ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 13 - 19 มกราคม 2566 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
ชวนอ่านหนังสือการ์ตูนของฮายาโอะ มิยาซากิ เขาเขียนเรื่องเองแต่ไม่ได้สร้างเป็นหนังทั้งที่มีโครงการมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 อย่างไรก็ตาม พล็อตย่อยบางพล็อตมีปรากฏใน Nausica? of the Valley of the Wind ของมิยาซากิเองกับ Tales from Earthsea ของบุตรชายโกโระ มิยาซากิ
เป็นหนังสือการ์ตูนสีน้ำเล่มเดียวจบออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1983 แต่เพิ่งจะมีฉบับแปลอังกฤษโดย Alex Dudok de Wit ปี 2022 นี้เอง พิมพ์ปกแข็งอย่างดี ฉากหลังโบราณ เนื้อหานำสมัย มีบทบรรยายกับบทสนทนาดีๆ หลายตอน
ที่ดีที่สุดย่อมเป็นการลงสีสวยงามน่าชมเชย เบาบางล่องลอยเหมือนฝันแต่หากมิใช่ความฝัน
ชูน่า เป็นเจ้าชายดินแดนแห่งหนึ่งในหุบเขาบนเขาสูงที่ถูกหลงลืม เป็นชุมชนล้อมรอบด้วยผาหินกับผาน้ำแข็งที่ซึ่งแสงอาทิตย์ส่องลงมาไม่ถึง เป็นที่น่าแปลกใจว่าเพราะอะไรผู้คนเหล่านี้จึงไม่ย้ายถิ่นฐานไปที่อื่น ผืนดินแห้งแล้งปวงประชาอดอยาก
ชูน่าออกเดินทางคนเดียวบนหลังสัตว์เลี้ยงคล้ายกวางที่เรียกว่ายัคคูล ซึ่งเราจะได้เห็นตัวที่คล้ายๆ กันนี้ใน Princess Mononoke เขาไปตะวันตกเพื่อตามหาเมล็ดพันธุ์พืชที่ว่ากันว่าจะนำความอุดมสมบูรณ์มาให้แก่แผ่นดิน
บทที่หนึ่งก็ชวนแปลกใจแล้ว เพราะอะไรคนเผ่าหนึ่งจึงไม่ยอมย้ายถิ่นที่อยู่แม้ว่าจะอดอยากหมดทางแก้ไข
มีคำอธิบายหนึ่งว่าเพราะผู้คนของดินแดนหนึ่งถือกำเนิดมาพร้อมดวงจิตที่ซึมซับสิ่งแวดล้อมไว้เป็นส่วนหนึ่งของตัว พฤติกรรมของผู้คนได้หลอมรวมกับสิ่งแวดล้อมนั้นๆ ไปแล้วและมีโอกาสรอดน้อยยิ่งกว่าหากอพยพย้ายถิ่นไปอยู่ที่อื่น
เรื่องเมล็ดพันธุ์พืชยิ่งน่ากังวล เป็นเพราะชูน่าพบชายชราเร่รอนมาตายที่หมู่บ้าน ก่อนตายชายชราเล่าว่าครั้งหนึ่งตนเองเป็นเจ้าชายหนุ่ม ณ ดินแดนไกลโพ้นอันแร้นแค้นทางตะวันออกเหมือนชูน่าตอนนี้ เขาได้เมล็ดพันธุ์วิเศษ 3-4 เมล็ดมาจากนักเดินทางคนหนึ่งซึ่งตายไปแล้วเช่นกัน แต่ที่เขามีเป็นเมล็ดที่ตายแล้วเขาจึงต้องออกเดินทางมาตะวันตกเพื่อตามหาเมล็ดใหม่ๆ ซึ่งก็ไม่พบเสียที
เป็นว่าชูน่าเป็นเจ้าชายลำดับที่สามที่จะเริ่มต้นเดินทางไปตะวันตก เหมือนเวลาจะหยุดนิ่งแล้วหมุนวน
ชูน่าและยัคคูลคู่ใจ (ซึ่งน่าสงสัยอีกว่าทำไมไม่ตั้งชื่อ) เดินทางผ่านดินแดนประหลาดและน่าเกรงขาม บางส่วนคล้ายๆ เส้นทางสายไหม และบางแห่งคล้ายๆ รูปสลักขนาดยักษ์ในอัฟกานิสถาน สองชีวิตคู่ใจผจญอันตรายหลายสิ่ง จนมาถึงเมืองค้าทาสแห่งหนึ่งซึ่งพวกนักล่าทาสปกครองอยู่
ชูน่าพยายามไถ่ตัวเด็กหญิงเทียและน้องสาวที่ตกเป็นทาสรอถูกขายต่อ แต่พวกนักค้าทาสไม่ขาย เขาสืบเสาะต่อไปจนพบว่าพวกนักค้าทาสจะเอาทาสเหล่านี้ไปแลกกับธัญญาหารที่ดินแดนอันเป็นบ้านเกิดและเรือนตายของพระจันทร์ ที่นั่นมีมนุษย์เทพเจ้า (God-Folk) คอยเพาะปลูกเมล็ดพันธุ์วิเศษเป็นพืชผลอุดมสมบูรณ์
