THE LAST DUEL ‘ความยุติธรรม?’ / ภาพยนตร์ : นพมาส แววหงส์

นพมาส แววหงส์
Credits: 20th Century Studios

ภาพยนตร์

นพมาส แววหงส์

 

THE LAST DUEL ‘ความยุติธรรม?’

 

กำกับการแสดง

Ridley Scott

นำแสดง

Matt Damon

Adam Driver

Jodie Comer

Ben Affleck

 

หนังเรื่องนี้ลงทุนสูงมากถึงร้อยล้านดอลลาร์ ใช้ผู้กำกับฯ ชื่อเสียงโด่งดังฝีมือดี (ริดลีย์ สกอตต์ ผู้กำกับฯ The Gladiator, Alien, The Bladerunner) คนเขียนบทฝีมือดี (สองหนุ่มเพื่อนรัก แมตต์ เดมอน และเบ็น แอฟเฟล็ก ผู้เคยร่วมงานเขียนบท Good Will Hunting) และดารานำชื่อดัง (ทั้งแมตต์และเบ็น แล้วยังมีดาราหนุ่มร้อนแรงอีกคน คือ อาดัม ไดรเวอร์) เป็นทุนประกันความเสี่ยง

แต่น่าเสียดายที่มีคนไปดูกันน้อยมาก เมื่อเปิดตัวในกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ไม่รู้จะเป็นเพราะพิษโควิดเรื้อรัง เรตติ้งอาร์ (ทำให้ไม่ใช่หนังสำหรับครอบครัว) จังหวะของการเข้าฉายซึ่งใกล้กับเทศกาลฮัลโลวีน (ซึ่งเป็นคนละมู้ดกับเรื่องราวแบบนี้) หรือว่าเพราะคนรุ่นใหม่ไม่ชอบดูหนังอิงประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส ที่สร้างจากคดีความที่ตกอยู่ในความสนใจของสาธารณชนอย่างล้นหลาม จนมีเรื่องราวบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสหลายสำนวน ก็ไม่ทราบได้

รายได้ของหนังจากบ็อกซ์ออฟฟิศจึงขึ้นมาเพียงไม่ถึงครึ่งของทุนสร้าง ชวนให้นึกโหวงเหวงไปว่าอีกหน่อยโอกาสที่จะได้ดูหนังมหากาพย์ประวัติศาสตร์อันอลังการคงจะไม่ค่อยมีเสียแล้ว เพราะค่ายหนังคงเข็ดจนไม่อยากลงทุนกับหนังประวัติศาสตร์อีกแล้ว

 

ขอบอกเลยว่า The Last Duel เป็นหนังดีมากๆ สร้างอย่างประณีต มีการค้นคว้าข้อมูลและนำเสนออย่างถูกต้อง และเป็นเรื่องราวที่ทำให้เกิดความคิดหลายประการทีเดียว

โดยเฉพาะในแง่ของความรุนแรงทางเพศ สถานภาพสตรีตอนปลายยุคกลาง และความยุติธรรมที่ตัดสินกันด้วยพละกำลัง

นี่เป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่ศาลฝรั่งเศสตัดสินคดีด้วยการให้คู่คดีต่อสู้กันจนถึงแพ้ถึงชนะซึ่งต้องแลกด้วยชีวิตของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง โดยมีสมมุติฐานว่าพระเจ้าจะทรงอยู่ฝ่ายเดียวกับผู้พูดความจริงและเป็นฝ่ายถูกในคดีความนั้น

เรื่องราวเกิดขึ้นในฝรั่งเศสในรัชสมัยของพระเจ้าชาร์ลส์ที่หก (อเล็กซ์ ลอว์เธส) ผู้ที่มีฉายาในประวัติศาสตร์ว่า The Mad King และหนังก็ส่อให้เห็นว่ากษัตริย์ผู้ยังทรงพระเยาว์อยู่นี้มีวี่แววว่าต่อไปจะมีพระสติวิปลาสไป

คหบดีเจ้าของที่ดินสองคน ชื่อฌอง เดอ คาร์รูจส์ (แมตต์ เดมอน) กับฌาก เลอ กรี (อาดัม ไดรเวอร์) เคยออกรบร่วมกัน และฌองเคยช่วยชีวิตฌากไว้ จนมีสัมพันธภาพที่ดีต่อกัน เรียกว่ากลายเป็นเพื่อนรักกันก็ว่าได้ เพราะคอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันในยามเดือดร้อน

