ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 เมษายน 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
Inu-Oh (2)
หนังการ์ตูนเพลง Inu-Oh นี้สร้างจากนวนิยายของฮิเดะโอะ ฟุรุคะวะ กำกับฯ โดยมาซาอากิ ยูอาสะ เล่าเรื่องของอินุโอะซึ่งมีตัวจริงอยู่แต่ที่มาที่ไปไม่ชัดเจนจึงเปิดช่องให้ตีความได้หลากหลาย
โทโมนะเป็นนักบวชพิณบิวะ เล่นดนตรีเล่าเรื่องการรบทางทะเลที่ดันโนะอูระ ที่ซึ่งกองทหารไฮเคพ่ายแพ้แก่กองทหารเกนจิ ซากศพนับพันจมใต้ท้องทะเล
อินุโอะเป็นคนผิดรูป ขากุดสองข้าง แขนซ้ายกุด แขนขวายาวเป็นเปรต ดวงตาสองดวงตั้งฉากกันและเรียงตัวในแนวตั้งฉากกับพื้น เขาใส่หน้ากากพิกลปิดบังใบหน้าพิการไว้ตลอดเวลา
โทโมนะเป็นใบ้ พ่อตายระหว่างหาสมบัติใต้ทะเลร่วมกับเขาครั้งยังเป็นเด็ก เมื่อเขาอยากเรียนพิณบิวะและเป็นนักบวช เขาต้องเปลี่ยนชื่อเป็นโทมิอิจิ นั่นทำให้วิญญาณของพ่อหาเขาไม่พบอีก
อินุโอะเป็นลูกชายคนที่สามของนักละครนามอุโฆษของเกียวโต พ่อของเขาขายวิญญาณให้แก่หน้ากากปีศาจตาโบ๋เพื่อจะเป็นสุดยอดของนักละคร
อินุโอะอยู่ร่วมกับหมาใต้ถุนบ้าน ยามกินเหมือนหมายามวิ่งเหมือนลิง
วันหนึ่งอินุโอะแอบดูพี่ชายสองคนฝึกซ้อมละคร เขาวิ่งไปฝึกเต้นคนเดียวในป่า วิญญาณพันดวงของทหารไฮเคในสงครามวนรอบขาทั้งสองของเขาแล้วขาทั้งสองก็ยืดออก อินุโอะดีใจเป็นที่สุด
ชะตาพาเขาพบโทมิอิจิผู้เล่นเพลงพิณขับขานเรื่องการรบครั้งนั้น โทมิอิจิทราบว่ายังมีบางเรื่องที่ไม่ได้เล่า เป็นเรื่องของทหารไฮเคที่ล้มตาย วิญญาณแต่ละดวงมีเรื่องเล่าของตน
โทมิอิจิกับอินุโอะจึงร่วมมือกันเล่าเรื่องเหล่านั้น อีกทั้งเป็นโอกาสที่โทมิอิจิจะได้ไขความลับสมบัติใต้ทะเลซึ่งเป็นเหตุให้พ่อตายอนาถตั้งแต่เขายังเล็กด้วย
หนังใช้อะนิเมชั่นและละครโนะประกอบเสียงพิณเล่าเรื่องทั้งหมดจนถึงตรงนี้คือประมาณครึ่งเรื่อง
ถัดจากนี้ไปจะเป็นความสนุกเร้าใจของจริง หนังเข้าชิงลูกโลกทองคำกับ Guillermo del Toro’s Pinocchio ได้รับคำชื่นชมล้นหลาม
หนังมันมาก ครึ่งหลังของหนังเป็นเพลงป๊อป/ร็อกขนาดยาว 3 ท่อนเล่าเรื่องที่ยังไม่ได้เล่านั้น
ท่อนแรกเป็นการเล่าเรื่องการเริ่มต้นของวงดนตรีแนวใหม่ในเกียวโต ดนตรีป๊อปเปิดหมวกเร้าใจด้วยเสียงพิณและท่าเต้นแบบร็อกสตาร์เอาชนะละครโนะราบคาบไม่ยากเย็น
ชาวบ้านเลิกดูละครกลางแจ้งแบบเดิมมารอคอยการแสดงสดที่กลางสะพาน
เสียงปรบมือและชูป้ายไฟกรี๊ดสนั่น
นั่งดูหนังช่วงนี้เพลินมากที่สุด อิ่มเอมใจเมื่อจบเพลง เมื่อหนังจบก็ต้องกรอมาดูซ้ำสองและซ้ำสาม
ทุกครั้งที่อินุโอะเล่น แขนขาของเขาค่อยๆ ยืดออก โทมิอิจิจำต้องลาออกจากนักบวชเพราะเล่นเพลงล้ำหน้าที่รับไม่ได้ เมื่อลาออกจึงต้องเปลี่ยนชื่ออีกครั้งเพื่อแสดงตัวตนใหม่ในโลกใหม่
ท่อนสอง อินุโอะและโทมิอิจิเปิดการแสดงประกอบฉากใหญ่อลังการกลางแจ้งในยามค่ำคืนพร้อมสเปเชียลเอฟเฟ็กต์จากกองไฟและลูกไฟตระการตา
ดนตรีเร้าใจกว่าเดิม ไพเราะสุดๆ ไม่นับเนื้อเพลงที่น่าค้นหาอย่างยิ่ง
