ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 14 - 20 ตุลาคม 2565 |
---|---|
คอลัมน์ | โฟกัสพระเครื่อง |
เผยแพร่ |
เหรียญรุ่นบาตรน้ำมนต์ หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ
วัดหลวงราชาวาส อุทัยฯ
“พระครูอุทัยธรรมกิจ” หรือ “หลวงปู่ตี๋ ญาณโสภโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงราชาวาส ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี
พระเกจิอาจารย์ลุ่มน้ำสะแกกรัง ชื่อดังแห่งอุทัยธานี ศิษย์สายธรรมหลวงพ่อพูน วัดหนองตางู และหลวงพ่อพุฒ วัดทุ่งแก้ว
วัตถุมงคลที่สร้างขึ้นมาแต่ละรุ่น มีความโดดเด่น ไม่ว่าจะเมตตามหานิยม โชคลาภ และอยู่ยงคงกระพัน จึงเป็นที่นิยมเสาะหา
โดยเฉพาะเหรียญรุ่นบาตรน้ำมนต์ ที่ระลึกที่เข้ามาทำบุญกับทางวัด รายได้ทั้งหมดบูรณะและฉลองวิหาร
รูปแบบทรงพิมพ์เป็นเหรียญปั๊มวงกลม ขนาด 4 เซนติเมตร ด้านหน้า มีรูปเหมือนหลวงปู่ตี๋ครึ่งร่าง หน้าตรง
ใกล้ขอบด้านบนมีตัวหนังสือ “พระครูอุทัยธรรมกิจ (หลวงปู่ตี๋) วัดหลวงราชาวาส จ.อุทัยธานี อายุ ๘๗ ปี พ.ศ.๒๕๔๒” ขอบด้านล่างมีอักขระขอบกำกับ 1 แถว
ด้านหลังมียันต์เทพรัญจวนและยันต์นารายณ์แปลงรูป มีอักขระขอบล้อมรอบ 2 แถว คมชัดเป็นเหรียญปั๊ม ยันต์ดังกล่าว เป็นยันต์เดียวกับที่สักไว้ที่หลังของหลวงปู่ตี๋ ยันต์นี้ใช้แทนตะกรุดโทนได้ มีโค้ดตัว “นะ” อยู่เหนือบ่าซ้าย ด้านหน้า
จัดสร้างเป็นเนื้อเงิน 186 เหรียญ และเนื้อทองเหลือง 2,000 เหรียญ ส่วนชนิดหลังไม่มียันต์เทพรัญจรและยันต์นารายณ์แปลงรูปปั๊ม ด้านหลังเหรียญจะเรียบใช้จารอักขระด้วยมือของหลวงปู่ตี๋
รุ่นนี้ หลวงปู่ตี๋อธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษา ยังประกอบพิธีพุทธาพิเษก โดยนิมนต์สุดยอดพระเกจิอาจารย์ดังเข้มขลังวิทยาคมยุคนั้น รวมพลังนั่งปรกอธิษฐานจิต อาทิ หลวงพ่อสมควร วัดถือน้ำ, หลวงพ่อนะ วัดหนองบัว, หลวงพ่อเสน่ห์ วัดสว่างอารมณ์, หลวงพ่อรัง วัดอมฤตวารี, หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค และหลวงพ่อสะอาด วัดเขาแก้ว
ปัจจุบัน แวดวงพระเครื่องวัตถุมงคลใน จ.อุทัยธานี และจังหวัดใกล้เคียง ต่างออกปากว่าติดลมบนไปแล้วและหายาก
อัตโนประวัติ เป็นชาวอุทัยธานีโดยกำเนิด มีนามเดิมว่า ตี๋ แซ่ตั้ง เกิดที่ ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2455 ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีชวด เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 6 คน บิดา-มารดา ชื่อนายก้าง และนางเหล็ง แซ่ตั้ง ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย
ช่วงวัยเยาว์ เรียนหนังสือที่โรงเรียนอุทัยทวีเวทย์ จ.อุทัยธานี จนจบการศึกษาชั้นมัธยมปีที่ 3
