มอเตอร์ไซค์ก็แพง น้ำมันก็แพง กับรอยยิ้มทรงเสน่ห์

เมื่อขี่มอเตอร์ไซค์อยู่ในประเทศไทย ก็จะเติมน้ำมันอยู่ 2 ยี่ห้อ คือ ปตท. กับพีที ที่เติม ปตท. เพราะว่าเป็นปั๊มใหญ่ ห้องน้ำสะอาด มีครบทุกอย่าง และน่าอยู่มาก

ที่จริงถ้าอนุญาตให้กางเต็นท์นอนได้ ก็จะนอน แต่เขาคงไม่ให้ก่อกองไฟนั่งผิงไฟกันแน่ๆ

ที่ ปตท. มีครบทุกอย่างอยู่อย่างทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเพราะบริษัทดำเนินไปอย่างราบรื่นดี

แต่เป็นเพราะมันมีปัญหา เป็นปัญหาใหญ่ซะด้วย นั่นก็คือ ในยุคสมัยหนึ่งค่าการตลาด (ก็คือกำไรนั่นแหละ) ของเจ้าของปั๊มแต่ละแห่งน่ะ มันต่ำมาก จนหลายๆ ปั๊มขาดทุนกันเละตุ้มเป๊ะ

ปตท. ก็เลยพลิกวิกฤตให้เป็นวิตก เอ้ย พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยการเพิ่มรายได้ที่ไม่ใช่น้ำมันเข้าไป (ที่เรียกว่า non-oil นั่นแหละ)

ในยุคแรกก็มี Amazon กับ 7-11 แล้วก็ขยับปรับเปลี่ยนเรื่อยมา จนถึงที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน ที่สวยงาม ครบครันระดับ community mall ไปแล้ว

ปั๊มล่าสุดในเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่บนหัวถนนสายกะเพราราดข้าวสำหรับชาว biker ในเชียงใหม่ ก็คือ ปากทางขึ้นสะเมิงจากด้านแม่ริม (ถนนแม่ริม-สะเมิง-หางดง นั้นเป็นถนนที่สวยงาม อ้อมไปด้านหลังของดอยสุเทพ ก็เหมือนกับไปร้านอาหาร คิดอะไรไม่ออก ก็สั่งกะเพราราดข้าวนั่นแหละ…biker คิดอะไรไม่ออก ก็ไปวิ่งเส้นนี้…สวยทุกครั้ง อิ่มเอมใจทุกครั้งกับโค้งในภูเขาที่เต็มไปด้วยป่าไม้ ถนนเรียบ และยังอิ่มเอมท้องด้วย เพราะมีร้านอาหารเยี่ยมๆ และร้านกาแฟดีๆ เยอะมาก)

ปั๊มใหม่นี้มียิ่งกว่าครบ เพราะมีทั้ง KFC, THE PIZZA และยังมีร้านมนต์นมสด และร้านก๋วยเตี๋ยวคำหวานอีกต่างหาก ส่วน 7-11 กับ AMAZON นั้นก็ไม่ต้องห่วง…ครบอยู่แล้ว

ส่วนปั๊มพีที เข้าไปเติมเพราะรุ่นพี่ที่ขี่มอเตอร์ไซค์ด้วยกันแนะนำว่าปั๊มพีทีส่วนใหญ่มีน้ำมันเบนซิน มอเตอร์ไซค์รุ่นเก่าๆ จะเรียกหาเบนซิน เพราะมันถูกออกแบบมาให้ใช้เบนซิน

แต่มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ๆ ก็ใช้แก๊สโซฮอล์ได้แล้ว แต่ก็ยังมีประเด็นอยู่ว่า เนื่องจากแก๊สโซฮอล์มีส่วนผสมของพืช ซึ่งหากรถจอดไว้นานๆ ไม่ได้วิ่ง มันก็จะทำให้น้ำมันเน่าได้

และเมื่อมันเน่า มันก็จะกัดกินท่อยาง และซีลยางในระบบส่งน้ำมันของรถ จริงเท็จประการใดไม่แน่ใจ

แต่เมื่อค้นดูข้อมูลใน internet ดูก็เจอว่ามีบางท่านพบปัญหานี้ และทำให้ต้องรื้อท่อเปลี่ยนท่อในระบบจ่ายน้ำมันกันใหม่ทีเดียว

เพื่อความชัวร์ หากคิดว่าจะไม่ได้ขี่มากกว่า 7 วัน ถังสุดท้ายก็เลยเติมเบนซิน ก็เลยเป็นที่มาของการทำความรู้จักกับปั๊มพีที

แต่เอาไปเอามา ก็ชักจะเข้าปั๊มพีทีบ่อยขึ้นทุกที เพราะขี่มอเตอร์ไซค์บนถนนสายรองมากขึ้น ที่ฝรั่งเรียกว่า back road นั่นแหละ เพราะความไม่เร่งรีบของเพื่อนร่วมทาง และธรรมชาติของทุ่งนา ต้นไม้ ป่าไม้ และวิถีชีวิตที่น่าอิจฉาริมถนนสายรอง

และหลายครั้งก็เป็นพีทีนี่แหละที่ช่วยชีวิตเราไว้ เพราะถนนสายรองไม่ค่อยมีปั๊มให้เติม และด้วยเหตุผลบางประการ พีทีมักจะใช้หญิงสาวเป็นคนเติมน้ำมันให้เรา

