“จาตุรนต์” อัดประยุทธ์ พูดขอไปที ปมรับน้องรุนแรง ชี้วัฒนธรรมล้าหลังเข้ากับระบอบเผด็จการ

วันที่ 18 มีนาคม 2565 นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรีและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อปัญหาการรับน้องที่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยเฉพาะกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นในสถาบันแห่งหนึ่งในจังหวัดนครราชสีมา ประกอบกับความเห็นของนายกรัฐมนตรีต่อเรื่องดังกล่าวที่ตื้นเขินเกินไปว่า

รับน้องโหด ภาพจำลองสังคมไทย

ที่พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงกรณีการรับน้องรุนแรงจนทำให้นักศึกษาใหม่เสียชีวิตเป็นการพูดแบบขอไปที ที่พูดส่งๆไปว่าต้องเคารพกฎหมายหรือโทษโซเชียลมีเดียว่าทำให้คนชอบความรุนแรงแรงมากขึ้นนั้นแสดงถึงความไม่เข้าใจปัญหาและไม่ช่วยให้เกิดการแก้ปัญหานี้ด้วย
.
ระบบโซตัสและการรับน้องหรือปฏิบัติต่อนักศึกษาใหม่อย่างไม่หมาะสมหรืออย่างเลวๆมีมานานหลายสิบปีแล้วและยังไม่ได้ลดน้อยลงไป
.
น้องใหม่ต้องฟังรุ่นพี่ จะสั่งให้ทำอะไรก็ต้องทำ ให้กินเหล้าก็ต้องกิน สั่งให้วิ่ง วิดพื้นก็ต้องทำ ให้แต่งตัวบ้าๆบอๆก็ต้องแต่ง ให้ถอดเสื้อผ้าก็ต้องถอด ต้องเข้าห้องเชียร์ ต้องทนฟังการขู่ตะคอกอย่างกักขฬะ ไม่ให้ทำอะไรก็ต้องไม่ทำ เช่นห้ามเดินผ่านหน้าตึกบางตึก ห้ามนั่งโต๊ะที่มีไว้สำหรับรุ่นพี่เท่านั้น ฯลฯอีกสารพัด ใครไม่ทำตามคำสั่งก็ข่มขู่คุกคามหรือไม่ก็สร้างสภาพแวดล้อมมากดดันจนนักศึกษาใหม่ที่ถูกกระทนั้นำเรียนอยู่ที่นั่นต่อไปไม่ได้ ที่เลยเถิดไปถึงขั้นทำร้ายร่างกายหรือทำให้เสียชีวิตไปก็มีอยู่บ่อยๆ
.
ระบบโซตัสและการรับน้องที่เลวร้ายนี้มีรากฐานมาจากวัฒนธรรมอำนาจนิยม การไม่เห็นคนเท่าเทียมกัน ไม่เคารพสิทธิเสรีภาพและความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ความคิดและการปฏิบัติเหล่านี้เป็นวัฒนธรรมที่ป่าเถื่อนล้าหลังและเป็นภาพจำลองของสังคมนอกรั้วมหาวิทยาลัยด้วย
.
วัฒนธรรมที่ป่าเถื่อนล้าหลังนี้เข้ากันได้อย่างดีกับระบบเผด็จการซึ่งก็ครอบงำสังคมไทยมายาวนาน เข้ากันได้ดีเหมือนผีกับโลง
.
ที่ผ่านมายังไม่มีการแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ผู้บริหารมหาวิทยาลัยหลายแห่งมองไม่เห็นปัญหา อย่างมากก็พูดถึงเรื่องกฎระเบียบหรือกฎหมาย แต่ไม่ได้พูดถึงรากเหง้าของปัญหา ผู้บริหารมหาวิทยาลัยหรือศิษย์เก่าของสถาบันการศึกษาหลายแห่งยังนิยมชมชอบและแก้ต่างให้กับวัฒนธรรมที่ล้าหลังนี้อีกด้วย
.
จะแก้ปัญหาการรับน้องหรือการปฏิบัติต่อนักศึกษาใหม่ด้วยความรุนแรง จึงไม่อาจแก้ด้วยการสักแต่พูดว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือโบ้ยไปโทษเอากับโซเชียลมีเดียอย่างไม่เป็นเหตุเป็นผลแบบที่พลเอกประยุทธ์พูด แต่จะต้องแก้ด้วยการทำให้ประชาคมมหาวิทยาลัยของไทยส่งเสริมให้มีการศึกษาความคิดค่านิยมของอารยประเทศที่เคารพความเท่าเทียมกันของคน เคารพความเป็นมนุษย์ เคารพในสิทธิเสรีภาพของผู้อื่นที่รวมถึงสิทธิที่จะไม่ทำตามคำสั่งบ้าๆบอๆทั้งหลายด้วย
.
แต่ก็อีกแหละ พลเอกประยุทธ์จะทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ในเมื่อวัฒนธรรมที่ล้าหลังในมหาวิทยาลัยต่างๆเป็นสิ่งที่เข้ากันได้อย่างดีเกื้อกูลซึ่งกันและกันกับการปกครองแบบอำนาจนิยมที่พลเอกประยุทธ์เป็นตัวการสำคัญในการสร้างขึ้นและรักษาไว้อยู่จนทุกวันนี้