หลังจากนั้น เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2476 ที่พัทธสีมาวัดธรรมโฆษก (โรงโค) มีพระสุนทรมุณี (หลวงพ่อฮวด) วัดพิชัยปุรณาราม เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดโชติ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาทิม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ญาณโสภโณ มีความหมายว่า ผู้มีจิตอันงดงาม
จากนั้น จำพรรษาอยู่ที่วัดธรรมโฆษก
ต่อมาเมื่อเกิดไฟไหม้ตลาดอุทัยธานีครั้งใหญ่ ได้ไปอยู่กับหลวงพ่อพูนที่วัดหนองตางู เป็นเวลา 2 พรรษา
ศึกษาวิทยาคม จนกระทั่งหลวงพ่อพูนมรณภาพลงในปี พ.ศ.2480 จึงได้กลับมาอยู่ที่วัดธรรมโฆษกอีกครั้ง
ในปี พ.ศ.2497 ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหลวงราชาวาส
พ.ศ.2501 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัและได้รับแต่งตั้งเป็นพระฐานานุกรมของพระราชอุทัยกวี (พุฒ) เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี
พ.ศ.2517 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร ที่ พระครูอุทัยธรรมกิจ
นอกจากได้รับการถ่ายทอดการฝึกจิตวิชาแพทย์แผนโบราณ รวมทั้งวิทยาคมด้านอื่น จากหลวงพ่อพูน วัดหนองตางู จ.อุทัยธานี
ยังได้ศึกษาจากตำราสมุดข่อยโบราณของหลวงพ่อแป้น อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงราชาวาส เกี่ยวกับยันต์เทพรัญจวน เป็นยันต์เดียวกับที่จารลงในตะกรุดโทน ซึ่งหลวงพ่อป๊อก อดีตเจ้าอาวาสวัดอุโปสถารามใช้อยู่เป็นประจำ
ต่อมาจึงได้ให้ช่างหลี เป็นช่างตัดผมในตลาดอุทัยธานี สักยันต์เทพรัญจวนที่ตัวของท่านที่อกและหลังเป็นที่ระลึกกับหลวงพ่อแป้น และเห็นว่าเป็นยันต์โบราณที่ใช้สืบทอดกันมา
ท่านยังได้รับการถ่ายทอดต่อจากพระราชอุทัยกวี หรือท่านเจ้าคุณพุฒ วัดทุ่งแก้ว
ด้วยความสมถะและถือสันโดษมาตลอดระยะเวลาในชีวิตสมณเพศ ชอบศึกษาหาความรู้และอยู่อย่างเงียบๆ มีวัตรปฏิบัติที่เรียบง่าย ยึดมั่นในศีลาจารวัตร เคร่งครัดในพระธรรมวินัย
แม้ท่านจะมีชื่อเสียงในเรื่องของการสร้างวัตถุมงคลที่เป็นที่นิยมสะสมกันในวงการพระเครื่อง
แต่ก็ยึดคำโบราณที่ว่า “ฆ้องดังเองไม่มีคนตี เรียกว่า ฆ้องอัปรีย์ ฆ้องที่ดีต้องมีคนตีถึงจะดัง”
วัตถุมงคลไม่ว่าจะเป็นเสือพุทธาคม ตะกรุดเทพรัญจวน เหรียญและรูปหล่อ สร้างขึ้นมาด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ประกอบการปลุกเสกเดี่ยวและใช้เวลายาวนานตลอดไตรมาส หรือ 3 เดือนเป็นส่วนใหญ่ จึงบังเกิดความเข้มขลังในพุทธคุณ จนเป็นที่เล่าลือโจษขานกันมากมาย
วันที่ 1 มีนาคม 2546 เวลา 11.57 น. ละสังขารลงด้วยอาการสงบ
สิริอายุ 91 ปี พรรษา 71
ปัจจุบัน สรีรสังขารนอนสงบนิ่งภายในโลงแก้วโปร่งใส ที่วัดหลวงราชาวาส ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี •
โฟกัสพระเครื่อง | โคมคำ
สะดวก ฉับไว คุ้มค่า สมัครสมาชิกนิตยสารมติชนสุดสัปดาห์ได้ที่นี่https://t.co/KYFMEpsHWj
— MatichonWeekly มติชนสุดสัปดาห์ (@matichonweekly) July 27, 2022