โหรเตือน “ดวงประยุทธ์โดนเสาร์รังแก อยู่ต่อก็มีแต่สร้างกรรม” แนะนำให้ออกไปอยู่บ้านเลี้ยงหลาน

เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา กองบรรณาธิการศิลปวัฒนธรรม ได้จัดงานเสวนา“ ชะตาเมือง – เรื่องดวงดาว” โดยมีวิทยากรคือ บุศรินทร์ ปัทมาคม และ วสุวัส คำหอมกุล โหรชื่อดังที่มีทั้งคนรุ่นใหม่ และแฟนนิตยสารติดตามกันอย่างมากมาย ในงานเสวนาได้มีการพูดถึงประเด็นต่าง ๆ เช่นเรื่องเศรษฐกิจในปีนี้ เรื่องภัยพิบัติ โรคระบาด หรือประเด็นที่น่าสนใจอย่างเรื่องการเมืองในปี 2566

ในปี 2566 เรื่องของเศรษฐกิจนั้นอาจารย์ บุศรินทร์ กล่าวว่า “เรื่องเศรษฐกิจไทยไม่น่าเป็นห่วงเท่าการเมือง เพราะดาวเสาร์มีคุณภาพสูงขึ้นผมมองว่ารายรับของบ้านเมืองก็จะดีขึ้น แต่ความยุ่งยากอาจอยู่ที่รัฐบาลคงจะบริหารยาก” คุณ วสุวัสกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “เศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรกจะดี ผู้คนมีความหวังมากขึ้นเพราะคนจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ในช่วงนี้ทั้งดาวราหู และดาวพฤหัสยังเป็นดาวที่เป็นคุณอยู่ ธุรกิจค้าขายส่งออกอยู่ในช่วงที่กำลังบูม แต่ครึ่งปีหลังโจทย์ของรัฐบาลคือจะรักษาสภาพเศรษฐกิจเหมือนครึ่งปีแรกได้หรือเปล่า อย่างแย่ที่สุดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจนจะเพิ่มมากขึ้น อีกอย่างนึงคือการมาของดาวราหูทำให้ผมมองว่าธุรกิจสีเทาจะเพิ่มมากขึ้น”

เรื่องของสถานการณ์บ้านเมืองในปีนี้ แนวโน้มการเกิดภัยพิบัติหรือโรคระบาดต่าง ๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง อาจารย์ บุศรินทร์ตอบว่า หลังจากช่วง 19 เมษา 66 ไปแล้วดาวพฤหัสจะย้ายเข้าราศีเมษ ซึ่งเป็นธาตุไฟ เรื่องของภัยพิบัติน่าจะเกี่ยวข้องกับไฟมากกว่าน้ำ เพราะงั้นที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องของไฟ เช่น ไฟไหม้ หรือการระเบิด คุณวสุวัสเองก็เห็นด้วยเรื่องของการระวังเกี่ยวกับไฟ กล่าวเพิ่มเติมว่า ใครที่บ้านอายุเยอะแล้วให้เช็คสายไฟให้ดี และในช่วงเดือนเมษา – มิถุนามีเรื่องของดาวอังคารเข้ามาเพิ่มอีก คนที่ดวงเดิมดาวอังคารไม่ค่อยดีต้องระวังเป็นพิเศษ อีกเรื่องที่ต้องระวังคือ การเดินทางทั้งทางเครื่องบิน และขนส่งทางน้ำต่าง ๆ ในช่วงปลายปี เพราะช่วงนั้นธาตุน้ำจะเริ่มแรงขึ้น คุณ วสุวัสยังกล่าวว่า อีกอย่างที่ต้องระวังคือ เรื่องของโรคระบาดปีนี้ต้องระวังโรคที่เกี่ยวกับอาหาร ให้ระวังการติดเชื้อที่มาจากเนื้อสัตว์

