จับตาโยกย้ายนายพล เม.ย. ‘ตัวแปร’ แคนดิเดต ผบ.ตร. เปิด 4 ตัวเก็งชิงเก้าอี้ ‘พิทักษ์ 1’/โล่เงิน

โล่เงิน

 

จับตาโยกย้ายนายพล เม.ย.

‘ตัวแปร’ แคนดิเดต ผบ.ตร.

เปิด 4 ตัวเก็งชิงเก้าอี้ ‘พิทักษ์ 1’

 

ระฆังใกล้ส่งสัญญาณถึงฤดูกาลแต่งตั้งนายพลสีกากีครั้งแรกปี 2565

เมื่อ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ออกประกาศลำดับอาวุโส รอง ผบก.-ผู้ช่วย ผบ.ตร. เพื่อใช้คัดเลือกแต่งตั้งในวาระเมษายนนี้

เป็นการประกาศรายชื่อนายตำรวจที่ผ่านหลักเกณฑ์การแต่งตั้ง (การครองตำแหน่ง) มีสิทธิได้รับพิจารณาแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นกลางปีนี้

ตามแนวทางปฏิบัติ ระเบียบและกฎหมาย ตร. การแต่งตั้งในวาระดังกล่าว คาดว่า ก.ตร.จะมีวาระประชุมเรื่องนี้เดือนมีนาคม

จะพิจารณาตำแหน่งว่างจากการเกษียณ ปี 2564 และตำแหน่งว่างอื่นๆ เพื่อแต่งตั้งทดแทน ไปพร้อมการแต่งตั้งนายพลตำรวจวาระกลางปี ในตำแหน่ง ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (พล.ต.อ.) เทียบเท่ารอง ผบ.ตร. ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. (พล.ต.ท.) เทียบเท่าผู้บัญชาการ (ผบช.) และผู้ทรงคุณวุฒิ ตร. (พล.ต.ต.) เทียบเท่าผู้บังคับการ (ผบก.)

โดยผู้ที่ได้เลื่อนตำแหน่ง มี “คุณสมบัติ” เป็นผู้ที่ครองตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.-รอง ผบช. หรือรอง ผบก. ครบวาระ 1 ปี และจะเกษียณปี 2565

นอกจากนี้คาดว่าการแต่งตั้งนายพลรอบนี้ จะแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งที่ยังว่างจากการเออร์ลีรีไทร์ด้วย

สำหรับตำแหน่งระดับนายพลตำรวจที่ยังว่างอยู่ เนื่องจากมีการขอเออร์ลีฯ หลายตำแหน่ง

อาทิ ระดับ ผบช. (ยศ พล.ต.ท.) คือ ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร.

ระดับ ผบก. (ยศ พล.ต.ต.) คือ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, ผบก.ประจำ บช.ปส., ผบก.สสท. และ ผบก.อก.บช.ศ.

 

สําหรับการแต่งตั้งโยกย้ายนายพลสีกากีปลายปี 2565 ปกติมีขึ้นประมาณสิงหาคมนั้น

ปีนี้มีระดับรอง ผบ.ตร.ว่าง 3, ผู้ช่วย ผบ.ตร. 6, ผบช. 13, รอง ผบช. 28 และ ผบก. 49

ตามประกาศลำดับอาวุโสฯ ล่าสุด ผู้ช่วย ผบ.ตร.ที่มีสิทธิได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งขึ้นรอง ผบ.ตร. มี 4 นาย

อาวุโสลำดับที่ 1 พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. คุมงานบริหาร (บร.1) เกษียณปี 2566 ถึงไม่จบ นรต. แต่มีดีกรีนักเรียนนอกจบจากเซ็นทรัล บิสสิเนส สเตต ยูนิเวอร์ซิตี้ ที่รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา

พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวงทรง ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 2 คุมงานมั่นคง (มค.1) เกษียณปี 2568 นรต.รุ่น 39

พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 3 คุมงานด้านกฎหมายและคดี (กม.1) เกษียณปี 2567 นรต.รุ่น 40

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 5 คุมงานป้องกันปราบปราม (ปป.1) เกษียณปี 2574 นรต.รุ่น 47 ได้รับการรับรองการนับระยะเวลาปฏิบัติงานทวีคูณในระดับรอง ผบก. 1 ปี 5 เดือน 13 วัน ทำให้เข้าไลน์คุณสมบัติครบชิงเก้าอี้รอง ผบ.ตร.ด้วย

ส่วน พล.ต.ท.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. อาวุโสลำดับ 4 คุมงานสืบสวนสอบสวน (สส.1) นรต. 38 เกษียณกันยายนนี้

นอกจากนี้ยังมี “สีกากีดาวรุ่งโรจน์” พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เกษียณ 2567 แต่ยังนั่งผู้ช่วย ผบ.ตร.ไม่ครบ 1 ปี

จึงต้องจับตาว่าสามารถฝ่าด่านปาดหน้า 4 แคนดิเดตได้หรือไม่ ถ้าฝ่าได้ หมายความว่าต้องมีชงเรื่องตั้งแต่ ก.ตร. เข้า ก.ต.ช.และเข้า ครม.เพื่อขอให้ยกเว้นหลักเกณฑ์เปิดทางขึ้นรอง ผบ.ตร. วาระโยกย้ายกลางปีนี้ หรือรอเวลาให้คุณสมบัติครบกันยายนขึ้นแท่น รอง ผบ.ตร.ได้