ไม่มีใครรู้ว่าพวกมนุษย์เทพเจ้าจะเอาทาสไปทำอะไร
ช่วงชูน่าเดินทางร่อนเร่ทะเลทรายก่อนจะมาถึงเมืองค้าทาสนี้ก็น่าสนใจ เขาได้พบเรือเก่าขนาดยักษ์บนทะเลทราย ภาพนี้เหมือนยานพาหนะของพวกตัวเล็กคลุมผ้าจาวาบนทาทูอีน นอกจากนี้ ชูน่ายังพบโจรทะเลทรายในชุดคลุมน่ากลัว ชุดที่โจรทะเลทรายสวมใส่ก็ช่างคล้ายคลึงพวกทัสเคนทะเลทรายที่จับตัวแม่ของอนาคินไป
คืนนั้นชูน่าช่วยเทียและน้องสาวออกจากที่คุมขังแล้วหนีการตามล่าของนักค้าทาสอยู่สองวันไปจนมุมที่ริมผา
ชูน่าให้เทียพาน้องสาวขี่ยัคคูลหลบขึ้นเหนือแล้วรอเขาอยู่ที่นั่น เขาตัวคนเดียวสามารถรับมือและหลอกล่อพวกนักค้าทาสได้คล่องตัวกว่า
หลังจากที่เขาล่อพวกนักค้าทาสพลาดท่าเสียทีตกเหวไป พลันดวงจันทร์สุกสว่างก็ปรากฏขึ้นเหนือตัวเขาแล้วโคจรหายไปในหุบเขาลึกเบื้องล่าง ที่นั่นเองคือบ้านของพระจันทร์
ชูน่าปีนลงไปพบทะเลรออยู่เบื้องล่าง เขาสลบไปเพราะความเหนื่อยอ่อนที่ชายหาดนั้นเอง
หลังจากนี้คือช่วงครึ่งหลังที่ซึ่งเขาจะพบความลับน่ากลัวที่ซุกซ่อนและการหนีเอาตัวรอด เขาจะได้เมล็ดพันธุ์วิเศษที่ต้องการหรือไม่ เขาจะได้พบกับพี่น้องสองสาวอีกรึเปล่า น่าติดตาม
อ่านถึงตรงนี้จะชวนคุยเรื่องเนื้อหา ส่วนเนื้อเรื่องจะสนุกสนานเพียงไรคงต้องลุ้นมีใครแปลไทยมาให้อ่าน หรือท่านที่สนใจหาซื้อฉบับภาษาญี่ปุ่นหรืออังกฤษอ่านได้ ทราบว่ารอให้สร้างเป็นหนังน่าจะยากแล้ว กับหลายส่วนของหนังสือได้กระจายไปที่หนังเรื่องต่างๆ ของจิบลินับตั้งแต่ที่มิยาซากิเขียนเรื่องนี้ขึ้นเมื่อ 40 ปีก่อน
แต่จะว่าไปการค้าทาสและผูกขาดการค้ายังไม่หายไปไหน หากว่านักค้าทาสในหนังสือโหดเหี้ยมแล้วนั่นเป็นการค้าทาสแบบโบราณ พวกมนุษย์เทพเจ้ามีการค้าทาสและใช้แรงงานได้แนบเนียนกว่า
ไม่เพียงที่พวกท่านจะผูกขาดเมล็ดพันธุ์แต่ท่านเปลี่ยนพวกคนธรรมดาอย่างเราๆ ให้เป็นบริวารที่ต้องพึ่งพิงผลผลิตจากเมล็ดพันธุ์จนโงหัวไม่ขึ้น
ไม่ต่างจากพลโลกจำนวนมากทุกวันนี้ที่ไม่มากก็น้อยก็ต้องภักดีกับบรรษัทหรือแบรนด์อะไรสักแบรนด์
แรงงานละทิ้งผืนดินไปทำงานโรงงานหาเงินเพื่อแลกพันธุ์ข้าวไม่ต่างอะไรกับที่เห็นในหนังสือเล่มนี้
มิยาซากิเขียนเรื่องนี้จากนิทานทิเบตเรื่อง The Prince Who Turned into A Dog
เจ้าชายคนหนึ่งเดินทางไปตะวันตกเพื่อหาเมล็ดพันธุ์วิเศษ เขาถูกราชาตะวันตกจับได้แล้วเสกเขากลายเป็นสุนัข
แต่สุนัขนั้นได้เมล็ดพันธุ์กลับมา มันเดินทางร่อนเร่มาจนพบสตรีนางหนึ่งซึ่งรับเลี้ยงดู
เมื่อสตรีนั้นถูกบังคับให้แต่งงาน เธอเลือกจะแต่งงานกับสุนัข
สุนัขคืนร่างเป็นเจ้าชายและนำเมล็ดพันธุ์กลับไปที่แผ่นดินของตน
ข้าวบาร์เล่ย์ในทิเบตมิได้เป็นของทิเบตตั้งแต่แรก แต่มาจากที่อื่นเช่นกัน
ชูน่ามีตอนท้ายคล้ายๆ กันเลย เพียงแต่เขามิได้ต้องเป็นสุนัข •
การ์ตูนที่รัก | นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022