หลังจากจบโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ครั้งแรก ของ “ตูน บอดี้สแลม”

วิ่ง 400 กิโลเมตรจาก กทม. ไปบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อระดมทุนช่วยโรงพยาบาลบางสะพาน

เห็นบรรยากาศตลอด 10 วันแล้ว ผมรู้เลยว่าการวิ่งระดมทุนครั้งนี้คงไม่ใช่ “ครั้งสุดท้าย”

ปีหน้าต้องมีโครงการใหม่แน่นอน

เพราะ “ตูน” ซึมซับความรู้สึกดีๆ ตลอดทางที่พ่อแม่พี่น้องมอบน้ำใจให้

เขารู้แล้วว่าการทำเพื่อผู้อื่นนั้นมี “ความสุข” เพียงใด

ถาม “ตูน” อยู่เรื่อยๆ ว่าปีหน้าจะวิ่งไปไหนอีก

ทายเล่นๆ ในใจว่าคงจะวิ่งไกลขึ้นกว่าเดิม

อาจจะวิ่งจาก “บางสะพาน” ลงใต้

หรือวิ่งจาก กทม. ขึ้นไปเหนือหรืออีสาน

ครั้งก่อน 400 กิโลเมตร

ครั้งนี้น่าจะ 600 หรือมากที่สุดก็ 1,000 กิโลเมตร

ก่อนสัมภาษณ์ “ตูน” ในงานหนังสือที่เชียงใหม่เมื่อต้นเดือนกรกฎาคม ผมถามเขาอีกครั้งก่อนขึ้นเวที

“ผมว่าจะวิ่งจากเบตงไปแม่สายครับ” เขาบอกเสียงเบาๆ ตามแบบ “ตูน”

“เฮ้ย”

มันเกินความคาดหมายของผมหลายเท่า

“…โคตรบ้าเลย”

พอได้ฟังแผนที่ “ตูน” คิดไว้ ผมสรุปได้เลยว่าเขาเป็นนักบริหารจัดการที่เก่งมาก

แม้โครงการของเขาจะบ้ามาก แต่วางแผนทุกอย่างอย่างเป็นระบบ

ตั้งแต่บอกเพื่อนร่วมวงบอดี้สแลมล่วงหน้า

เพราะระยะเวลาที่เขาวิ่งนานถึง 55 วัน

รวมเวลาที่ต้องฟิตซ้อมและอื่นๆ รวมแล้วน่าจะเกือบ 3 เดือน

ที่สำคัญเป็นช่วงปลายปีด้วย

อย่าลืมว่าเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม สำหรับคนที่เป็นศิลปินเพลง

ช่วงนี้เป็นช่วงที่งานชุก

เป็นช่วงทำมาหากิน

แต่ “ตูน” ขอเพื่อนๆ มาทำกิจกรรมเพื่อระดมทุนให้โรงพยาบาล

เขาจึงต้องบอกกล่าวเพื่อนๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ

“ผมโชคดีที่เพื่อนทุกคนเข้าใจ”

ตัวเลข 700 ล้านบาทจากคนไทย 70 ล้านคน คนละ 10 บาท เขาก็คิดมาแล้ว

ระยะเวลา 55 วันก็ผ่านการวางแผนมาอย่างดี

บริจาคให้โรงพยาบาลไหน เพราะอะไร เขาก็คิดแล้วครับ

ที่สำคัญ “ตูน” คิดถึงตัวเองด้วย

เขารู้ว่าแม้จะเป็นโครงการที่ดีเพียงใด หรือทำประโยชน์เพื่อคนอื่นก็ตาม

แต่ตัวเขาต้องสนุกที่จะทำด้วย

ดังนั้น ถ้าวิ่งไกลกว่าเดิม จาก 400 เป็น 600 หรือ 1,000 กิโลเมตร

มันก็แค่ไกลขึ้นกว่าเดิม

มันไม่ท้าทาย

แต่ถ้าวิ่งจากใต้สุดไปเหนือสุดของประเทศ

2,191 กิโลเมตร

เป็นคนไทยคนแรกที่ทำได้สำเร็จ

แบบนี้ “ท้าทาย”

“ตูน” เป็นคนทำอะไรสุดๆ

ในขณะที่คนส่วนใหญ่มองว่าการวิ่งครั้งนี้ของเขาบ้าสุดๆ

แต่ “ตูน” กลับมองว่านี่คือ “ความท้าทาย” สุดๆ ต่างหาก

“ตูน” ตั้งใจเปิดตัวโครงการนี้ในวันที่ 3 ตุลาคม

แม้จะเก็บเป็นความลับ แต่โครงการวิ่งจากใต้สุดไปเหนือสุดของ “ตูน” ก็หลุดมาเป็นระยะๆ

