาเหตุผลไม่ได้ เราเชื่อเช่นนั้นเพราะเรารู้สึกกับมันเช่นนั้น
ไคลน์เคลื่อนที่กลับไปจัดการกับเห็ดสน
“นี่เป็นเห็ดที่มีราคาแพงมาก ขึ้นในป่าสน ในช่วงเวลาหนึ่งปี มันจะออกดอกเพียงครั้งเดียว ชาวม้งแถวนี้นำมาขายให้กัน การหาเห็ดที่ว่านี้จะเริ่มตั้งแต่เช้ามืด พวกเขาจะเดินไปในป่าสนพร้อมกับแท่งไม้ขนาดพอเหมาะแท่งหนึ่ง ก่อนจะลงมือแหวกตามโคนต้นสน เมื่อพบดอกเห็ดแล้ว เขาจะเก็บมันมาเฉพาะดอก ทิ้งโคนเห็ดไว้และใช้เศษสนและใบไม้บริเวณนั้นกลบมัน เพื่อเป็นเชื้อให้มันงอกขึ้นใหม่ในครั้งหน้าและปีหน้า ชนภูเขาหรือลาวเทิงเหล่านี้เข้าใจวิถีธรรมชาติเป็นอย่างดี และเข้าใจมันมากมายกว่าที่นายนึกถึงมากนัก”
“เมื่อแรกที่กันมาถึงที่นี่” ไคลน์พูดในขณะที่ซอยเห็ดดอกใหญ่ลงเป็นชิ้นเล็กและนำลงผัดกับน้ำมันมะกอกจนหอม
“กันคิดว่ากันรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับอาหาร อันเป็นความคิดที่โง่เขลาเอามากๆ ทุกวันที่ผ่านไปที่นี่ กันจึงได้ค้นพบว่ากันไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับอาหาร สิ่งที่กันรู้สมัยก่อนนั้น อาจเรียกว่ามันเป็นเทคนิคเกี่ยวกับการทำอาหาร แต่ไม่ใช่ชีวิตของอาหาร กันเคยทำซุปเห็ดมานับร้อย นับพันครั้ง แต่กันกลับไม่เคยรู้เลยว่าสิ่งที่กันประกอบเป็นอาหารนั้นเดินทางมาจากทีใด มันมีชีวิตเช่นไร มันมีวิถีชีวิตเยี่ยงไร กันเป็นเพียงสายพานสุดท้ายของการทำอาหารให้คนกิน ไม่เคยสนใจวงจรทั้งหมดของมัน”
“เมื่อมองย้อนกลับไป กันจึงพบว่าทัศนคติที่ว่านั้น เหมือนดังคนขับรถที่ขอให้รถยนต์ของตนเองเคลื่อนที่ได้เป็นพอ พวกเขาไม่สนใจหรอกว่ามันกินน้ำมันมากมายเพราะอะไร น้ำมันเหล่านั้นมาจากไหน และถ้าเราไม่ขับรถแล้วจะมีหนทางเดินทางแบบอื่นได้หรือไม่ เราทั้งหมดล้วนทำตัวเป็นผู้บริโภคหน้าซื่อที่ไม่เคยเฉลียวใจหรือตั้งคำถามต่อผู้ผลิตในสิ่งที่เราบริโภคเลย”
น้ำจากเห็ดทยอยออกมา มันส่งกลิ่นหอมอย่างน่าอัศจรรย์ มีกลิ่นสนอยู่ในนั้นอย่างแน่นอน หลังจากนั้นไคลน์ผัดกระเทียมจนเป็นสีเหลืองอ่อน เติมน้ำสต๊อกลงไป ตามด้วยใบพาร์สเล่ย์หั่นฝอย
เขาหมั่นเติมน้ำสต๊อกสลับกับการค่อยๆ หรี่ไฟในเตาลงด้วยการคีบถ่านออกทีละก้อน ซุปค่อยๆ เข้มข้นขึ้น และสมาธิของไคลน์ก็ดูมั่นคงขึ้นด้วย
ไคลน์ในวันนี้ช่างแตกต่างจากไคลน์ที่ผมรู้จักในวงโคเคนของเราเมื่อหลายปีก่อนเหลือเกิน
เขาแลดูผ่อนคลาย มีความสุข และเป็นจริงเป็นจังกับชีวิตจนผมรู้สึกได้
ในที่สุด ทุกอย่างก็เสร็จสิ้นลง ไคลน์ตักปลาใส่ถาดขนาดใหญ่ ส่วนผมตักซุปเห็ดสนจากหม้อลงใส่ถ้วย พร้อมกับตักมันบดใส่ชาม
เราทั้งคู่กลับออกไปนั่งที่โต๊ะข้างนอกอีกครั้ง ทุกอย่างมืดมิดหมดแล้ว มีเพียงแสงจากโคมไฟตรงหัวเสา และแสงจากตะเกียงไฟเล็กๆ ที่วางอยู่กลางโต๊ะอาหาร ถ้าหากเปลี่ยนจากแสงตะเกียงนั้นเป็นแสงจากเทียนไข เราคงแทบไม่ต่างจากคู่รักที่หนีโลกอันวุ่นวายมาฉลองวันครบรอบการแต่งงานเป็นแน่
“เสียงเพลง เรายังขาดเสียงเพลง” ไคลน์ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหาร เขาเลือกแผ่น In My House ของ Pet Shop Boys และเล่นเพลง Always on my mind เป็นเพลงแรก
มันเป็นเพลงที่เรารู้จักมักคุ้นกันเป็นอย่างดี แต่ในท่วงทำนองของ Pet Shop Boys นั้น เพลงนี้ให้ความรู้สึกแจ่มใสอย่างบอกไม่ถูก
Maybe I didn”t love you
Quite as often as I could have
Maybe I didn”t treat you
Quite as good as I should have
If I made you feel second best
Girl I”m sorry I was blind
But you were always on my mind
You were always on my mind
Maybe I didn”t hold you
All those lonely, lonely times
I guess I never told you
That I am so happy that you”re mine
If I made you feel second best
Girl I”m sorry I was blind
But you were always on my mind
You were always on my mind
Tell me, tell me that your sweet love hasn”t died
Give me, give me one more chance
To keep you satisfied
I”ll keep you satisfied
Little things I should have said and done
I just never took the time
But you were always on my mind
You were always on my mind
You were always on my mind
You were always on my mind
“เราลงมือทานอาหารกันเถอะ” ไคลน์พูดขึ้นหลังจากเพลงนั้นจบลง
“เพราะหลังจากนั้นกันจะเล่าให้นายฟังว่า กันกลับมาจากถ้ำแห่งนั้นได้อย่างไร”