การ์ตูนที่รัก/ช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญ

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

ช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญ

เมื่อพบผู้นำไม่เที่ยงธรรมคือเวลาของช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญ

Charlotte “Lotte” Reiniger (1899 – 1981) เป็นนักสร้างและผู้กำกับหนังการ์ตูน silhouette animation ชาวเยอรมัน คือผู้สร้างหนังการ์ตูนเรื่องยาวที่เก่าแก่ที่สุดคือ การผจญภัยของเจ้าชายอัคเมด(The Adventures of Prince Achmed) เมื่อปี 1926 ก่อนหน้าสโนวไวท์ของวอลต์ ดิสนีย์ถึง 10 ปี

การผจญภัยของเจ้าชายอัคเมดเป็นเรื่องราวจากพันหนึ่งราตรีและเป็นต้นกำเนิดของอาละดินกับตะเกียงวิเศษที่คนทั่วโลกรู้จักกันมากกว่า อันที่จริงมีการ์ตูนเรื่องยาวก่อนเรื่องนี้แต่สูญหาย เรื่องแรกที่ฟิล์มยังอยู่จึงเป็นเรื่องเจ้าชายอัคเมดและอาละดินนี้

ชาร์ล็อต ไรนีเกอร์ หรือล็อตเต้ สร้างหนังการ์ตูนมากกว่า 40 เรื่อง

ผลงานแรกๆ เป็นหนังเงียบก่อนที่จะมีดนตรีประกอบและมีเสียงพากย์ในเวลาต่อมา

เธอสร้างการ์ตูนเรื่องสั้นจากเทพนิยายไว้จำนวนมาก มีรวบรวมไว้ในดีวีดี Lotte Reiniger”s The Fairy Tale Films จำนวน 19 เรื่อง

บางเรื่องเขาสร้างมากกว่า 1 ครั้ง เช่น ซินเดอเรลลา (Cinderella) ปี 1922 และปี 1954 เจ้าชายกบ (The Frog Prince) ปี 1954 และปี 1961

นอกจากนี้ยังมี เจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) ปี 1922 และปี 1954 แมวเจ้าปัญญา (Puss in Boots) ปี 1936 และปี 1954 รวมทั้งสร้างอาละดินกับตะเกียงวิเศษ (Aladdin and the Magic Lamp) ซ้ำอีกครั้งในปี 1954 ด้วย

จะเห็นว่าเธอหลงใหลในเทพนิยายมาก “ฉันเชื่อเทพนิยายมากกว่าข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์”

silhouette animation คือการ์ตูนเงาดำบนฉากหลังที่อาจจะเป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าสีขาวหรือเป็นฉากที่วาดขึ้น คล้ายๆ หนังตะลุงบ้านเรา เหมือน Prince and Princess ผลงานปี 2000 และ Tales of the Night ผลงานปี 2011 ของนักสร้างหนังการ์ตูนฝรั่งเศส Michel Ocelot ซึ่งการ์ตูนที่รักเคยเล่าให้ฟังแล้ว

ช่วงที่พรรคนาซีเรืองอำนาจ เธอลี้ภัยไปทำงานที่ปารีสและโรม แต่ก็ไม่สามารถพ้นไปจากเงามืดของฮิตเลอร์ได้ เมื่อถูกสั่งให้ทำหนังการ์ตูนโฆษณาชวนเชื่อคือ ห่านทองคำ (The Golden Goose หรือ Die goldene Gans) เมื่อปี 1944 ซึ่งมีรวมอยู่ในดีวีดีชุดนี้ด้วย

ช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญ (The Gallant Little Tailor หรือ Das tapfere Schneiderlein) เป็นหนึ่งในนิทานกริมม์ เป็นหนังการ์ตูนเงาดำปี 1954 ของล็อตเต้ที่สร้างขึ้นเมื่อครั้งเธอทำงานให้บีบีซีในลอนดอนแล้ว เนื้อเรื่องเป็นไปตามต้นฉบับดั้งเดิมเพียงแต่สั้นกว่า

ช่างตัดเสื้อคนหนึ่งอยากกินแยม มีฝูงแมลงวันมารบกวนเขาจึงตบแมลงวันตาย 7 ตัวในการตบเพียงครั้งเดียว