หนึ่งประเด็นที่เรียกได้ว่าเป็นที่สนใจของประชาชนทุกคนนั้นคือเรื่องของการเมืองในปีนี้ เรียนถามอาจารย์ทั้งสองท่านเรื่องของการเลือกตั้งว่าปีนี้จะได้มีการเลือกตั้งไหม อาจารย์ทั้งสองตอบว่า มีโอกาส 80-90% ที่จะได้เลือกตั้งแน่นอน แล้วถ้าได้เลือกแล้วรัฐบาลจะเปลี่ยนหรือเปล่า เราจะได้นายกคนใหม่หรือคนเดิม คำถามนี้อาจารย์ บุศรินทร์ตอบว่า “ดวงของนายกประยุทธ์อาจจะไม่เปลี่ยน แต่การอยู่ต่อจะทำให้ท่านมีโอกาสได้สร้างกรรมที่ไม่ดีกับคนที่รอปองร้ายท่านอยู่ ต้องป้องกันสูงหน่อยหลังจากดาวเสาร์ขึ้นทับลัคนา เพราะลัคนาของท่านอยู่ที่ราศีมีนหรืออยู่ในเดือนมรณะ ดวงแบบท่านเรียกว่าเสาร์รังแก” อาจารย์ บุศรินทร์ยังกล่าวอีกว่า “หลัง 14 กุมภาพันธ์ 2569 ตอนนั้นคุณประยุทธ์น่าจะต้องเข้าวัดนุ่งขาวห่มขาว ป้องกันตัวเต็มที่เพราะมีโอกาสที่จะเจ็บหนัก หรือถึงขั้นตาย ท้าพนันได้เลยว่าถึง 14 เมษา 2571 ถ้าประยุทธ์ยังอยู่มาพนันกับผมคนละแสนก็ได้” เพราะฉะนั้นอาจารย์ บุศรินทร์สรุปว่า ประยุทธ์จะได้อยู่ต่อ แต่อยู่เพื่อทำกรรมต่อไป แต่ในประเด็นนี้คุณ วสุวัสเห็นต่างโดยมองว่านายกจะเปลี่ยนคนแน่นอน “ตอนนี้ดาวมฤตยู และดาวหลาย ๆ อย่างเข้ามาทำให้เห็นถึงการไม่เอาของเก่า ๆ ต่อแล้ว แต่ถ้าคุณประยุทธ์ได้อยู่ต่ออาจไม่ได้อยู่ด้วยวิธีการเลือกตั้ง และถ้าหากได้นายกคนใหม่มาโดยไม่รู้ว่าจะเป็นใคร ผมมองว่าอยู่ได้ประมาณปีครึ่งเท่านั้น” คุณ วสุวัส กล่าวถึงนายกประยุทธ์อีกว่า “ไม่ต้องรอถึงสามปีแค่ปีนี้ดวงเขาก็แย่แล้ว ผมว่าประมาณเดือนตุลานี้น่าจะโดนขุดเรื่องเก่า ๆ หรือคดีที่เขาทำไว้มาแฉ” คุณวสุวัส แนะนำให้นายกประยุทธ์ออกไปยู่บ้านเลี้ยงหลานดีกว่า

และในการเสวนามีการถามคุณ วสุวัสว่านายกจะเป็นผู้หญิงได้ไหม คุณ วสุวัสตอบว่า “ดวงเมืองแบบนี้นายกป็นผู้หญิงไม่ได้ ถ้าจะมีนายกหญิงต้องมีผู้ชายที่ใหญ่กว่ามาคุมนายกผู้หญิงคนนี้อีกทีนึง” แล้วถ้ารัฐบาลไม่ใช่พลเอกประยุทธ์ต่อจะมีโอกาสเกิดการรัฐประหารอีกหรือไม่ คุณ วสุวัสตอบในประเด็นนี้อีกว่า มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นอาจเป็นช่วงเดือนกันยา แต่โอกาสสำเร็จอาจจะน้อยหน่อยต้องมาดูอีกว่าดวงของผู้ที่จะทำเป็นอย่างไร ในมุมของ อาจารย์ บุศรินทร์ มองว่ารัฐประหารอาจเป็นไปได้น้อย แต่ที่น่าเป็นห่วงจริง ๆ คือเรื่องของการโกงการเลือกตั้ง เพราะการที่ดาวราหูทับลักคนาของดวงเมืองเช่นนี้ มีโอกาสทำเกิดความปั่นป่วนทำนองการโกงการเลือกตั้ง และเชื่อว่าคนโกงจะโกงสำเร็จ เราจะมีโอกาสได้เห็นคนรุ่นใหม่ขึ้นมาเป็นผู้นำหลังการเลือกตั้งในปี 2566 หรือไม่ คำถามนี้ คุณวสุวัส ให้คำตอบว่าถ้ารัฐธรรมนูญยังไม่ถูกแก้คงยังไม่มีโอกาสได้เห็น หรือถ้าจะมีอาจเป็นช่วงหลังปี 2569 ไปแล้ว

สุดท้ายนี้โหราจารย์ทั้งสองท่านให้คำแนะนำสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสนใจด้านโหราศาสตร์ว่า เรื่องโหราศาสตร์ไม่ใช่เรื่องยาก สามารถหาศึกษาด้วยตัวเองได้เลย ที่สำคัญโหราศาสตร์มีประโยชน์มากมายสามารถนำมาอ่านเหตุการณ์ให้กับคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนหรือครอบครัว หรือเอาไปคุยกับใครเค้าก็ได้ และยังนำไปทำเป็นอาชีพเสริมในอนาคตได้อีกด้วย