โศกนาฏกรรมอิแทวอน ฝันร้ายของชาวเกาหลี คืนวันฮัลโลวีน ‘ชัชชาติ’ เร่งถอดบทเรียน หวั่นเกิดซ้ำขึ้นในไทย

เป็นโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญชาวโลกอย่างมาก สำหรับกรณีอิแทวอน ในค่ำคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา

เมื่อผู้คนชาวเกาหลีรวมถึงนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศทั่วโลก เดินทางไปร่วมฉลองเทศกาลฮัลโลวีน ซึ่งถือเป็นงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ของคนเกาหลีใต้ หลังรัฐบาลอนุญาตให้ประชาชนไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายนอกอาคาร ครั้งแรกในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่มีการระบาดของโควิด-19 ก่อนจะเกิดเหตุไม่คาดคิด ผู้คนเบียดเสียดในพื้นที่จำกัดจนนำไปสู่การเหยียบกันจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่าร้อยราย

ถือเป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงและสะเทือนใจคนเกาหลีในรอบ 8 ปี นับจากโศกนาฏกรรมเรือเซวอลล่ม ในปี พ.ศ.2557

“อิแทวอน” สถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนี้ เป็นชื่อย่านสถานบันเทิงยามค่ำคืนชื่อดังในกรุงโซล ที่เกิดเหตุเป็นเพียงซอยแคบข้างโรงแรมแฮมิลตัน ลักษณะทางเดินเป็นเนินและมีความลาดชันยาว มีความกว้างประมาณ 4 เมตร

เมื่อผู้คนหลักแสนมารวมตัวกัน จึงเกิดการอัดแน่นจนเกิดการหกล้มและทับกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนรวมถึง 156 ศพ ได้รับบาดเจ็บอีกหลักร้อย ส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาว และเป็นเพศหญิงกว่าครึ่ง

ในยอดผู้เสียชีวิตพบว่าเป็นชาวต่างชาติถึง 26 คน หนึ่งในนั้นมีคนไทยรวมอยู่ด้วย

ย่านอิแทวอนกลับมาโด่งดังเป็นที่รู้จักของคนทั้งโลกอีกครั้ง จากความสำเร็จของซีรีส์เรื่อง “Itaewon Class” ที่ออกอากาศในปี 2020 ที่ใช้ย่านนี้เป็นสถานที่หลักในการถ่ายทำ และเป็นย่านที่มีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ครบครันทั้งแหล่งช้อปปิ้ง ร้านอาหาร-ภัตตาคารที่ขายอาหารนานาชาติจากทั่วโลก รวมไปถึงผับ บาร์ ตลอดข้างทาง

เมื่อ “Itaewon Class” ประสบความสำเร็จและถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2020 สร้างชื่อให้ทีมนักแสดง ยังทำให้อิแทวอนกลายเป็นแลนด์มาร์กท่องเที่ยวสำคัญของเกาหลีใต้ขึ้นมา

นอกจากใช้สถานที่เป็นแหล่งถ่ายทำซีรีส์ ฉากเที่ยวงานวันฮัลโลวีนของ “พัคแซรอย” (ชื่อพระเอกของเรื่อง) ในย่านอิแทวอนแห่งนี้ ที่มาตามคำบอกเล่าของ โอซูอา ผู้เป็นรักแรก ก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้อิแทวอนกลายเป็นแหล่งเฉลิมฉลองเทศกาลฮัลโลวีนของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ตามรอยความดังของซีรีส์

ซีรีส์ดังบวกกับสถานที่เป็นที่รู้จัก คือผลแห่งพลังซอฟต์เพาเวอร์หลักของเกาหลีใต้ ที่สร้างมูลค่าและเม็ดเงินเข้าประเทศอย่างล้นหลาม

จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เทศกาลฮัลโลวีนในย่านอิแทวอนในปีนี้ จะหนาแน่นไปด้วยผู้คน เดินทางมารวมตัวกัน จนเกิดเป็นโศกนาฏกรรมสุดเศร้าขึ้นมา