ช่างตัดเสื้อภาคภูมิใจกับผลงานครั้งนี้มากถึงกับทำเข็มขัดมีข้อความว่า เปรี้ยงเดียวได้ถึงเจ็ด(Seven at One Blow)

จากนั้นช่างตัดเสื้อก็ออกเดินทางเพื่อค้นหาโชคชะตาของตัวเอง (ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย)

ที่อาณาจักรแห่งหนึ่ง ชาวเมืองเดือดร้อนกับการรังควาญของยักษ์สองตน พระราชาจึงป่าวประกาศหาผู้กล้าหาญมาปราบยักษ์ เมื่อชาวเมืองไปพบช่างตัดเสื้อนอนหลับอยู่พร้อมเข็มขัดเปรี้ยงเดียวได้ถึงเจ็ดจึงพาไปเข้าเฝ้าพระราชา

พระราชาขอให้เขาช่วยปราบยักษ์สองตน เขาก็เดินไปอย่างกล้าหาญ (หน้าตาเฉย)

ช่างตัดเสื้อพบยักษ์สองตนนอนหลับอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ จึงปีนขึ้นไปเหนือยักษ์สองตนนั้นแล้วปฏิบัติการยุแยงด้วยการโยนก้อนหินใส่ยักษ์ตนนั้นทีตนนี้ที เอาจนกระทั่งยักษ์สองตนต่อสู้กันเองถึงล้มลง

เนื้อเรื่องในนิทานกริมม์ยาวกว่านี้และซับซ้อนกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ที่ล็อตเต้ตัดตอนมาเพียงเท่านี้ก็ถือว่าได้เนื้อหาสำคัญมาทั้งหมด

นั่นคือเป็นเรื่องของช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญที่มั่นใจในโชคชะตาและความกล้าหาญที่ตัวเองมีหลังจากใช้ชีวิตกิ๊กก๊อกมานานแสนนาน

ล็อตเต้ทำหนังการ์ตูนเงาดำ ไม่เห็นสีหน้าแต่เห็นท่าทาง และด้วยศิลปะการแสดงออกด้วยท่าทางเพียงอย่างเดียวที่ทำให้เราสามารถรับรู้ได้ว่าช่างตัดเสื้อนั้นช่างกล้าหาญ มั่นใจเต็มร้อย และเดินไปหายักษ์สองตนโดยไม่ลังเลหน้าตาเฉย

ช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญเป็นแอนตี้ฮีโร่คนแรกๆ เขาเป็นพระเอกที่ไม่เอาไหน ใช้ปัญญาเอาชนะอุปสรรค จะว่าโกงก็ได้ และถ้าจะให้ระบุชัดๆ คือเขาใช้เทคนิคการ manipulate คือควบคุมบงการบุคคลอื่นเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ คือเนื้อหาทางจิตวิทยาของการ์ตูนเรื่องนี้ มีคนจำนวนหนึ่งในสังคมที่มิได้มีความสามารถในตัวเองจริงๆ แต่เชี่ยวชาญด้านการใช้คนอื่นเป็นเครื่องมือ

ในนิทานกริมม์จะเห็นปัญญาหรือความเจ้าเล่ห์ของช่างตัดเสื้อ

เขาเดินทางไปพบยักษ์ตนหนึ่งในตอนแรกและมีการประลองพละกำลังกัน ยักษ์บีบก้อนหินป่นเป็นผงจนคั้นน้ำออกมาได้

ช่างตัดเสื้อบีบเนยแข็งจนได้น้ำนมไหลออกมา

ยักษ์ขว้างก้อนหินไปไกลลิบตกในที่ห่างไกล ช่างตัดเสื้อขว้างนกตัวหนึ่งไปแล้วนกบินต่อไปโดยไม่ตกลงพื้นเลย

ยักษ์เห็นพละกำลังของเขาแล้วจึงขอให้ช่วยยกต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ช่างตัดเสื้อขอให้ยักษ์แบกตรงลำต้นส่วนเขาจะแบกตรงยอดเอง ว่าแล้วก็กระโจนขึ้นไปบนกิ่งไม้ปล่อยยักษ์แบกไปคนเดียวจนถึงที่หมาย