แน่นอน เวลาหญิงสาวคนไหนมาช่วยเราไว้ในยามคับขัน (น้ำมันใกล้หมดสุดๆ) พร้อมกับรอยยิ้ม ก็จะเป็นที่ประทับใจ และทำให้เราอยากจะมอบความรัก คำขอบคุณให้ และก็มักจะชื่นชมหญิงสาวคนนี้โดยไม่รู้ตัว

ผมเรียกว่า เสน่ห์ของสาวพีที

ก็คงจะเป็นเพราะพีทีเป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องเติบโต เมื่อต้องเติบโตก็ต้องขยาย และเมื่อขยายไปก็เจอกับ ปตท. (ละมั้ง) ซึ่งก็สู้ได้ยากเพราะทั้งครบและความเคยชินอีกต่างหาก ก็เลยต้องมองหาช่อง แล้วก็สบช่อง

ยุทธศาสตร์ของพีทีก็เลยขยายในระดับอำเภอ บนถนนสายรองแทน หากที่ไหนเล็กเกินไปสำหรับ ปตท. ที่นั่นก็จะมีพีที (ทั้งนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนตัว)

แต่ถ้าถามว่าใครใหญ่แถวนี้ ก็ต้องเป็น ปตท. (ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2560 บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)) เพราะครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ 37.14% ขณะที่พีทีครองส่วนแบ่งอยู่ 10.15%

เมื่อใหญ่ ก็ต้องถูกท้าทาย แต่เป็นการท้าทายที่สร้างสรรค์ ออกนโยบายมาให้เราไปเลือก เอ้ย ออกสินค้าและบริการมาให้เราเลือกใช้ แข่งขันกับบริการลูกค้าอย่างเราๆ

เหนือฟ้ายังมีฟ้า หรือเหนือ ปตท. จะมีพีที?

ปีที่ผ่านมา พีทีเข้าซื้อหุ้น 99.99% จากบริษัท GFA ซึ่งหมายความว่า ปัจจุบัน พีทีเป็นเจ้าของร้านกาแฟ Coffee World เรียบร้อยแล้ว

สามสี่ปีก่อน ปตท. มีปั๊มน้ำมันอยู่ 1,725 ปั๊ม มาถึงกันยายนปีที่ผ่านมา ปตท. มีปั๊มน้ำมัน 1,729 ปั๊ม เพิ่มขึ้น 4 ปั๊ม

ส่วน PT เคยมีปั๊มน้ำมันอยู่ 1,150 ปั๊มเมื่อสามสี่ปีก่อนเช่นกัน มาถึงกันยายนปีที่ผ่านมา มี 1,609 ปั๊ม เพิ่มขึ้น 459 ปั๊ม!!!

มิน่าเล่า…ช่วงนี้เราเลยพบกันบ่อยจัง ปั๊มพีที

ส่วนปั๊มที่เติมน้ำมันแล้วประทับใจผมที่สุดคือที่กระบี่

เพราะระหว่างเติมน้ำมัน มีสาวสวยมารุมล้อมมอบรอยยิ้มให้จนเขินไม่รู้จะเขินยังไง (อย่าลืมว่า ผมอยู่ในหมวกกันน็อก…หล่อระดับรอสซี่) ซึ่งให้ความรู้สึกดีมากทีเดียว (โปรดดูภาพประกอบ)

สาวพีทีมักจะมีเสน่ห์แบบสาวพีที ซึ่งผมก็คงจะเกี่ยวข้องกับการช่วยเราไว้ในยามคับขันพร้อมกับรอยยิ้มทรงเสน่ห์ของเจ้าหล่อน

ระยะหลังสังเกตตัวเองว่า เข้าปั๊มพีทีแล้วได้อารมณ์ดีแถมมาด้วยก็คงเพราะรอยยิ้มทรงเสน่ห์ของสาวพีทีนี่เอง

แต่วันก่อน เมื่อขี่รถรับอรุณยามเช้าอย่างเบิกบานใจ ไฟน้ำมันก็เตือนขึ้น คำนวณแล้วน่าจะไปเติมที่ปั๊มพีทีที่เคยผ่านอยู่บ่อยๆ บนถนนที่สวยงามสายหนึ่ง เลี้ยวเข้าไปก็พบกับสาวพีทีสองคน สาวหนึ่งยิ้ม สาวหนึ่งไม่ยิ้ม

สาวที่ไม่ยิ้มมาเติมน้ำมันให้ เมื่อเต็มถังและเจ้าหล่อนหันไปดูว่ามันเป็น 340 บาท ก็ตกใจ อุทานออกมาแบบไม่เกรงใจใครด้วยน้ำเสียงกระแทกกระทั้น ประชดประชันสุดชีวิตว่า “น้ำมันก่อแปง รถก่อแปง” (แปลว่า “น้ำมันก็แพง รถก็แพง”) พร้อมกับทำหน้าไม่ค่อยพอใจ ไม่รู้ว่าไม่พอใจผม หรือไม่พอใจเจ้าสองสูบ กินน้ำมัน 340 บาทสีแดงของผม

เพื่อนเจ้าหล่อนทำหน้าตกใจสุดชีวิตทีเดียวว่าพูดแบบนี้กับลูกค้าได้ยังไง คงกลัวผมจะโกรธด้วย แต่ผมไม่โกรธ ผมหัวเราะ…

ผมยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างได้ โดยไม่คิดจะปรับทัศนคติใคร