สรุปข่าวในประเทศ (หน้า7)

สำนักพระราชวังแถลงการณ์ “พระราชินี ใน ร.9” เสด็จฯ ประทับ ร.พ.จุฬาฯ

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายน สำนักพระราชวังออกแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ความว่า คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้รายงานว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จะเสด็จพระราชดำเนินเข้ารับการตรวจพระวรกายตามวงรอบปกติ (General Physical Check-up) และจะประทับ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 2 ธันวาคม พุทธศักราช 2560 จึงประกาศมาให้ทราบโดยทั่วกัน

“รบ.” เชิญชวนตักบาตรพระสงฆ์ 901 รูป เนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค.

นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี กำหนดให้วันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสำคัญของชาติไทย กล่าวคือ เป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันชาติ และเป็นวันพ่อแห่งชาตินั้น รัฐบาลได้กำหนดให้มีการจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล วันที่ 5 ธันวาคมนี้ ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยพร้อมกันทั่วประเทศ ในส่วนกลาง จัดพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ จำนวน 901 รูป เวลา 07.00 น. ณ บริเวณพระลานพระราชวังดุสิต โดยมีนายกฯ เป็นประธาน ทั้งนี้ ได้อัญเชิญพระพุทธบรมมหาจักรีศรีภูมิพลมหาราช (60 พรรษา) เป็นพระพุทธรูปประธานในพิธี ซึ่งพระพุทธรูปดังกล่าวจัดสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ ในส่วนภูมิภาคและต่างประเทศ มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัด เอกอัครราชทูต และกงสุลไทย พิจารณาจัดพิธีตามความเหมาะสม

“มีชัย” โล่งอกชง กม.ลูกครบ 10 ฉบับแล้ว

วันที่ 28 พฤศจิกายน นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยว่า ได้ส่งกฎหมายลูก 2 ฉบับสุดท้าย คือ ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. ให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาแล้ว รู้สึกโล่งอก กรธ. กังวลเหมือนกันว่าจะทำไม่ทันกรอบเวลา 240 วัน ดูเหมือนยาว แต่ต้องทำกฎหมาย 10 ฉบับ แล้วมันสั้น ตกไม่ถึง 1 เดือนต่อหนึ่งฉบับ จะเห็นได้ว่าการร่างกฎหมายลูกด้วยคนชุดเดียวกับที่ร่างรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ เพราะจะรู้จุดสำคัญของรัฐธรรมนูญ ต่างจากเดิมที่ให้องค์อิสระทำแล้วเสนอ ก็จะเป็นเรื่องอำนาจเป็นหลัก ไม่เหมือนการมีคนกลางมาจัดทำ จากนี้ก็จะส่งตัวแทนไปร่วมเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. แล้วก็รอดูการปรับแก้ของ สนช. ซึ่งไม่มีสัญญาณความเห็นต่างอะไร

อนึ่ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ 10 ฉบับ ประกอบด้วย 1.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 3.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง 4.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 5.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ

6.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง 7.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน 8.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 9.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน 10.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ

ทั้งนี้ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ชุดของ มีชัย ฤชุพันธุ์ ต้องจัดทํา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 10 ฉบับ ให้เสร็จภายในระยะเวลา 240 วัน หรือ 8 เดือน นับตั้งแต่รัฐธรรมนูญถูกประกาศใช้

ตู่ให้ชัยชาญดูปรองดอง-สุรเชษฐ์คุมใต้เมิน “พท.-ปชป.” จับมือต้าน “นายกฯ นอก”

เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยมีการปรับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งดูแลเรื่องของความปรองดองด้วยนั้น ตนได้มอบหมายให้ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมคนใหม่ มาเป็นหัวหน้าคณะเรื่องความปรองดองและการปฏิรูปแล้ว ส่วนในเรื่องของภาคใต้ได้หารือกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปแล้วว่า จะมอบหมายให้ พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รับผิดชอบต่อ เพราะที่ผ่านมา พล.อ.สุรเชษฐ์ ก็เดินลงไปทำงานในพื้นที่ภาคใต้อยู่แล้วเกือบทุกสัปดาห์ ดูแลเรื่องการศึกษา ทำให้หลายอย่างมีการพัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น

ส่วนกรณีที่มีนักการเมืองเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กับพรรคเพื่อไทย (พท.) จับมือกันเพื่อต่อต้านนายกรัฐมนตรีคนนอกในการเลือกตั้งครั้งต่อไปนั้น

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เป็นเรื่องของเขา ผมไม่สนใจว่าใครจะร่วมกับใคร ก็เชิญ ผมไม่เกี่ยวข้องเพราะผมจะทำงานให้ประเทศของผม เรื่องอื่นค่อยว่ากัน”