เป็นการหลุดแบบไม่ตั้งใจ

คล้ายๆ “ไอโฟน” ก่อนเปิดตัว

วันที่คลิปโครงการ “ก้าวคนละก้าว” ครั้งใหม่เพิ่งตัดต่อเสร็จ เป็นวันที่ “ตูน” ไปพูดให้ ABC

เราคุยกันบนเวทีเรื่องโครงการก้าวคนละก้าว ตอนที่วิ่งจาก กทม. ไปบางสะพานพักใหญ่

ก่อนที่เปิดตัวโครงการใหม่ของเขาด้วยคลิปนี้

เชื่อไหมครับว่าพอฉายคลิปนี้จบ ทุกคนลุกขึ้นปรบมือให้ “ตูน” ยาวนาน

ผมแอบเห็นเขาน้ำตาซึม

เขานึกไม่ถึงว่าจะได้รับการตอบรับขนาดนี้

วันนั้น “ตูน” เล่าถึงสิ่งที่เขาได้พบเจอจากการกลับไปที่โรงพยาบาลบางสะพาน

เห็นเด็กผู้หญิงที่ไม่ต้องตัดขา เพราะเครื่องมือใหม่ที่ได้จากการบริจาคของประชาชน

เด็กที่คลอดก่อนกำหนดได้เข้า “ตู้อบ” แบบเต็มเวลา

ไม่ต้องรีบเอาออก เพราะมีเด็กอื่นรอคิวอยู่

ยิ่งฟัง-ยิ่งฟัง เขายิ่งรู้สึกว่าต้องทำอีก

ยังมีความต้องการมากมายรออยู่

“ตูน” ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบสาธารณสุขของประเทศ

เขาไม่รู้ละเอียดว่าอะไรสำคัญกว่าอะไร

รู้แต่เพียงว่ามองไปโรงพยาบาลรัฐที่ไหนก็เห็นแต่ความขาดแคลน

“ตูน” เป็นแค่ประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง

ไม่ใช่คุณหมอ ไม่ใช่นักวิชาการ

เขาคิดเพียงว่ามีพลัง มีศักยภาพแค่ไหนก็ทำแค่นั้น

เงิน 700 ล้านบาทสำหรับงบประมาณด้านสาธารณสุขถือว่าน้อยมาก

แต่ก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

ใครจะเอาเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นชิ่งรัฐบาล เพราะเราไม่ชอบก็ทำไป

หรือจะใช้แรงกระเพื่อมนี้ตั้งเป็นวาระในการคุยกันเรื่องการจัดสรรงบประมาณของรัฐก็ทำไป

ผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดี

เหมือนคุ้ยเอา “ขยะ” ที่อยู่ใต้พรมขึ้นมาสะสางกันสักครั้ง

เผื่อว่ารัฐบาลจะรู้คิดขึ้นมาบ้าง

แต่ถ้าจะบอกว่า “ตูน” อย่าวิ่ง อย่าระดมทุนแบบนี้เลย

รอให้รัฐบาลเอางบฯ ซื้อเรือเหาะ-เรือดำน้ำ หรือเอาเบี้ยประชุมของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ 20 ปีมาซื้ออุปกรณ์การแพทย์

เด็กทารกหลายคนคงตายก่อน เพราะไม่มีตู้อบ

น้องๆ หลายคนอาจจะขาขาดไปแล้ว เพราะขาดอุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัย

อย่าลืมว่า “เวลา” มีราคา

ใครทำอะไรได้แค่ไหนก็ควรทำ

และคนทำความดี ทำสิ่งที่ดี ควรได้กำลังใจ

“ตูน” ไม่ก่นด่า “ความมืด”

แต่เขาจุดตะเกียง

และชวนคนไทยทุกคนร่วมจุดกับเขาด้วย

มาช่วยกันครับ

โครงการก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศมี 2 ช่องทางการบริจาคครับ

1. บัญชีรับบริจาค : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขารัชโยธิน

ชื่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าในพระราชูปถัมภ์ฯ (โครงการก้าวคนละก้าว) เลขที่บัญชี 111-393-5263 (กระแสรายวัน)

2. SMS : บริจาคครั้งละ 10 บาท พิมพ์ T แล้วกดส่งมาที่ 4545099 (เฉพาะเครือข่าย AIS, DTAC และ True Move H ไม่หักค่าใช้จ่าย)

มีมากช่วยมาก มีน้อยช่วยน้อย

ผมอยากชวนทุกคนมาแกล้ง “ตูน”

อย่าให้เขาวิ่งถึงแม่สาย

ปล่อยให้วิ่งถึงแค่หาดใหญ่ เราก็บริจาคเงินให้ครบ 700 ล้านบาท

นึกภาพสิครับ “ตูน” จะงง

วิ่งต่อแบบเด๋อๆ ด๋าๆ

เพราะเงินครบตามเป้าแล้ว

เรามาแกล้ง “ตูน” กันครับ