‘ธนาธร’ เปิดใจสื่อนอก ถึงพรรคอนาคตใหม่-การเมืองไทยยุค คสช. ชี้ การสร้างปชต.เป็นศึกยาวนาน

เมื่อวานนี้ (1 เมษายน 2561) เว็บไซต์ข่าวเดอะการ์เดี้ยนของอังกฤษ ได้นำเสนอข่าวปรากฎการณ์ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานบริษัทไทยซัมมิท กรุ๊ป ที่สื่อไทยทุกสำนักขึ้นพาดหัวของบุคคลที่ชูความเป็นประชาธิปไตยและความรับผิดชอบทางการเมือง ในห้วงเวลาที่ประเทศไทยอยู่ภายใต้อำนาจของรัฐบาลทหาร คสช. การรณรงค์ถูกห้ามและผู้เห็นต่างกับรัฐบาลทหารถูกคุกคามจนถึงขั้นตั้งข้อหาจับเข้าคุก

เดอะการ์เดี้ยนระบุว่า ในบรรดาหลายพรรคการเมืองที่ต่างเปิดตัวกันมากมายเมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา แต่ไม่มีพรรคใดสร้างแรงสะเทือนได้เท่าพรรคอนาคตใหม่ของนายธนาธร ด้วยแนวคิดพรรคที่ก้าวหน้าและมีมหาเศรษฐียานยนต์ระดับโลกเป็นหัวขบวน ทำให้พรรคอนาคตใหม่เป็นที่จับตามองของสาธารณชนอย่างมากจนสะเทือนถึงรัฐบาล คสช.

นายธนาธรในวัย 39 ได้กล่าวว่า ตนรู้ตัวตั้งแต่เริ่มทำพรรคการเมืองนี้ พูดอย่างจริงจังคือตนอาจเข้าคุกในวันพรุ่งนี้ก็ได้ แต่มันไม่มีทางใดที่เราจะสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในประเทศนี้ได้จนกว่าจะมีพรรคการเมืองใหม่ของประชาชน

นับตั้งแต่ประเทศไทยปกครองโดยรัฐบาล คสช. นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเมื่อปี 2014 แม้จะได้แรงสนับสนุนจากประชาชนเมื่อครั้งยึดอำนาจ แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบายปราบปรามริดลอนสิทธิเสรีภาพและการขาดความโปร่งใสที่ขยายตัวมากขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ได้สัญญาว่าจะมีการเลือกตั้งในปีหน้า แต่กระนั้นเป็นการให้คำสัญญาแบบเดียวกับก่อนหน้านี้หลายต่อหลายครั้งและก็เลื่อนออกไป อีกทั้งพรรคการเมืองต่างๆ ยังไม่สามารถทำกิจกรรมใดๆได้เพราะคำสั่งห้าม ทำให้นายธนาธรต้องระมัดระวังในการเผยความตั้งใจของเขา

นายธนาธรระบุอย่างลังเลว่า ผมต้องระมัดระวังคำพูดเพราะด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ แต่ผมจะพยายามซื่อตรงให้ได้มากที่สุด

เดอะการ์เดี้ยนรายงานอีกว่า ความลังเลที่เผยออกมาของนายธนาธรนั้น ไม่่ใช่เรื่องแปลก เพราะล่าสุด ประชาชนจำนวน 79 คนที่เดินขบวนในนามกลุ่มคนเลือกตั้งได้ถูกแจ้งข้อหาหลังเดินขบวนไปยังกองบัญชาการกองทัพบกเมื่อวันเสาร์ที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องให้กองทัพหยุดสนับสนุน คสช.กลับมาเป็นทหารอาชีพที่ปกป้องประชาชน แม้แต่ตัวนายธนาธรเองยังถูกข่มขู่ฆ่าอีกด้วย

ด้านนายดันแคน แม็คคาร์โก ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองไทยระบุว่า พรรคอนาคตใหม่อาจสร้างแรงสั่นสะเทือนอยู่ก็จริง แต่ความตื่นเต้นนี้อาจกลายเป็นเพียงความหวือหวา รอบๆพรรคอนาคตใหม่ก็เป็นส่วนหนึ่งเพราะประชาชนไม่ได้เข้าถึงอย่างใกล้ชิดมานานแล้ว

“มันเปลี่ยนอารมณ์ผู้คนระดับนั้นแน่นอน ซึ่งพรรคอนาคตใหม่อาจสำเร็จที่ได้เสียงคนรุ่นใหม่ที่รู้สึกแปลกแยกจากการเมือง” นายแม็คคาร์โก กล่าว

นอกจากนี้ นายธนาธรระบุว่า ไม่เอาอีกแล้ว เราต้องการเป็นผู้นำในการลดอำนาจของกองทัพในการเมืองไทย คุณไม่สามารถควบคุมความขัดแย้งได้ด้วยความรุนแรง และไม่ควรขึ้นมามีอำนาจจากการเลือกตั้งเพื่อแก้ไขความขัดแย้ง

ทั้งนี้ นายธนาธรกล่าวว่า มีความเชื่อมั่นน้อยมากว่าการเลือกตั้งในปี 2019 จะเกิดขึ้น ด้วยเหตุเพราะกำหนดการเลือกตั้งได้ถูกเลื่อนออกไปแล้วหลายครั้ง อีกทั้งความมุ่งมั่นแรงกล้าพรรคอนาคตใหม่นั้นมุ่งหน้าไปไกลกว่านั้น

“การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะนำประชาธิปไตยมาสู่ประเทศไทยหรือไม่ ตอบได้อย่างแน่นอนว่า ไม่ เพราะกฎหมายและรัฐธรรมนูญ(ที่ใช้อยู่) ไม่เข้ากับประชาธิปไตย ระบบยุติธรรมก็ไม่เข้ากับประชาธิปไตย ด้วยเหตุนี้ว่าทำไมเมื่อเราพูดถึงการนำประชาธิปไตยกลับสู่สังคมไทย เรากำลังพูดถึงบางสิ่งในระยะยาว อาจจะ 5 ปี 10 ปี หรืออาจ 20 ปี มันเป็นสงครามที่ยาวนานและการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นแค่เพียงศึกแรก” นายธนาธร กล่าว

ที่มาข่าว : The Guardian