ทดสอบ ‘ฮอนด้า บีอาร์-วี’ ใหม่ ‘เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง’ แรงได้-สบายอยู่

สันติ จิรพรพนิต

ทดสอบ ‘ฮอนด้า บีอาร์-วี’ ใหม่ ‘เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง’ แรงได้-สบายอยู่

 

แม้กระแสจะเบาบางไปสักหน่อยสำหรับ “ฮอนด้า บีอาร์-วี” เอ็มพีวี 7 ที่นั่ง เพราะนับจากเปิดตัวถูกพูดถึงไม่มากนัก

เชื่อว่าส่วนหนึ่งไม่พ้นการตั้งราคา ที่ถือว่าเข้มสุดในเซ็กเมนต์เดียวกัน

เพราะแม้ด้วยบอดี้หรือเครื่องยนต์จะถือว่าเป็นเบอร์ 1 ได้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่างโตโยต้า เวลอซ, มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ หรือซูซูกิ เอ็กซ์แอล 7

รวมถึงออปชั่นที่ใส่เข้ามาถือว่ามากสุด ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย และความปลอดภัย

แต่ด้วยราคารุ่นท็อปที่เกือบเท่ากับรุ่นพี่อย่างฮอนด้า เอชอาร์-วี ในรุ่นเริ่มต้น หรือหากเทียบกับรุ่นย่อยเดียวกันห่างกันราวๆ 1 แสนบาทเท่านั้น

แต่ฮอนด้า เอชอาร์-วี ได้เครื่องยนต์ไฮบริด ติดมาด้วย

อย่างไรก็ตาม ผมตัดสินใจยืมรถรุ่นนี้มาทดสอบ เพราะอยากรับรู้ถึงสมรรถนะ และการใช้งานจริงว่าคุ้มกับค่าตัวที่จัดมาหรือไม่

ได้รุ่นท็อป EL ภาพรวมภายนอกด้านหน้ากระจังทรงคางหมูสี Piano Black ตัดขอบด้วยโครเมียม

ไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam : AHB)

ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอก

ด้านหน้านี่ไม่ต่างจากรุ่นอื่นๆ ของฮอนด้า ไม่ว่าจะเป็นเอชอาร์-วี หรือรุ่นใหม่ที่ออกมาทั้งดับเบิลยูอาร์-วี และพี่ใหญ่ซีอาร์-วี

มองแล้วได้ความดุดันและแมนๆ ดี

กระจกมองข้างสีเดียวกับตัวรถ แต่ส่วนล่างจะเป็นสีดำ

ติดตั้งซุ้มล้อสีดำขนาดกำลังดีไม่หนาหรือบางเกินไป

ไฟท้ายแบบ LED เช่นกัน ออกแบบเป็นเส้นแนวนอน คล้ายๆ รุ่น “ซิตี้”

กันชนหน้าและหลังดีไซน์ใหม่ ตกแต่งสีเงิน เช่นเดียวกับสเกิร์ตข้าง

ภาพรวมด้านหลังดูเรียบหรู

มีราวหลังคาตกแต่งแบบสปอร์ต เสาอากาศแบบครีบฉลาม

ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว

บอดี้รถเมื่อเทียบกับรุ่นเก่าใหญ่ขึ้นในทุกมิติ ส่วนความสูงราวๆ 200 มิลลิเมตร ถือว่าลุยได้ประมาณหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทางขรุขระหรือน้ำท่วมแบบเบาๆ

ภายในเน้นโทสีดำ ตัดด้วยวัสดุโครเมียมและสีเปียโนแบล็ก

พวงมาลัย 3 ก้านพร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น และระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)

หน้าจอผสมกันระหว่างอะนาล็อกและดิจิทัล มีมาตรวัดความเร็ว-รอบเครื่องยนต์อยู่ซ้ายขวา

ตรงกลางเป็นจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว

ระบบอินโฟเทนเมนต์หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Smartphone และรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และ Android Auto

ส่งเสียงผ่านลำโพง 6 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ และช่องปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังติดตั้งบนเพดาน ตามสไตล์รถแบบนี้คล้ายๆ กับทั้งหมดในตลาด

