What Hi-Fi? Awards 2022

What Hi-Fi? Awards 2022

 

เมื่อช่วงต้นสัปดาห์แรกของไตรมาสสุดท้ายปีนี้ นิตยสาร What Hi-Fi? UK. ที่ระยะหลังจับมือกับร้านค้าปลีกอิสระจำหน่ายอุปกรณ์ระบบภาพและเสียง รายใหญ่ที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งก่อตั้งมาร่วมครึ่งศตวรรษแล้ว ได้ร่วมกันประกาศรางวัลดังที่จ่าหัวเอาไว้ออกมาแล้วล่ะครับ เลยนำมาเล่าสู่กันฟังต่อตามประสาที่เคยทำมา ด้วยทุกวันนี้ตลาดเครื่องเสียงบ้านเราได้ชื่อว่าเป็นขาใหญ่ของวงการรายหนึ่ง เพราะมีเครื่องเล่นภาพและระบบเสียงขายเกือบจะทุกแบรนด์

จึงเผื่อว่าใครกำลังสนใจเครื่องประเภทไหนอยู่ ก็พอจะใช้เป็นแนวทางในการเลือกหาได้

และก็เหมือนเดิมครับ คือขอไม่นำมารายงานให้ทราบทั้งหมดทุกประเภท เพราะรางวัลได้ถูกแยกย่อยกลุ่มสินค้าเป็นประเภทต่างๆ มากถึง 26 สาขา ซึ่งครอบคลุมนานาอุปกรณ์ที่ข้องเกี่ยวในชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างถ้วนทั่ว

กับผลประกาศปีนี้ซึ่งเป็นปีที่ 40 มีผลิตภัณฑ์ที่เป็น The Best ในสาขาต่างๆ ทั้งในส่วนของระบบเสียง ระบบภาพ ระบบโฮม ซิเนมา และอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคกว่าร้อยเครื่องด้วยกัน โดยแต่ละสาขานั้นได้แบ่งออกเป็นกลุ่มราคาต่างๆ แล้วเลือกผู้ชนะออกมาจากที่ได้รับการทดสอบแล้วพบว่า ให้ประสิทธิภาพ/คุณภาพออกมาเหนือชั้นกว่าในระดับเดียวกัน ซึ่งมีทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าคละเคล้ากันไป

จากนั้นในแต่ละสาขาประเภทที่ได้รับการยกย่องเป็น Best Buy Winner จะถูกเลือกอย่างเข้มข้นอีกครั้ง เพื่อให้เหลือเพียงเครื่องเดียวสำหรับรางวัลที่เป็น Product of the Year ของสาขานั้นๆ

 

รายงานข่าวบอกว่าเมื่อปีที่ผ่านมาบรรดาพวก Big Name ของวงการอย่าง Apple, Cambridge Audio, Naim, Rega และ Sony ล้วนเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่กับนานาผลิตภัณฑ์ในแต่ละสาขาของค่าย ที่ทำให้ได้รับรางวัลอย่างเป็นกอบเป็นกำ ชนิดที่ไม่ปล่อยให้แบรนด์อื่นเข้ามาเอี่ยวด้วยได้เลย ทั้งยังสามารถรักษาสถานภาพอันโดดเด่นนั้นเอาไว้ได้ในปีนี้อีก

อาทิ Apple ยังคงยอดเยี่ยมในเรื่องของสมาร์ตโฟนกับแท็บเล็ต ขณะที่ Sony ยังครองความยิ่งใหญ่ในตลาดหูฟังไร้สาย ทางด้าน Cambridge Audio ก็ยังเป็นเต้ยในด้านสเตอริโอ แอมป์ ส่วน Naim ก็ยังโดดเด่นอยู่กับตำแหน่งหัวแถวของตลาดสตรีมมิ่งแบบไม่มีสั่นคลอน