ซีรีส์เรื่อง “Itaewon Class”

156 ผู้เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมอิแทวอน หนึ่งในนั้นมีคนดังอย่าง “อีจีฮัน” วัย 25 ปี อดีตผู้เข้าแข่งขันในรายการเซอร์ไววัลชื่อดังอย่างรายการ PRODUCE 101 ซีซั่น 2 และเคยฝากผลงานทางการแสดงในเว็บดราม่าเรื่อง The Butterfly Dream ในปี 2019 รวมถึง “คิมยูนา” เชียร์ลีดเดอร์ทีมเบสบอลชื่อดัง ก็อีกหนึ่งเหยื่อโศกนาฏกรรมในครั้งนี้

ขณะที่คนไทยที่เสียชีวิต เป็นหญิงไทยอายุ 27 ปี จาก จ.มหาสารคาม ที่เดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อเรียนภาษา โดยทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ได้ทำหน้าที่ช่วยประสานงานกับทางการเกาหลีใต้ พร้อมให้ความช่วยเหลือในการจัดการศพ

ภายหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ กิจกรรมเกี่ยวกับวันฮัลโลวีนในเกาหลีใต้ถูกยกเลิกทั้งหมด รวมถึงงานในอุตสาหกรรมบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นงานคอนเสิร์ต, แฟนมีตติ้ง, การเปิดตัวซีรีส์, รายการวาไรตี้ และอื่นๆ ถูกประกาศงดออกอากาศชั่วคราว เพื่อเป็นการไว้อาลัยให้กับโศกนาฏกรรมใหญ่ครั้งนี้

รวมถึงมีเหล่าคนดังในวงการบันเทิงของเกาหลีออกมาแสดงความเสียใจผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว อาทิ เหล่านักแสดง จองอิลอู, อีจงวอน, โซจีซบ, ชเวชีวอน, โกมินชี, โกโซยอง, 2 นักร้องชื่อดัง เกรย์ และจีดราก้อน รวมถึงซนฮึงมิน นักฟุตบอลชื่อดัง ที่ออกมาโพสต์ข้อความถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วย

ด้านประธานาธิบดี “ยุน ซอกยอล” ของเกาหลีใต้ ทันทีที่ได้รับรายงานได้เดินทางมาสถานที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามสถานการณ์และประกาศการไว้ทุกข์ระดับชาติถึงเที่ยงคืนวันที่ 5 พฤศจิกายน ขณะที่ “ฮัน ด็อกซู” นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้สำนักงานตำรวจออกมาชี้แจงการรับมือของเจ้าหน้าที่ต่อเหตุการณ์อิแทวอน หลังมีรายงานออกมาว่ามีการแจ้งเหตุทางโทรศัพท์สายด่วนกว่า 10 สายก่อนเกิดเหตุ พร้อมให้คำมั่นจะดำเนินการสอบสวนอย่างละเอียด และแก้ไขเชิงระบบเพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก ฟาก “โอ เซฮุน” นายกเทศมนตรีกรุงโซล ก็ได้ออกมาขอโทษประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งน้ำตา

ในรายงานข่าวของสื่อแดนโสมมีการระบุว่า ในวันเกิดเหตุ ทางการได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูแลความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวเพียง 137 คนเท่านั้น ทั้งที่เป็นการเฉลิมฉลองครั้งใหญ่ของประเทศ นอกจากนี้ยังมีรายงานออกมาว่า ประธานาธิบดี ยุน ซอกยอล ใช้ตำรวจมากถึง 700 คน ในการคุ้มกันการเดินทางของตัวเองในแต่ละวัน ทำให้ชาวเกาหลีใต้ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก

ส่วนสาเหตุของการเกิดโศกนาฏกรรมยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่ก็มีบางรายงานระบุว่าเพราะมีการตะโกนให้มีการผลัก-ดันของคนบางกลุ่ม

