E-DUANG : เส้นทาง จอมยุทธ์ ตู่ จตุพร ทนายนกเขา และ สุริยะใส

การผนึกตัวผนวกพลังระหว่าง ตู่ จตุพร กับ ทนายนกเขา ถือได้ว่าร้อนแรงอย่างเหลือเชื่ออยู่แล้วยิ่งปรากฏเงาร่างของ ไทกร ขึ้นมาอีกคนยิ่งคึกคัก

เป็นความคึกคักอันสะท้อนการดำรงอยู่แห่ง”คณะหลอมรวม ประชาชน”อย่างแท้จริงหากไม่ผ่านกระบวนการ”หลอม”ก็ยากจะ”รวมได้

อย่าได้แปลกใจหากพลันที่ปรากฏปฏิบัติการเปิดโปงกรณี แรมโบ้ เสกสกล ผ่านจำนวนเงิน 2 ล้านบาทโดย วีระแห่งปอยเปตก็ยิ่งคึกคัก

นี่ย่อมสะท้อนปรากฏการณ์”ชุมนุมมังกร ซ่อนพยัคฆ์”ในทางการเมืองที่แสดงบทบาทตั้งแต่สถานการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 ต่อเนื่องมายังเดือนพฤษภาคม 2557

ไม่เชื่อลองสาวไปถึงฐานที่มาไม่ว่าจะเป็น ตู่ จตุพร ไม่ว่าจะเป็น ทนายนกเขา ไม่ว่าจะเป็น ไทกร ไม่ว่าจะเป็น แรมโบ้ เสกสกล กระทั่งถึง วีระ

ก็จะต้องเกิดอาการตะลึงตึงตังอย่างแท้จริงในทางความคิดในทางการเมือง

เพราะมีทั้งเป็น”พันธมิตร”และ”ขัดแย้ง”กันปรากฏ

 

การหลอมรวมระหว่าง ตู่ จตุพร กับ ทนายนกเขา ก็ดำเนินไปเหมือนกับสายสัมพันธ์ระหว่าง ตู่ จตุพร กับ สุริยะใส ศรีสะเกษ

นั่นก็คือ ความเป็น”มิตร”แม้จะอยู่กันคนละ”กลุ่ม”

ฐานการเมืองของ ตู่ จตุพร อาจเป็นนปช.อาจเป็นคนเสื้อแดง ขณะที่ฐานการเมืองของ ทนายนกเขา อยู่ที่นางเลิ้งและชมชอบปักหลักอยู่ในย่านอุรุพงษ์

แต่ สุริยะใส ศรีสะเกษ เติบโตมากับ พิภพ หมู่บ้านเด็ก ครป.และพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย

ขณะที่ ไทกร โดดเด่นขึ้นมากับมวลมหาประชาชน กปปส.

ขณะที่ วีระ เคลื่อนไหวในการเปิดโปงในเรื่องทุจริตคอรัปชั่นและดำรงความเป็นอิสระของตนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

เคยแตะเข้าไปยังเสรีรวมไทย แต่ในที่สุดก็แยกออกมา

แต่ละคนล้วนเป็น”จอมยุทธ์”และดำรงอยู่อย่าง”อิสระ”

 

ต้องยอมรับว่า ตู่ จตุพร ดำรงบทบาทของตนอย่างโดดเด่น ไม่ว่าจะอยู่เวทีใดในทางการเมือง

จากพฤษภา 2525 มายังพฤษภา 2553

อาจแลดูเหมือนกับจะเป็น”สื้อแดง”ยืนตรงกันข้ามกับ”เสื้อ เหลือง” แต่ก็เคลื่อนไหวร่วมกับ ทนายนกเขา เป็นเพื่อนกับ สุริยะใส

และรู้จักทั้ง”แรมโบ้ เสกสกล”และ”วีระ”เป็นอย่างดี