การ์ตูนที่รัก นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ / Captain Underpants : The First Epic Movie

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Captain Underpants : The First Epic Movie

หนังการ์ตูนสามมิติเรื่องใหม่ของดรีมเวิร์คส์เรื่องนี้กลายเป็นหนังการ์ตูนต้นทุนต่ำสุดของดรีมเวิร์กส์แต่ทำรายได้มากมายและได้รับคำชมอย่างไม่น่าเชื่อ

สร้างจากนิยายสำหรับเด็กชื่อเดียวกันเขียนโดย Dav Pilkey

หนังเล่าเรื่องเด็กชายสองคน จอร์จ เบียร์ด และ ฮาโรลด์ ฮัทชิน เด็กสองคนเป็นเพื่อนรักกัน คนหนึ่งแต่งเรื่อง คนหนึ่งเขียนรูป ช่วยกันทำหนังสือการ์ตูนทำมือแจกจ่ายเพื่อนๆ อ่าน

แล้วก็ถูกครูใหญ่ครับบ์ยึดไปทุกที

หนังสือการ์ตูนเล่าเรื่องโลกชุดชั้นใน เป็นดาวรักสงบทุกคนใส่แต่ชุดชั้นใน แต่แล้วจู่ๆ ดาวก็ใกล้จะระเบิด ราชาและราชินีชุดชั้นในใช้ชุดชั้นในยางยืดยิงลูกชายของพวกเขาขึ้นสู่อวกาศ ทารกนั้นปลิวมาตกบนโลกและได้รับการเลี้ยงดูโดยโลมาคู่หนึ่ง เขาเติบโตเร็วมากกลายเป็นกัปตันกางเกงในพิทักษ์โลกจากเหล่าร้ายทั้งปวง

และนี่คือฉบับตำนาน กำเนิดกัปตันกางเกงใน

“แควก!” ครูครับบ์คว้าต้นฉบับฉบับตำนานไปฉีกทิ้ง “ครูบอกแล้วให้เลิกวาดอะไรเหลวไหล!”

จอร์จ เบียร์ด ผิวคล้ำผมเกรียนเป็นคนแต่งเรื่อง ฮาโรลด์ ฮัทชิน ผิวใสผมทองเป็นคนวาดรูป

“นี่คือครูครับบ์ ครูใหญ่ที่แย่ที่สุดในโลก โหดโฉดสุดๆ เกลียดทุกอย่างที่สนุก” สองคนแนะนำครูใหญ่ให้ผู้ชมฟัง แล้วก็ถูกเรียกตัวไปที่ห้องครูใหญ่

ข้างหลังครูครับบ์ติดคำขวัญสองคำ วินัย Discipline อำนาจ Authority ด้านหน้าโต๊ะเขียนว่า ความหวังพังตรงนี้ Hope Dies Here

ฉากเปิดเรื่องตอนต้นนี้เพียงสั้นๆ ทำให้เดาได้ว่าดรีมเวิร์กส์จะเล่าเรื่องระบบการศึกษาดั้งเดิมหรือที่กำลังเป็นอยู่ในสหรัฐอเมริกาหลายแห่งซึ่งมีปัญหาเหมือนบ้านเรา นั่นคือไม่ส่งเสริมเรื่องที่เด็กชอบ สนุกและทำได้ดี ไม่ต่อยอดการเรียนรู้โดยใช้เด็กเป็นตัวตั้ง

นอกจากไม่ทำแล้วยังกลับใช้อำนาจในนามของวินัยที่แปลว่าการกดขี่บังคับให้เด็กทำตามกฎและความต้องการของครูใหญ่ อันจะนำไปสู่คำประกาศหน้าโต๊ะของครูครับบ์คือความหวังพังตรงนี้

“สี่ปีที่พวกเธอมาอยู่ที่นี่ คอยขัดขวางระเบียบปฏิบัติราวหุ่นยนต์ที่เราวางไว้อย่างดี พวกเธอเอาแต่แกล้งคน” ครูครับบ์เดือดดาล

ที่สองคนทำมากที่สุดคือคอยแกล้งพวกคุณครูโดยเฉพาะครูครับบ์

เมื่อสองคนเดินออกจากห้องครูครับบ์ผ่านเด็กๆ นักเรียนแต่ละคนบนโถงทางเดิน มีแต่นักเรียนซึมเซาไร้รอยยิ้ม พอเดินผ่านห้องเรียนที่ครูผู้หญิงแก่ๆ กำลังขานชื่อปี ค.ศ. ต่างๆ ตามวิชาประวัติศาสตร์ให้เด็กๆ ท่อง เด็กบางคนเอาหัวโขกโต๊ะด้วยความหมดหวัง

“เราสองคนถึงต้องทำอย่างที่ทำไง คือสร้างความสนุก” สองคนเดินพูดคุยกันกลับมาที่ห้องเรียนที่ซึ่งเพื่อนทั้งห้องนั่งจับเจ่ากันอยู่เงียบๆ ไม่มีใครเล่นซนอะไรผิดวิสัยอายุของแต่ละคน

ยกเว้นคนหนึ่ง คือเด็กเรียนเก่งใส่แว่นชื่อเมลวิน เขาเป็นเด็กดีประจำห้องและเป็นเด็กขี้ฟ้องประจำตัวครูครับบ์ ดูจากการแต่งตัวแล้วเมลวินเป็นลูกคนมีอันจะกิน