โลมาพันตัวรอการมาถึงของวาฬยักษ์แต่วาฬยักษ์ไม่มาตามนัด คนดูบนสนามจะได้เห็นการเคลื่อนที่ของวาฬและโลมาด้วยเบิร์ดอายวิวโดยมีอินุโอะวิ่งขึ้นฟ้าบนผืนผ้าใบอย่างน่ามหัศจรรย์
ผู้กำกับฯ ยูอาสะจะบรรยายวิธีสร้างฉากนี้ในสเปเชียลฟีเจอร์สามสิบนาทีหากดูด้วยแผ่นบลูเรย์ เป็นหนึ่งในสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่น่าดูและให้ความรู้มากกว่าการให้หลายๆ คนมานั่งบรรยายความในใจ
ความมีชื่อเสียงของอินุโอะและโทโมนะไปถึงหูของโชกุน ความเถื่อนของดนตรีและการแสดงละครเรื่องนี้เป็นที่ยอมรับมิได้ เพื่อจะได้จัดการให้สิ้นในครั้งเดียวการเล่นครั้งที่สามจึงจัดขึ้นในวัง ด้วยความร่วมมือของบิดาอำมหิตของอินุโอะเอง
ไม่นับว่าอินุโอะซึ่งบัดนี้แขนขาดีแล้วประกาศจะถอดหน้ากากในครั้งนี้ด้วย
เรื่องเล่าเรื่องสุดท้ายไม่เพียงเกี่ยวพันกับการรบ แต่เปิดเผยความลับของวังมังกรที่เก็บงำไว้ คือน่านน้ำที่พ่อของโทโมนะถูกชักนำไปตายตั้งแต่ต้นเรื่อง บทละครงดงาม ท่าเต้นสวยงาม และเพลงเพราะอีกเช่นเดิม
จะว่าไปเนื้อเรื่องทั้งหมดออกจะซับซ้อนเกินกำลังคนนอกญี่ปุ่น
ผู้กำกับฯ ยูอาสะได้รับเชิญเดินสายอธิบายรายละเอียดของเรื่องราวหลังการฉายในหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม ลำพังบทเพลงและดนตรีในครึ่งเรื่องหลังนี้ก็ทำให้นี่เป็นอะนิเมชั่นที่พลาดไม่ได้อยู่แล้วแม้จะดุไม่เข้าใจทั้งหมดในรอบที่หนึ่ง ผู้กำกับฯ ให้สัมภาษณ์ว่าดนตรีและท่าเต้นที่เห็นในหนังได้แรงบันดาลใจจากร็อกสตาร์หลายคน
อาวูจังซึ่งเป็นนักร้องนำของวง Queen Bee รับบทเป็นอินุโอ และนักแสดงมิไร โมะริยะมะสำหรับบทโทโมะนะ
จุดจบของอินุโอะและโทโมนะจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม
“ตัวละครหลักของอินุโอะ เป็นนักแสดงละครโนะที่แสดงละครโนะแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น ในปัจจุบันเรามองว่าศิลปะการแสดงดั้งเดิมเป็นสิ่งที่สง่างาม แต่ในอดีตกาลมันเป็นความบันเทิงทั่วไปที่ชนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ ผมต้องการที่จะแสดงให้ผู้ชมเห็นถึงสิ่งที่คนสมัยนั้นเขาสนใจจริงๆ ในรูปแบบที่คาดไม่ถึง”
“สมมุติว่าคุณเห็นคนเล่นกีตาร์บนหลังของเขา หลายคนอาจคิดว่าเขากำลังเลียนแบบจิมมี่ เฮนดริกซ์ แต่จริงๆ แล้วมีภาพที่เกิดขึ้นจริงของคนที่ทำสิ่งเดียวกันก่อนที่จิมมี่ เฮนดริกซ์ จะทำเสียอีก แม้แต่หลายพันปีก่อนในจีนก็มีภาพวาดของคนที่กำลังเล่นบิวะจากข้างหลัง”
เป็นบทสัมภาษณ์ของยูอาสะ คัดจากเว็บไซต์ JFF Bringing Japanese Film to You
มีอีกสองเรื่องที่ควรเพิ่มเติม หนังเรื่องนี้ออกฉายในช่วงโควิด นั่นทำให้ผู้ดูไม่สามารถปรบมือหรือเปล่งเสียงระหว่างดูได้ อันนี้เป็นที่น่าเสียดายจริงๆ
ปิดท้ายด้วยการเล่นตลกกับอัตลักษณ์ของอินุโอะ จะเห็นว่ากว่าหนังจะจบ อินุโอะซึ่งมีเอกลักษณ์ของตนเองที่ร่างกายประหลาด
ปรากฏว่าดนตรีประหลาดที่เขาเล่นนั้นเองที่ทำให้อัตลักษณ์ทางร่างกายของเขาหายไปเมื่อเปิดหน้ากากในตอนสุดท้าย •
การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022