เมื่อพระราชาสัญญาว่าจะยกอาณาจักรครึ่งหนึ่งพร้อมเจ้าหญิงเป็นรางวัลแก่ผู้ปราบยักษ์สองตน ครั้นช่างตัดเสื้อทำได้แล้วพระราชากลับส่งเขาไปปราบยูนิคอร์น ช่างตัดเสื้อผู้กล้าหาญรอจนยูนิคอร์นชาร์จเข้ามาใกล้มากแล้วค่อยหลบกายออกด้านข้างปล่อยให้ยูนิคอร์นปักเขาแหลมหนึ่งเดียวนั้นติดต้นไม้ใหญ่ถอนไม่ออก

พระราชาส่งเขาไปปราบหมียักษ์อีก เขาก็ใช้เทคนิคเดียวกันจับหมียักษ์

ในที่สุดช่างตัดเสื้อตัวน้อยก็ได้อาณาจักรครึ่งหนึ่งและแต่งงานกับเจ้าหญิง

พอเจ้าหญิงค้นพบว่าเปรี้ยงเดียวได้ถึงเจ็ดหมายถึงแมลงวันก็นำความลับไปกราบทูลพระราชา

พระราชาจึงส่งทหารยามมาฆ่าช่างตัดเสื้อ

แต่เด็กรับใช้ช่างตัดเสื้อได้เตือนเขาไว้ก่อนแล้ว

ช่างตัดเสื้อจึงใช้อุบายหลังประตูขู่เหล่าทหารวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

ถึงตอนนี้จะเห็นว่าช่างตัดเสื้อมิได้แกล้งกล้าหาญ เขากล้าหาญจริงๆ และเขามิได้แกล้งมั่นใจว่าตัวเองจะเอาชนะได้ทุกอย่าง เขามั่นใจจริงๆ นั่นหมายความว่าเขาสามารถบงการผู้อื่นได้อยู่หมัดเสีย

จนกระทั่งหลงตัวเองหรือหลอกตัวเองได้ว่าตนเองเก่งกาจเพียงนั้นจริงๆ

มุมมองทางสังคม ช่างตัดเสื้อมาจากชนชั้นต่ำที่ป่าวประกาศความสามารถตนเองเกินจริง แล้วใช้ความหลอกลวงนั้นไต่เต้าตนเองไปจนถึงระดับสูง สามารถชิงเจ้าหญิงและอาณาจักรทั้งหมดของพระราชาในตอนท้าย แสดงให้เห็นถึงความโหดร้ายของชนชั้นสูงอย่างพระราชา และความไม่จริงใจของหญิงชั้นสูง

วอลต์ ดิสนีย์ให้มิคกี้เมาส์มารับบทช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญในหนังการ์ตูนสั้นชิงออสการ์ปี 1938 Brave Little Tailor มีตีพิมพ์เป็นหนังสือการ์ตูนและเคยมีแปลไทยเป็นตอนหนึ่งในนิตยสารการ์ตูนดิสนีย์สี่สีสวยสดเล่มละ 2 บาทเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ผมทำนิตยสารฉบับนั้นสูญหายไปแล้ว ที่เห็นนี้นำมาจากหนังสือ Disney”s Classic Mickey ฉบับตีพิมพ์ปี 1999

เป็นเช่นเดียวกับทุกเรื่องของดิสนีย์และมิคกี้เมาส์ ช่างตัดเสื้อมิคกี้มีความถ่อมตนและบริสุทธิ์ใจมากกว่านิทานกริมม์

มิคกี้พยายามจะบอกทุกคนว่าเขาตบแมลงวันเจ็ดตัวแต่ไม่มีใครฟัง จึงจำใจเดินหน้าเข้าหายักษ์ร้ายที่นอนหลับอยู่ด้วยความจำใจ

ก่อนที่จะใช้ปัญญาล้มยักษ์ แล้วแต่งงานกับเจ้าหญิงมินนี่อย่างสุขสันต์นิรันดรในตอนท้าย

จะเห็นว่าดิสนีย์ประนีประนอมเสมอ ทั้งที่ในโลกแห่งเทพนิยาย ซึ่งมักเป็นความจริงอันขมขื่น เราไม่สามารถล้มทรราชได้เลยหากขาดเสียซึ่งช่างตัดเสื้อตัวน้อยผู้กล้าหาญ