เช่นกันกับ Rega ที่ยังคงเป็นเสมือนราชันย์เหนือหมู่ราชาของแวดวง Analogue Source อย่างเครื่องเล่นแผ่นเสียง แม้ว่าปีนี้ Pro-ject Debut Pro จะแย่งชิงมงกุฎไปจาก Rega Planar 3 ที่สวมใส่ติดต่อกันมาในช่วงหลายปีให้หลังได้ก็ตาม แต่เครื่องหลายๆ รุ่นของค่ายนี้ก็ยังติดอันดับยอดนิยมไม่เสื่อมคลาย

ขณะที่ Denon กลับมายอดเยี่ยมอีกครั้งกับ AV Amplifier ด้วยการคว้าตำแหน่งผู้ชนะระดับเบสต์ บาย ได้ถึงสองรายการ และเครื่องทั้งสองต่างก็เป็นรุ่นใหม่ที่เพิ่งวางตลาดในปีนี้ เช่นเดียวกับมีทีวีหน้าใหม่ๆ ที่เพิ่งวางตลาดปีนี้ของ LG ที่ใช้จอภาพแบบ OLED แม้จะคว้ารางวัลไปได้เป็นกอบเป็นกำ ก็ยังพอจะมีที่ว่างให้ทั้ง Philips, Samsung, Panasonic รวมทั้ง Sony ด้วย

และกับแบรนด์ Sony นั้น ใครที่ตามติดวงการชุดหูฟังแบบไร้สายคงไม่แปลกใจ เมื่อทราบว่า Model WH-1000XM5 คว้ารางวัลชนะเลิศระดับพรีเมียมของปีนี้ไปครอง แต่ที่น่าสนใจก็คือรุ่นราคาคุ้มสุดๆ อย่าง Model WF-C500 ได้รับการยกย่องให้เป็น Best Wireless Earbuds ในกลุ่มราคาต่ำกว่า 100 ปอนด์ด้วย

ขณะเดียวกันก็ออกจะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่ได้เห็นว่า Bose กลับมาสู่เส้นทางสายนี้อีกครั้งกับรุ่น QC Earbuds II

 

หันไปดูทางด้านลำโพงกันบ้าง พบว่าปีนี้ค่าย Wharfedale ออกจะโดดเด่นเอามากๆ เพราะสามารถคว้ารางวัลได้จากสองอนุกรม คือ Diamond Series และ Evo Series ทั้งยังเป็นผู้ชนะระดับผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมแห่งปีถึงสองสาขา คือ แบบตั้งพื้น และแบบแพ็กเกจที่มาเป็นชุดสำหรับใช้ในระบบโฮม ซิเนมา ขณะที่ค่าย Mission กลับมาคืนชีพมีชีวิตชีวาอีกครั้งกับลำโพงประกอบขาตั้งกับรุ่นย้อนยุคอย่าง Model 770

ปีนี้, รางวัลในส่วนของเครื่องฉายภาพ หรือโปรเจ็กเตอร์ ได้มีรางวัลแยกย่อยเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งรายการ นั่นคือรางวัลสำหรับเครื่องฉายภาพแบบ UST : Ultra Short Throw Projector (เครื่องฉายที่วางได้ใกล้ๆ กับจอภาพ) ซึ่งรายแรกที่ได้รับรางวัลนี้ คือ LG

ครับ, ทั้งหมดก็เป็นภาพรวมของรางวัลปีนี้ ซึ่งมีผลิตภัณฑ์หรืออุปกรณ์ชิ้นไหน แบรนด์ใด ได้รับรางวัลในสาขาอะไรบ้าง ขอเริ่มต้นกันที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงเป็นรายการแรกละกัน

สําหรับ Best Turntables ในระดับราคาต่ำกว่า 200 ปอนด์ ผู้ชนะยังคงเป็นหน้าเก่า รายเดิม คือ Pro-Ject Primary E ที่ยังคงเหมาะจะเป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงเครื่องแรกของใครต่อใครอย่างยิ่ง ซึ่งได้ถูกปรับปรุงให้เหมาะสมกับงบประมาณ เพื่อตอกย้ำตลาดกลุ่มมือใหม่ และประสบความสำเร็จในทุกๆ ด้าน ขณะที่ให้ใช้งานได้อย่างสนุกในทุกอารมณ์ ยังให้พื้นฐานของเสียงที่ดี มีรายละเอียด เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ

และก็เช่นเดียวกับเครื่องชนะเลิศในกลุ่มราคา 200-500 ปอนด์ ผู้ที่ได้รางวัลยังคงเป็น Rega Planar 1 ซึ่งยืนหนึ่งด้วยประสิทธิภาพของแท่นอย่างแท้จริง และไม่ว่าจะมีพัฒนาการไปกี่ครั้ง มันก็ยังคงเอาจริงเอาจังในเรื่องของคุณภาพเสียงเป็นที่ตั้ง เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ให้ความบันเทิงในการใช้งานอย่างยิ่ง โดยไม่พบข้อบกพร่องอะไรที่เป็นความชัดเจนแบบให้พูดถึงได้เลย ให้รายละเอียดเสียงที่ดี มีจังหวะจะโคนของท่วงทำนองที่น่าฟัง ใช้งานง่าย

การเปลี่ยนแปลงมาเกิดกับกลุ่มราคา 500-700 ปอนด์ ที่ผู้คว้ารางวัลไปได้ คือ Pro-ject Debut Pro ซึ่งเปิดตัวมาอย่างกระตือรือร้นและมากความสามารถ และรังสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ให้น้ำเสียงที่มีความชัดเจนและมีความถูกต้องแม่นยำสูงมาก เป็นน้ำเสียงที่เคร่งครัดต่อต้นฉบับ และถ่ายทอดออกมาได้อย่างหมดจด เที่ยงตรง ให้รายละเอียดต่างๆ ออกมาได้ครบถ้วน น่าฟัง ควบคุมเสียงเบสเอาไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีโครงสร้างและงานฝีมืออันประณีตมาก

นอกจากได้รางวัลในกลุ่มนี้แล้ว กับภาพรวมของเครื่องเล่นสาขานี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็น Product of the Year ด้วย ซึ่งก็คือเครื่องที่เห็นในภาพนั่นแหละครับ

กลุ่มราคา 1,000-2,000 ปอนด์ เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่ได้รางวัลยังคงเป็น Rega Planar 6/Ania ให้น้ำเสียงที่ผ่านการขัดเกลาออกมาอย่างสละสลวย น่ามหัศจรรย์ ทั้งยังเป็นน้ำเสียงที่มีความต่อเนื่องกันอย่างประณีตยิ่ง มีความถูกต้องเที่ยงตรงสูงมาก เป็นเครื่องเล่นแผ่นเสียงที่สัมผัสได้ถึงความประณีตตั้งแต่การออกแบบ กระทั่งบรรจงสร้างขึ้นมา ให้สปีดเสียงที่ยอดเยี่ยม ไดนามิกเป็นเลิศ นำเสนอภาพรวมของเสียงดนตรีออกมาได้อย่างละเอียดลออลึกซึ้งมาก

กลุ่มสุดท้ายที่มีราคาสูงกว่า 2,000 ปอนด์ รางวัลเป็นของ Vertere DG-1 Dynamic Groove ซึ่งเป็นรุ่นราคาต่ำสุดของค่ายนี้ แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพอันยากที่จะมีใครในระดับราคาเดียวกันสามารถเอาชนะมันได้ เป็นความลงตัวอันเกิดจากการผสมผสานกันระหว่างงานออกแบบเชิงวิศกรรม กับงานฝีมือที่ประณีตบรรจงสร้าง นำมาซึ่งความยอดเยี่ยมของน้ำเสียงอย่างแท้จริง เป็นน้ำเสียงที่ให้ความเป็นดนตรีออกมาเลอเลิศ ไดนามิกนั้นยอดเยี่ยมมาก

เที่ยวหน้าว่ากันต่อครับ •

 

เครื่องเสียง | พิพัฒน์ คคะนาท

[email protected]