“เพโลซี” ชี้การทัวร์เอเชียไม่เคยส่งผลเปลี่ยนสถานะดำรงอยู่ของไต้หวัน

วันที่ 5 สิงหาคม รอยเตอร์สรายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯได้กล่าวในช่วงเดินทางเยือนญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายของแผนการเยือนประเทศในเอเชียว่า การเดินทางครั้งนี้ของเธอไม่ได้ส่งผลเกิดการเปลี่ยนแปลงการสถานะการคงอยู่ของไต้หวันหรือภูมิภาค

นางเพโลซี ได้กล่าวหลังร่วมหารือกับคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ว่า “เราพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าการเป็นตัวแทนของเราในที่นี้ไม่ได้เกี่ยวกับการเปลี่ยนสถานะที่เป็นอยู่ในไต้หวันหรือภูมิภาค”

คำกล่าวของเพโลซี เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ในช่วงการซ้อมรบกระสุนจริงครั้งใหญ่ของจีน เพื่อตอบโต้สหรัฐฯและไต้หวันหลังจากนางเพโลซี เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมานั้น ได้มีขีปนาวุธ จำนวน 5 ลูก ตกใส่พื้นที่เขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรืออีอีซี บริเวณนอกหมู่เกาะโอกินาว่าของญี่ปุ่น จนสร้างความไม่พอใจต่อรัฐบาลญี่ปุ่นกับพฤติการณ์เล่นใหญ่ของจีน

ด้านสำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่น ระบุคำแถลงของ นายกฯคิชิดะ หลังประชุมร่วมกับนางเพโลซี โดยมีความหวังว่าเปโลซีจะยังคงเป็นผู้นำในการเสริมสร้างพันธมิตรทวิภาคีและตระหนักถึงอินโดแปซิฟิกที่ “เสรีและเปิดกว้าง” ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่ผลักดันโดยทั้งสองประเทศเพื่อรักษาประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม

“เรายืนยันว่าเราจะทำงานร่วมกันเพื่อรักษาความสงบและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน” คิชิดะกล่าวและว่า พฤติกรรมของจีนส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาคและโลก และผมอธิบายว่าเราเรียกร้องให้ยุติการฝึกซ้อมทันที

ก่อนหน้านี้ นายกฯคิชิดะ กล่าวว่า ทั้งสหรัฐฯและญี่ปุ่น จะทำงานร่วมกันในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นพื้นที่เส้นทางเดินเรือสำคัญของหลายชาติ

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังเคยเตือนว่า การข่มขู่ของจีนต่อไต้หวันเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของชาติที่ทวีความรุนแรงขึ้น