อานนท์ จ่อแจ้งความ เอาผิดคฝ. – ชัชชาติ เสียใจม็อบเจ็บ ยันการแสดงออกเป็นสิทธิ ต้องดูใครทำเกินเลย

ทนายอานนท์ จ่อบุกสน.สำราญราษฎร์ เอาผิดคฝ. สลายม็อบเอเปค ทำผู้ชุมนุม ลูกตาแตกละเอียด

จากกรณีที่เจ้าหน้าที่สลายการชุมนุมของกลุ่ม ราษฎรหยุดเอเปค 2022 หลังเดินขบวนจากลานคนเมือง มุ่งหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดที่หัวมุมถนนดินสอ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการยิงกระสุนยาง และ แก๊สน้ำตา ทำให้เกิดการปะทะระหว่าง 2 ฝ่าย โดยมีการจับกุมบุคคลอย่างน้อย 25 ราย และ บาดเจ็บจำนวนมาก

ล่าสุด (19 พ.ย.) นายอานนท์ นำภา ทนายความนักสิทธิมนุษยชน แนวร่วมราษฎร ได้โพสต์เผยว่า จะเข้าแจ้งความเอาผิดกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน จากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยมีเนื้อหาดังนี้

“19 พฤศจิกายน เวลา 14.00 น. ผมกับพวกพร้อมทนายความจะเดินทางไปกล่าวโทษ เอาผิดเจ้าหน้าควบคุมฝูงชนทุกระดับชั้นที่มีส่วนใช้ความรุนแรงเข้าสลายการชุมนุมบริเวณถนนดินสอวันนี้ จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ในทุกมาตรากฎหมายที่เกี่ยวข้อง

เพื่อนเราต้องไม่เจ็บฟรี คนผิดต้องถูกลงโทษ !!!

14.00 น.เจอกันที่ สน.สำราญราษฎร์ (พื้นที่เกิดเหตุ)”

ทั้งนี้ นานอานนท์ ยังได้อัพเดตอาการของ พายุ ดาวดิน ผู้ชุมนุม 1 ในผู้บาดเจ็บระหว่างการสลายการชุมนุมดังกล่าว โดยระบุ “ร่วมกันส่งกำลังใจครับ

“อัพเดต อาการพายุ ดาวดิน 1.หมอผ่าตัดดวงตาแจ้งว่า ลูกตาทั้งลูกแตกละเอียด วุ้นตา เลนส์ตา จอตาเสียหายทั้งหมด การรักษา ตอนนี้หมอทำการผ่าตัดเย็บดวงตาให้เป็นลูกตากลมเหมือนเดิม แต่โอกาสกลับมาใช้งานได้ปกติต่ำกว่า 1 % ตอนนี้ต้องให้ยาฆ่าเชื้อต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ 2-3 วัน หากมีอาการติดเชื้อต้องกลับมาพิจารณาการควักลูกตาออกเพื่อป้องกันติดเชื้อที่อาจจะลามไปสมอง

2.หมอศัลยกรรม ในส่วนของแผลภายนอกคือ กล้ามเนื้อหนังตาขาด เสียหายมาก มีผลต่อการลืมตา กระดูกจมูกแตก ตอนนี้หมอศัลยกรรมกำลังผ่าตัดตกแต่งหนังตาที่ฉีกขาด และกระดูกจมูกแตก ”

ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กก่อนวิ่งออกกำลังกายในข่วงเช้ามืดที่สวนลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โดยในช่วงต้นมีการกล่าวถึงเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎรหยุดเอเปค 2022 บนถนนดินสอ หลังเคลื่อนขบวนจากลานคนเมือง เพื่อเดินเท้าไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สถานที่จัดการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค

นายชัชชาติกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์วานนี้ ซึ่งมีผู้บาดเจ็บจากการชุมนุม

“เป็นเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย ต้องมาทบทวนกัน จริงๆแล้วการแสดงออกเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ก็ต้องดูรายละเอียดว่ามีใครทำเกินเลยหรือเปล่า” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติยังกล่าวถึงกรณีที่โลกออนไลน์ตั้งคำถามว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของกทม.เข้าไปดำเนินการในจุดเกิดเหตุอย่างราดเร็วซึ่งอาจทำลายหลักฐานหรือไม่ โดยนายชัชชาติกล่าวว่า เป็นหน้าที่ปกติ ส่วนหลักฐานเชิ่อว่ามีกล้องนับสิบตัวที่บันทึกไว้ได้

“มีคนถามว่าทำไมเราไปกวาดถนนเร็ว ไปทำลายหลักฐานหรือไม่ เราไม่ได้มีประเด็นอะไรอย่างนั้น เป็นหน้าที่ปกติ หลักฐานสำคัญคือพวกกล้องวีดีโอต่างๆ ผมว่ามีเป็นสิบๆ ตัว คงมีการไปดูทบทวนว่าใครทำผิด หรือทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่า” นายชัชชาติกล่าว

จากนั้น นายชัชชาติกล่าวลงรายละเอียดถึงผู้บาดเจ็บ 2 รายซึ่งมีเลือดออกที่ดวงตา ได้แก่ ‘เจน’ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ และ ‘พายุ ดาวดิน’ รวมถึงการเตรียมประสานช่วยเหลือผู้ถูกควบคุมตัว โดยได้แจ้งกับพลตำรวจเอกอดิศร์ งามจิตสุขศรี ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. แล้ว

“สำหรับรพ.สังกัดกทม.ไม่มีใครแอดมิดเข้ามา ส่วนผู้ที่ถูกตำรวจดำเนินคดีอยู่ ได้แจ้งไปทาง พลตำรวจเอกอดิศร์ ว่า เราจะช่วยเหลืออะไรได้บ้างหรือไม่ แต่คงต้องปล่อยให้ทางตำรวจดำเนินการไปก่อน เราก็พยายามดูแลคนที่เกี่ยวข้อง” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวว่า จากนี้ ต้องมาทบทวนว่ากทม.จะทำอะไรดีขึ้นได้หรือไม่

“สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะทำให้ดีขึ้นได้ในคราวหน้าคือ ครั้งนี้กทม. จัดพื้นที่ชุมนุมให้ โดยผู้ชุมนุมสื่อสารกับคนที่มาประชุม (เอเปค) ดังนั้น แทนที่จะให้เขาเดินไปที่ประชุม เราอาจต้องจัดตัวแทนจากคนประชุมมารับฟังความเห็นจากผู้ชุมนุมได้หรือไม่ ผู้ชุมนุมไม่ต้องเดินทางไป ให้มาพบปะกันโดยกทม.เป็นคนกลาง จัดให้พบกันได้หรือไม่ อาจช่วยลดการที่ต้องเคลื่อนที่ออก

อีกอย่างหนึ่ง อาจจัดตัวแทนผู้ชุมนุมไปพบกับตัวแทนผูเมาประชุมได้ไหม ซึ่งอาจเป็นสิ่งที่เราจะปรับปรุงให้ดีขึ้นได้ กทม.ก็ต้องปรับปรุงตรงนี้ด้วย ทุกอย่างเป็นบทเรียนให้มาปรับปรุงให้ดีขึ้น เสียใจที่มีผู้บาดเจ็บ วันนี้คงติดตามอีกครั้งหนึ่งว่าเราจะช่วยเหลือต่อไปได้อย่างไร และจะเร่งไปตามช่วยเหลือคนที่ยังถูกจับกุมอยู่ได้อย่างไร ก็ประสานกันไป” นายชัชชาติกล่าว