กลายเป็น “ตัวแปร” การพิจารณา ผบ.ตร.คนที่ 13 ส่งผลให้มีแคนดิเดตเพิ่มขึ้นมาอีกคน กลายเป็น 4 คน

คนแรกอาวุโสอันดับ 1 คือ “บิ๊กเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงาน “มั่นคงและกิจการพิเศษ” เป็น นรต.รุ่น 38 เกษียณปี 2566 ประวัติเคยผ่านงานโรงพัก แต่ไม่ใช่แนวไฮเทค มาทางอนุรักษนิยม

ผลงานเข้าตา “บิ๊กรัฐบาล” จากการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ไทยจับมือกัมพูชา ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) และยังนั่ง ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการแข่งรถในทางและความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง ผอ.ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม และความมั่นคง ตร.

ที่สำคัญ “บิ๊กเด่น” เป็น ตท.22 รุ่นเดียว พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. และจัดเป็นสายวงษ์สุวรรณ ใกล้ชิดกับมาสเตอร์มายด์ตัวจริง “2 ป.” พี่น้อง

คนที่สอง พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ดูงานป้องกันและปราบปราม นรต.รุ่น 40 และยังจบนิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาโท MPA จากอเมริกา จบหลักสูตรหลัก FBI จากอเมริกา และหลักสูตรสืบสวนจากสหรัฐ-ออสเตรเลีย

ถ้าได้ติดตามประวัติจะรู้ว่าเป็นคนครบเครื่อง เป็นนักบริหาร แต่ชอบทำตัวโลว์โปรไฟล์ ไม่ค่อยเปิดตัวกับสื่อมวลชน และไม่เคยผ่านงานโรงพัก

ผลงานโดดเด่นสมัยนั่ง ผกก.ทล. ร่วมแก้เหตุคนร้ายบุกยึดสถานทูตเมียนมา และจับตัวประกัน ที่โรงพยาบาลราชบุรี

สมัยเป็น ผบก.ทท.บริหารหน่วยจนได้รับรางวัลดีเด่นทุกระดับสถานี นำเทคโนโลยีตรวจจับใบหน้าและทะเบียนรถมาใช้ในแหล่งท่องเที่ยวเพื่อป้องกันเหตุร้าย และด้วยความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีได้ริเริ่มนำแอพพลิเคชั่นไลน์ใช้สื่อสารกับนักท่องเที่ยว

ต่อมาขึ้นรอง ผบช.ก. จากนั้นเป็น ผบช.ส. คุมด้านการข่าว และเป็น ผบช.ศ.

ปี 2561 ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร. ปี 2564 อัพนั่งรอง ผบ.ตร.

คนที่สาม พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น “สิงห์แดง” จบรัฐศาสตร์ มธ. เกษียณอายุ 2567 น้องชาย พล.อ.สถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการพระราชวัง

เริ่มต้นชีวิตตำรวจ ปี 2540 เป็น รองสว. บก.สปพ. (191) ปี 2543 ขณะติดยศ ร.ต.ท. เข้าเรียน ร.ร.สืบสวนที่วิทยาลัยการตำรวจ จนสำเร็จหลักสูตรเป็น รอง สว. กองปราบปราม แล้วขึ้นหัวหน้าชุดสืบสวน งานแผนก 3 กก. 2 รถวิทยุ กองปราบฯ อยู่กองปราบฯ นาน 17 ปี ได้ขึ้นสารวัตรที่ บช.ท่องเที่ยว

ย้ายมาเป็นสารวัตรกองร้อยปฏิบัติการพิเศษที่ 3 คุมปราบจลาจล ก่อนเปลี่ยนมาคุมรถสายตรวจ ขยับขึ้นรอง ผกก.ปฏิบัติการพิเศษ รรท.ผกก.ปฏิบัติการพิเศษ และเป็น ผกก.เต็มตัว ขึ้นเป็นรอง ผบก.ป. ดูแลหน่วยปฏิบัติการพิเศษรับผิดชอบถวายความปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์

เมื่อเมษายน 2562 จาก ผบก.ถวายความปลอดภัยและปฏิบัติการพิเศษ เป็น ผบก.ตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 กันยายน 2562 เลื่อนเป็น รอง ผบช.ก. อีก 1 ปี ขึ้น ผบช.ก. และเมื่อตุลาคม 2564 สไลด์ขึ้นผู้ช่วย ผบ.ตร.

และสุดท้ายกำลังถูกจับตามอง “บิ๊กหิน” พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ เกษียณปี 2566

ถือเป็น “ม้ามืด” ฉายา มือปราบคอร์รัปชั่นในวงการตำรวจ

แม้ไม่ได้จบ นรต. แต่แนบแน่น “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทบ. ที่สำคัญ เครือข่ายครอบคลุมราชการไทย ยิ่งไปกว่านั้น “นามสกุล” บ่งบอกถึงสถานะได้เป็นอย่างดี

ทั้ง 4 คนนี้คือ “แคนดิเดต” ผบ.ตร.คนที่ 13 ที่พูดถึงกันในอาณาจักรโล่เงินขณะนี้