ชัชชาติ ลงพื้นที่เคหะบางบัว ชี้กระตุ้นผู้บริหาร-ส.ก.จริงจัง ย้ำเขตต้องไว้ใจชุมชน

ชัชชาติ ลงพื้นที่เคหะบางบัว เขตหลักสี่ ส่งสัญญาณกระตุ้นผู้บริหาร ย้ำเขตต้องไว้ใจชุมชน ชวนเป็นพลังพัฒนา ด้านประชาชนเตรียมประเมิน ผอ.เขต ผ่านช่องทางออนไลน์

 

วันที่ 27 พฤษภาคม 2565  ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ลงพื้นที่สำรวจแฟลต 12 เคหะบางบัว เขตหลักสี่ ตรวจสอบปัญหาขยะ การก่อสร้างท่อระบายน้ำขวางทางสัญจร และปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ร่วมกับ ตกานต์ สุนนทวุฒิ ว่าที่ ส.ก. เขตหลักสี่ พรรคเพื่อไทย และ สมบัติ กนกทิพย์วรรณ ผู้อำนวยการเขตหลักสี่ ชี้การลงพื้นที่ 5 วันติดต่อกัน เป็นการส่งสัญญาณว่าทุกเขตต้องจริงจังแก้ไขปัญหาประชาชน ผู้อำนวยการเขตต้องสนใจปัญหาในพื้นที่ ไม่ต้องรอ ผู้ว่าฯ จัดการ ย้ำชุมชนต้องเข้มแข็ง ให้ความร่วมมือเขต ช่วยกันดูแลและทุกเขต

ชัชชาติ กล่าวว่า ปัญหาเดือดร้อนของชาวชุมชนแฟลต 12 เคหะบางบัว คือการก่อสร้างท่อระบายน้ำ ที่มีการวางวัสดุก่อสร้างขวางทางสัญจร รวมทั้งปัญหาการจัดเก็บขยะมูลฝอย 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่เพียงพอกับความต้องการของประชาชน ขณะเดียวกัน พื้นที่ทิ้งขยะก็ยังมีถังขยะไม่เพียงพอ ซึ่งปัญหาทั้งหมดที่กล่าวมาได้แจ้งให้ผู้อำนวยการเขตหลักสี่รับทราบ และเร่งแก้ไขปัญหา

ชัชชาติ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ในวันนี้เป็นการกระตุ้นให้ ผอ.เขต และ ส.ก. เร่งแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ต้องมีการสำรวจ และจัดลำดับความสำคัญของปัญหา เพราะแต่ละเขตมีปัญหาหลายอย่าง การลงพื้นที่ในวันนี้ไม่ได้เป็นการลงมาแก้เพื่อปัญหาด้วยตัวเอง แต่เป็นการส่งสัญญาณให้ข้าราชการ และส.ก. ต้องลงมาดูแลประชาชน เอาประชาชนเป็นที่ตั้งไม่ต้องรอให้ผู้ว่าฯ ลงไปจัดการเอง นอกจากนั้นชุมชนก็ต้องให้ความร่วมมือกับกทม. ด้วย เช่นในเรื่องการทิ้งขยะ กทม. สามารถเอาถังขยะมาให้ชุมชนได้ แต่ชุมชนก็ต้องคอยช่วยกันสอดส่องดูแลให้มีการทิ้งขยะลงถัง เพราะกทม. ไม่สามารถเข้ามาสอดส่องได้ตลอดเวลา ทั้งชุมชนและกทม. ต้องร่วมมือกัน ต้องสร้างความไว้ใจซึ่งกันและกัน กทม. ต้องไม่มองว่าชุมชนเป็นภาระแต่เป็นกำลังเสริมที่สำคัญในการช่วยพัฒนาเมือง

“การลงมาพื้นที่แบบในวันนี้ ไม่ใช่การลงมาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง แต่เป็นการส่งสัญญาณว่าข้าราชการต้องลงมาดูแลประชาชน อนาคตไม่ต้องรอให้ผู้ว่าฯ ลงไป และผมว่าชุมชนกับกทม. ต้องไปด้วยกัน ต้องมีความร่วมมือทั้งสองฝ่าย อนาคตที่ผ่านมาเหมือนกับเราขาดความไว้ซึ่งกันและกันระหว่างชุมชนกับ กทม. ซึ่งอนาคตต้องสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน กทม.ต้องเอาชุมชนมาร่วมกัน ต้องไม่มองชุมชนเป็นภาระ แต่ชุมชนเป็นกำลังเสริมที่สำคัญที่จะช่วยให้เมืองพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว” ชัชชาติกล่าว

ชัชชาติ กล่าวอีกว่า ในวันนี้ไม่ได้เป็นการคาดโทษ ผอ.เขต เชื่อว่าทุกคนอยากที่จะทำงานเพื่อประชาชน ในอนาคตประชาชนก็จะมีส่วนในการร่วมประเมิน ผอ.เขต ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ว่าปัญหาที่ร้องเรียนไปได้รับการแก้ไขหรือไม่ จะทำให้สามารถเห็นผลการทำงานของผอ.เขต และสามารถประเมินการทำงานได้ทันที

ชัชชาติ ย้ำว่า การแก้ไขปัญหาในชุมชนไม่ใช่เรื่องยากและใช้งบประมาณสูง แต่เปลี่ยนวิถีชีวิต ความรู้สึกของคนในชุมชนให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ ความเร็วในการตอบสนองความต้องการของประชาชน เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความไว้วางใจกับชุมชน ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องรวดเร็ว หากมีความล่าช้าเกิดขึ้นประชาชนก็จะไม่มีความไว้วางใจ