ขณะที่อีกข่าวลืออ้างว่าเพราะมี “คนดัง” มาเที่ยวผับย่านนี้ ผู้คนเลยกรูกันเข้าไปในซอยแคบ และคนที่ถูกพูดถึงคือพระเอกหนุ่ม “ยูอาอิน” ก่อนที่ทางต้นสังกัดจะออกมาชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง และยูอาอินเดินทางไปต่างประเทศตั้งแต่ 29 ตุลาคมแล้ว

ส่วนการช่วยเหลือเบื้องต้นทางรัฐบาลเกาหลีได้สนับสนุนเงินค่าทำขวัญ 20 ล้านวอนให้กับคนเกาหลีและชาวต่างชาติที่เสียชีวิต และจ่ายค่าจัดงานศพรายละ 15 ล้านวอน พร้อมจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษากับประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางจิตใจอย่างรุนแรง

เหตุการณ์สุดเศร้าครั้งนี้ ทำให้คนทั่วโลกร่วมถึงคนในสังคมโลกออนไลน์ถามถึงวิธีป้องกัน การรับมือเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย รวมไปถึงวิธีป้องกันตัวเองหากตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนจำนวนมาก จนแฮชแท็ก #อิแทวอน ในทวิตเตอร์มียอดการทวีตข้อความในวันเกิดเหตุเป็นล้านครั้ง

เรื่องนี้ “นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ผู้ว่าฯ กทม. ได้ให้สัมภาษณ์หลังสังคมไทยถามถึงการรับมือสถานการณ์ในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ในไทย ที่จะมีคนแห่มาร่วมงาน พร้อมชี้แจงความพร้อมมาตรการดูแลความปลอดภัยในการจัดงานเทศกาลลอยกระทง ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ถือเป็นบทเรียนที่จะต้องนำมาปรับเพิ่มมาตรการในการจัดกิจกรรมต่างๆ ในพื้นที่ กทม.

โดยเฉพาะการจัดงานลอยกระทง ที่คลองโอ่งอ่าง ซึ่งคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากคล้ายกับที่อิแทวอน ประเทศเกาหลีใต้ จึงกำชับไปยังรองผู้ว่าฯ ให้ดูแลกวดขันเรื่องของทางเข้าทางออกงาน กำหนดจุดขายของ และการจัดกิจกรรมต่างๆ มีเจ้าหน้าที่เฝ้าเพื่อตรวจนับจำนวนคนภายในงาน

ถ้าเป็นไปได้จะให้กล้อง CCTV ช่วยจับภาพ เพื่อเน้นความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่ง รวมทั้งไม่ให้มีการละเล่นในพื้นที่จัดงาน

ทั้งนี้ ไม่ได้กังวลเรื่องการเบียดกันจนเสียชีวิต แต่กลัวเรื่องตกน้ำอันตรายกว่า ซึ่งทุกเขตที่จัดงานลอยกระทงจะต้องทำแผนเข้ามา

สิ่งที่เห็นจากเหตุการณ์ที่เกาหลีใต้พบว่าประชาชนสามารถทำ CPR ได้ ซึ่งทาง กทม.ได้สอนเรื่องนี้ และในอนาคตจะให้โรงเรียนในสังกัด กทม. มีหลักสูตรเกี่ยวกับการทำ CPR อย่างจริงจัง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอเกิดเรื่องมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ถือว่ามีความสำคัญ ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสถานบันเทิงต่างๆ ให้มีมาตรการที่เข้มงวด และต้องเพิ่มความเคร่งครัดที่มากขึ้น พร้อมจะมีการตรวจสอบพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงและมีลักษณะคล้ายกับอิแทวอน เช่น สีลมซอย 2 เป็นต้น

บทเรียนจากโศกนาฏกรรมอิแทวอนครั้งนี้ ทำให้ทุกประเทศรวมถึงประเทศไทย ต้องหันกลับมาศึกษา เตรียมความพร้อมในการรับมือ และการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมที่เป็นฝันร้ายของคนในประเทศ ซ้ำรอยประเทศเกาหลีใต้ขึ้นมาอีกครั้ง