ใบหน้าที่ดูสวยงามแบบธรรมชาติๆ ของ “คิม โย จอง” น้องสาวของนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ถูกจับจ้องจากผู้คนทั่วโลก และทำให้หลายคนลืมเรื่องที่เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธ หรือทดสอบนิวเคลียร์หลายต่อหลายครั้งไปชั่วขณะ ในช่วงเวลาที่คิม โย จอง เดินทางเยือนเกาหลีใต้ เพื่อเป็นตัวแทนของพี่ชายร่วมในงานมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองพยองชางของเกาหลีใต้

ย่างก้าวที่คิม โย จอง เดินทางถึงทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ทุกสายตาจับจ้องไปยังผู้หญิงคนนี้

หลายคนมองผ่านหน้าจอโทรทัศน์ มองดูทุกรายละเอียดของเธอ ตั้งแต่ทรงผม ไปจนถึงใบหน้า และริ้วรอยต่างๆ

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของเกาหลีใต้ ต่างพากันรายงานเกี่ยวกับใบหน้าของคิม โย จอง มากกว่าที่จะพูดถึงเรื่องที่เธอเป็นหนึ่งในผู้ที่ติดอยู่ในบัญชีดำของสหรัฐอเมริกา ในฐานะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ในมือของคิม โย จอง ถือจดหมายจากพี่ชาย ที่มอบให้แก่นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ เป็นจดหมายเชิญให้นายมุนเดินทางเยือนเกาหลีเหนือ เพื่อเดินหน้าสานต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี และจะกลายเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ระหว่างสองเกาหลีอีกครั้ง หากมีการพบปะกันระหว่างผู้นำทั้งสอง

 

ในขณะที่บรรยากาศขณะที่คิม โย จอง เดินเข้าไปภายในสนามกีฬาที่จัดพิธีเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ที่เมืองพยองชาง ลอรา บิกเกอร์ นักข่าวของบีบีซีรายงานไว้ว่า ทุกสายตาพากันจับจ้องมาที่เธอ สมาร์ตโฟนถูกยกขึ้นมาเพื่อถ่ายรูปของหญิงสาวนางนี้เอาไว้

ขณะที่ชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งบอกกับนักข่าวบีบีซีว่า เป็นเรื่องแปลกและน่าตื่นเต้นอย่างมาก

แต่ก่อนที่ความคิดของหลายคนจะเตลิดไปกับความงามตามธรรมชาติของน้องสาวผู้นำเกาหลีเหนือผู้นี้ บิกเกอร์ได้ดึงทุกคนกลับมาสู่โลกแห่งความจริงที่ว่า อย่าลืมไปว่า “คิม โย จอง” มาในฐานะเป็นประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลเปียงยาง เธอเป็นตัวแทนของพี่ชายที่มาในงานนี้ และมีหน้าที่เป็นตัวแทนของ “ประเทศเกาหลีเหนือ”

จีน ลี อดีตหัวหน้าสำนักข่าวเอพีประจำสำนักงานที่กรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือบอกว่า การที่สมาชิกคนหนึ่งของตระกูลคิมมาปรากฏตัวในเกาหลีใต้เช่นนี้ถือเป็นเรื่องไม่ปกติ จึงไม่น่าแปลกใจหากเธอจะทำให้หลายคนเกิดการหลงใหล

หากแต่ขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงความชาญฉลาดของเกาหลีเหนือ ที่ส่งผู้หญิงที่สวยที่สุดคนหนึ่งของประเทศ มาทำหน้าที่ในการหลอกล่อให้เชื่อว่าประเทศของเธอเป็นอย่างไร ผู้คนของเธอเป็นอย่างไร

ซึ่งเป็นวิธีที่เกาหลีเหนือใช้ตั้งแต่เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ที่ส่งเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังของเกาหลีเหนือ โมรันบอง เดินทางเยือนเกาหลีใต้ สวมชุดแดงคอเสื้อที่เป็นขนและรองเท้าบู๊ตหนัง เดินมาอย่างสง่างาม ประหนึ่งกองทัพแห่งความงามที่มาในมาดของความสวย สง่า และความซื่อสัตย์ต่อประเทศชาติ

และ รี โซล จู ภริยาของนายคิม จอง อึน ก็เคยเป็นหนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปนี้มาก่อน สมัยเมื่ออายุ 16 ปี

นอกจากนี้ เกาหลีเหนือก็ยังส่งบรรดาสาวๆ เชียร์ลีดเดอร์มาร่วมเชียร์กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้อีกหลายคนด้วย

