นิพิฏฐ์ ชี้ ถึงเวลาวางบรรทัดฐานให้บ้านเมือง หากไม่ทำ ต่อไปคนจะไม่เชื่อรัฐธรรมนูญ

วันที่ 3 ตุลาคม 2565 นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า วางบรรทัดฐานให้บ้านเมืองเถอะครับ

ผมเรียนกฎหมายจบ ก็มาเป็นผู้ใช้กฎหมายเป็นทนายความ จากนั้นก็ผันตัวเองมาเป็นผู้ออกกฎหมาย จากนั้นก็ทำตัวสบายๆ มาเป็นผู้ติดตามพฤติการณ์ของสังคม

เมื่อคนในบ้านเมืองมีความเห็นต่างกัน ก็พยายามใช้ความรู้ (ที่มีเพียงเล็กน้อย) และใช้ประสบการณ์ (ที่พอมี) มาวินิจฉัยความเห็นต่างนั้น

เรื่อง 8 ปี ท่านนายกรัฐมนตรี ก็ต้องยอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ถึงที่สุด และผูกพันทุกองค์กรแล้ว แต่… ผมสงสัยว่า

1.อ.มีชัย และ อ.สุพจน์ มีความเห็น 2 ครั้งที่ต่างกัน ในข้อเท็จจริงเดียวกัน ตอนร่างรัฐธรรมนูญมีบันทึกในรายงานการประชุมอย่างหนึ่ง แต่ตอนท่านชี้แจงศาล ท่านให้ความเห็นอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ตรงกับความเห็นของท่านที่บันทึกไว้

ความเห็นของผม คือ มีจริง กับ มีเท็จ (ไม่ใช่มีชัยนะ) เหมือนเราเบิกความในศาลล่ะครับ ถ้าในชั้นสอบสวนเราให้การอย่างหนึ่ง ในศาลเราให้การอย่างหนึ่ง ศาลจะถามว่า ตกลงอันไหนจริง อันไหนเท็จ

ผมสงสัยต่อไปว่า นี่ถ้ามีคนอุตริไปแจ้งความ อ.มีชัย กับ อ.สุพจน์ ว่า แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อศาล ผมก็อยากจะรู้จริงๆ ว่าผลจะเป็นอย่างไร

2.ผมสงสัยต่อไปว่า บันทึกรายงานการประชุมเป็นเท็จ หรือคำชี้แจงเป็นเท็จ แต่…อย่าถึงขนาดว่าเท็จ หรือไม่เท็จ เลยครับ มันรุนแรงไป เอาว่า อันไหนถูกต้องดีกว่า ถ้าบันทึกรายงานการประชุมไม่ถูกต้อง กรรมาธิการควรประชุมและแก้ไขรายงานการประชุมไหมครับ เพราะรายงานการประชุมการร่างรัฐธรรมนูญสำคัญมากนะครับ หากปล่อยให้เอกสารที่ไม่ถูกต้องแบบนี้ออกไป ต่อไปถ้าต้องตีความรัฐธรรมนูญอีก และ อ.มีชัย กับ อ.สุพจน์ ยังมีชีวิตอยู่ ท่านชี้แจงแย้งกับบันทึกอีก ผมก็ต้องยกคำของอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ท่านประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ หรือฉายา “โค้ว ตงหมง” ที่ท่านเคยกล่าวไว้ในสภาว่า … อย่างนี้ ยุ่งตายห่า… (อย่าหาว่าผมเขียนคำหยาบนะครับ ลองไปกด google ดูนะครับ ถือเป็นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปด้วยครับ)

3.ข้อเสนอของผม คือ คณะกรรมาธิการควรมีความรับผิดชอบรีบประชุม ถ้ารายงานไม่ตรงกับความจริง ก็แก้ไขรายงานการประชุมเสียเถอะครับ อย่าให้รายงานสำคัญของชาติที่ไม่ถูกต้องออกมาเพ่นพ่านอย่างนี้เลยครับ ต่อไปจะไม่มีใครเชื่อถือรัฐธรรมนูญ