ทันใดนั้นครูวิทยาศาสตร์ร่างอ้วนเข้ามาขัดจังหวะ ที่แท้พวกครูเองก็เศร้าซึมเดินอย่างซังกะตาย และเมื่อครูครับบ์ประกาศให้วันเสาร์นี้มีกิจกรรมพิเศษที่เด็กๆ ต้องมาทำโครงงานพิเศษที่โรงเรียนตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ครูวิทยาศาสตร์ก็เป็นฝ่ายเอาหัวโขกโต๊ะบ้างเพราะนี่เป็นครั้งที่สามของเดือนนี้แล้วที่ครูต้องออกมาทำงานวันเสาร์

ดูไปก็อดแปลกใจมิได้ว่าสถานการณ์ช่างละม้ายคล้ายคลึงการศึกษาบ้านเรา เด็กและครูเบื่อการเรียนในห้องยังไม่พอ ผู้บริหารยังช่างขยันทำโครงการพิเศษนั่นนี่ ซึ่งเดาได้ว่าเป็นโครงการพิเศษที่พิเศษตามใจใครบางคนโดยที่เด็กนักเรียนมิได้มีโอกาสคิดสร้างสรรค์อะไรนอกจากทำโชว์

ข้างพวกคุณครูก็มิได้สนุกอะไรด้วยเพราะรู้ว่ากิจกรรมแต่ละอย่างที่ขยันทำแล้วได้รางวัลมากมายนั้นเป็นผักชีโรยหน้าเกือบทั้งนั้น โดยที่ทุกๆ กิจกรรมทำให้พวกคุณครูต้องเอาแต่ประชุม เตรียมงาน คุมเด็กจนกระทั่งไม่มีเวลาสอนหรือพักผ่อน

ถึงเวลาเลิกเรียน จอร์จและฮาโรลด์รีบกลับบ้าน บ้านของทั้งสองอยู่ติดกันโดยมีบ้านต้นไม้บนต้นไม้ใหญ่อยู่ตรงกลาง นี่คือสำนักงานทรีเฮ้าส์คอมิกส์อิงซ์ คือที่ที่เด็กสองคนปลดปล่อยจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ คนหนึ่งคิดเรื่อง คนหนึ่งเขียนรูป คือสวรรค์ของเด็กๆ โดยแท้

สองคนรู้จักกันครั้งเรียนชั้นอนุบาล ตอนนั้นครูผู้หญิงหน้าตาดุสอนวิชาวิทยาศาสตร์ ครูอนุบาลนะเนี่ย หล่อนพูดว่าดาวเคราะห์ดวงที่ 7 ชื่อ “ยูเรนัส” จอร์จและฮาโรลด์หัวเราะกิ๊กโดยไม่ได้นัดหมายกระซิบกระซาบใส่กันว่า “ยัดรูไหน”

อันนี้ฝีมือคนแปล ยูเรนัส ยัดรูไหน เสียงในฟิล์มคือ Uranus และ Your anus

หนังสือ Captain Underpants นี้เป็นฝีมือเขียนของ แดฟ พิลคีย์ เป็นหนังสือ 12 เล่มจบชนะรางวัลการประกวดหนังสือของดิสนีย์ ได้รับการแปลมากกว่า 20 ภาษา ขายไปมากกว่า 70 ล้านเล่มทั่วโลก เฉพาะในสหรัฐอเมริกามากกว่า 50 ล้านเล่ม เป็นดรีมเวิร์กส์ที่เห็นศักยภาพเอามาทำเป็นหนังการ์ตูน อัดมุขฮาเพียบตามสไตล์ แต่ก็ยังเป็นที่ชื่นชอบของนักวิจารณ์

จอร์จและฮาโรลด์ไม่เปลี่ยนแปลง ครูครับบ์เหลือทนจึงลงโทษขั้นสูงสุดนั่นคือจับเด็กสองคนแยกไปเรียนทีละห้อง นี่คือคำพิพากษาที่ร้ายกาจสำหรับเด็กประถมสี่ซึ่งมีหน้าที่ตามจิตวิทยาพัฒนาการที่สำคัญคือเพื่อนและการเล่นหรือทำงานกับเพื่อน

เด็กสองคนจึงใช้แหวนสะกดจิตของเล่นที่แถมมาสะกดครูครับบ์เป็นกัปตันกางเกงใน นับจากนี้เวลาดีดนิ้วครูครับบ์จะกลายเป็นกัปตันกางเกงในภายใต้อาณัติของเด็กทั้งสอง และกลับคืนสติเมื่อถูกสาดด้วยน้ำ

ดูเหมือนพายุร้ายจะผ่านไปแล้ว

แต่ยังไม่จบ มีครูคนใหม่ย้ายมาที่โรงเรียน เขาคือปู๊ดป๊าดปุ๋ง (Professor Pippy P. Poopypants) ผู้มีความหลังฝังใจวัยเด็ก ครูพีร่วมมือกับเด็กรวยเรียนเก่งขี้ฟ้องอย่างเมลวินประดิษฐ์เครื่องมือที่จะกำจัดเสียงหัวเราะของเด็กนักเรียนประถมให้หมดไปอย่างถาวร

จะเห็นว่าศัตรูร้ายกาจยิ่งกว่าครูใหญ่คือนักวิชาการ นักวิชาการที่คลั่งวิชาการและเชื่อว่านักเรียนที่หน้าที่เรียนหนังสือ ความสนุกเป็นสิ่งแปลกปลอม และเด็กดีคือมีวินัย

ช่วงท้ายของหนังยังมีอีกหลายฉากสะท้อนระบบการศึกษาที่ผุพังรอวันล่มสลาย แต่ระหว่างที่ยังไม่ล่มสลายก็ยังสามารถก่อความเสียหายให้ทั้งเมือง และประเทศชาติ