ภายใต้ความงามแบบธรรมชาติของหญิงสาวเหล่านี้ ที่ไม่ค่อยได้เห็นกันบ่อยนักในโลกสมัยใหม่ กลับเป็นอาวุธลับอย่างหนึ่งของรัฐบาลเปียงยาง นอกเหนือไปจากอาวุธที่ทั้งโลกหวาดหวั่นอย่างนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธ

 

ฮัน โว ฮี อดีตสมาชิกสาวงามที่เคยเป็นทั้งสมาชิกทีมเชียร์ลีดเดอร์และสมาชิกวงเกิร์ลกรุ๊ปมาก่อน เปิดเผยกับบีบีซีว่า งานของสาวงามเหล่านี้คือการออกไปสู่โลกภายนอก แล้วเอาชนะทุกคนด้วย “รอยยิ้ม”

“เรามีหน้าที่ในการโปรโมตแนวคิดจูเช (แนวคิดในการพึ่งพาตัวเองของเกาหลีเหนือ) เราเป็นนักรบแนวหน้า ทำหน้าที่เข้าไปยังใจกลางของศัตรู เพื่อแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่เราภาคภูมิใจว่า เราดีกว่าคนอื่นๆ ฉันรู้สึกภาคภูมิใจและเชื่อมั่น และฉันคิดว่านั่นคือสิ่งที่ฉันต้องออกไปทำ” ฮันกล่าว

ทั้งนี้ ฮันต้องหลบหนีออกจากเกาหลีเหนือเนื่องจากพี่ชายของเธอแปรพักตร์จากรัฐบาลเกาหลีเหนือ ดังนั้น หากเธอและครอบครัวยังอยู่ในเกาหลีเหนือ ก็จะต้องจบชีวิตลงในคุกอย่างแน่นอน

ตอนนี้ ฮันมีความสุขอยู่กับกลิ่นอายของเสรีภาพในเกาหลีใต้ ก่อนจะรำลึกถึงเหตุการณ์ของการอยู่ในหน่วยงานที่ฝึกมโนทัศนคติอยู่กับเพื่อนๆ เป็นเวลา 3 เดือน

“พวกเราถูกสอนว่าจะต้องไม่ตกใจกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นที่โลกภายนอก และจะต้องไม่ลืมบ้านเกิดของเราแม้แต่นาทีเดียว เราจะต้องไม่ลืมที่จะจงรักภักดีต่อท่านผู้นำคิม” ฮันกล่าว และว่า เพื่อนของเธอบางคนไม่ต้องการจะลืมบ้านเกิด ก็จะเก็บดินที่เกาหลีเหนือส่วนหนึ่งไว้ในกระเป๋า และเก็บรูปภาพของคิม จอง อิล (อดีตผู้นำเกาหลีเหนือ บิดาของคิม จอง อึน) เอาไว้ในกระเป๋าด้วย

 

ฮันยังบอกด้วยว่า การมาของสาวเชียร์ลีดเดอร์เกาหลีเหนือครั้งนี้ ช่างแตกต่างจากสมัยที่สาวเชียร์ลีดเดอร์เดินทางไปยังเกาหลีใต้ เมื่อปี ค.ศ.2003

โดยเธอเล่าไว้ว่า เหตุการณ์ในปีนี้ ขณะที่บรรดาสมาชิกเชียร์ลีดเดอร์เกาหลีเหนือเดินทางถึงเกาหลีใต้ ก็เกิดฝนตกลงมา และทำให้ภาพของคิม จอง อิล และธงชาติเกาหลีเหนือเปียกฝน สาวๆ เชียร์ลีดเดอร์ทั้งหมดพากันตกใจและวิ่งออกจากรถบัส ไปล้อมรอบรูปภาพของคิม จอง อิล เอาไว้ เพื่อไม่ให้เปียกฝน

ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความแปลกใจและตกใจอย่างยิ่งให้แก่ชาวเกาหลีใต้ที่พบเห็น และรู้สึกเหมือนกับว่า สาวๆ เหล่านี้เป็นสาวกของศาสนาใดศาสนาหนึ่ง

ขณะที่ เอียน เบรมเมอร์ นักรัฐศาสตร์ชาวอเมริกัน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องนโยบายต่างประเทศ ได้ทวีตข้อความน่าสนใจเอาไว้ว่า กลุ่มสาวๆ เชียร์ลีดเดอร์เหล่านี้ถือเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น

แต่อย่าลืมว่า สาวๆ เหล่านี้เป็น “ตัวประกันที่เป็นมนุษย์” ของระบบการปกครองของรัฐบาลที่เป็นอาชญากร และถือเป็นเรื่องน่าสลดใจที่สุดในกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวครั้งนี้