มีระบบสตาร์ตเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมต

เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2 และแถวที่ 3 ที่สามารถปรับพับเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย

เบาะนั่งแถวที่ 2 มีพื้นที่ช่วงขากว้างพอสมควร สามารถปรับพับแยกแบบ 60:40 พร้อมพับตลบจังหวะเดียว (One Motion)

สามารถปรับเลื่อนหน้า-หลัง และพนักพิงปรับเอนได้ 3 ระดับ

เบาะนั่งแถวที่ 3 มีพื้นที่ช่วงขากว้างขึ้น โดยสามารถพับแยกแบบ 50:50 และพนักพิงปรับเอนได้

ช่องเชื่อมต่อ USB 2 ตำแหน่ง ช่องจ่ายไฟสำรอง 2 ตำแหน่ง

เจาะช่องวางแก้วน้ำถึง 8 ตำแหน่งสำหรับทุกที่นั่ง

พวงมาลัยจับกระชับมือดี มีระยะฟรีให้นิดหน่อยเพื่อความสบายและสมูธมากขึ้น

เพราะต้องไม่ลืมว่ารถลักษณะนี้เป็นรถครอบครัว เรื่องความสบายของผู้โดยสารจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว กำลังสูงสุด 121 แรงม้า ที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 145 นิวตัน-เมตรที่ 4,300 รอบต่อนาที

ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ CVT รองรับพลังงานทางเลือก E20

อัตราเร่งเหลือเฟือตั้งแต่ตีนต้น กลาง และปลาย

โดยเฉพาะความเร็วกลางมาเร็วและแรงกว่าเพื่อนๆ ในกลุ่มเดียวกัน

ทริปนี้ผมต้องเดินทางไป จ.สระบุรี และด้วยสภาพการจราจรกระมัง ทำให้ระบบนำทางพาผมใช้เส้นทางลัดเลาะเข้าไปถนนสายรอง จากปกติผมจะใช้เส้นทางถนนวิภาวดียิงยาวไปจนถึงจุดหมาย

ตอนแรกก็ลังเลว่าจะเชื่อแผนที่ดีหรือไม่ แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ตัดสินใจบุกตะลุยไปตามระบบนำทางแล้วกัน

ป๊าด…เจอถนนเลนสวนหลายช่วงเหมือนกัน แถมพาเข้าไปในทางรองที่สองฝั่งมีโรงปูน โรงโม่หิน เจอรถพี่บิ๊กคันโตขวางเต็มถนน

อัตราเร่งตอนแซงไม่ถึงกับจี๊ดสุดๆ แต่เพียงพอไม่ต้องลุ้นเสียวมากนัก

ช่วงล่างไม่มีปัญหาในการรับมือกับถนนที่ไม่ได้เรียบมากนัก

ด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังทอร์ชั่นบีม แบบ H-shape

การทำความเร็วบนทางหลวงถือว่าไม่ขี้เหร่ เรียกว่าถ้ารีบๆ ก็เหยียบได้ทันใจ แต่ต้องแลกมาด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่กระหึ่มพอสมควร

แต่ถ้าความเร็วระดับ 100-120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ความเร็วที่คนขับรถเซ็กเมนต์นี้นิยมมากสุด ไม่มีปัญหาอะไร

ระบบความปลอดภัยและตัวช่วยขับขี่ใส่มามากพอสมควรกับ “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง” (Honda SENSING)

ทำงานผ่านกล้องมุมมองกว้างด้านหน้า ช่วยตรวจจับรถยนต์และคนเดินถนน

มีระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก

ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ

ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน แต่นังไม่ถึงจุดหยุดนิ่ง

ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน

ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง

ระบบช่วยออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน

ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมตอยู่ห่างจากตัวรถ ฯลฯ

ฮอนด้า บีอาร์-วี จัดเป็นรถครอบครัวที่ขับสนุกและนั่งสบายรุ่นหนึ่ง

มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย

รุ่น E ราคา 915,000 บาท

และรุ่น EL ราคา 973,000 บาท •

 

ยานยนต์ สุดสัปดาห์ | สันติ จิรพรพนิต

[email protected]