แต่ฌากเป็นที่โปรดปรานของขุนนางเหนือหัวชื่อ ปีแอร์ ดาลังซู (เบ็น แอฟเฟล็ก ซึ่งแต่งองค์ทรงเครื่องและมีผมสีทองโพลนจนแทบจำไม่ได้เลยเมื่อแรกเห็น) ขณะที่ฌองกลายเป็นหมาหัวเน่า เนื่องจากเคยทำการเรียกร้องความยุติธรรมในที่ดินที่ปิแอร์ยึดไปจากสินสมรสของฌอง และเอาไปยกให้แก่ฌาก

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพ่อของฌองตาย ฌองควรจะได้รับสืบทอดตำแหน่งเจ้าเมืองแทนพ่อ แต่ปิแอร์กลับริบตำแหน่งคืนและนำไปยกให้ฌาก

เพื่อนรักจึงเหินห่างกันไปแบบไม่มองหน้ากัน

 

จนกลับมาคืนดีกันใหม่อีกครั้ง โดยที่ฌองแนะนำให้ฌากรู้จักภรรยาคนสวยของเขา

และแล้วฌองก็จากไปสู้รบในสกอตแลนด์และกลับมาด้วยเกียรติยศใหม่ของอัศวิน ฌองเรียกร้องให้ฌากแสดงความเคารพต่อเขาด้วยการเรียกเขาว่าเซอร์ฌอง แทนที่จะเรียกชื่อเฉยๆ

ระหว่างที่ฌองไม่อยู่บ้าน ทิ้งให้ภรรยาอยู่คนเดียว ก็เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น ซึ่งภรรยาเขา มาร์เกอริต (โจดี คัมเมอร์) เล่าให้ฟังว่าเธอโดนขืนใจ

เรื่องนี้ทำให้ฌองนำเรื่องไปฟ้องร้องกษัตริย์เพื่อขอความยุติธรรม ซึ่งเป็นการกระทำที่ข้ามหัวปิแอร์ไป และยิ่งทำให้ปิแอร์เข้าข้างฌากเต็มตัว

และเมื่อคดีความหาพยานมายืนยันไม่ได้ นอกจากสองคนที่อยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น ซึ่งยืนยันว่าตนไม่ผิด

จึงนำมาสู่การตัดสินด้วยการต่อสู้ดังที่กล่าวข้างต้น

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของหนังเล่าจากปากคำของบุคคลสามคน แรกทีเดียวจากฌอง เดอ คาร์รูจส์ ผู้กล่าวหา เวอร์ชั่นที่สองจากฌาก เลอ กรี ผู้ถูกกล่าวหา และเวอร์ชั่นที่สามจากมาร์เกอริต หญิงผู้อยู่ในเหตุการณ์

ลักษณะการดำเนินเรื่องจึงคล้ายกับหนังคลาสสิคที่เรารู้จักกันดี คือ Rashomon ฝีมือบรมครูภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่น อากิระ คูโรซาวะ ซึ่งเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในป่าระหว่างโจรป่า ซามูไรและเมียซามูไร โดยมีผลลัพธ์คือศพของซามูไรผู้นอนตายอยู่กลางป่า ผู้ต้องสงสัยคือโจรป่า ซึ่งมาให้การในศาลว่าเขาเป็นคนฆ่าซามูไร

แต่เมียซามูไรผู้โดนโจรป่าข่มขืนก่อนจะหนีไป กลับให้การว่าเธอเป็นคนฆ่าสามีเองด้วยความโกรธแบบเลือดขึ้นหน้าจากการถูกสามีเหยียดหยาม

ศาลต้องเรียกคนทรงมาเข้าทรงวิญญาณของซามูไรเพื่อให้การ และวิญญาณของซามูไรบอกว่าเขาฆ่าตัวตายเองเพื่อเรียกศักดิ์ศรีเยี่ยงซามูไรคืนมา

ราโชมอนยังมีตอนจบที่พลิกเรื่องไปอีกทางด้วยปากคำของคนตัดไม้ที่แอบดูเหตุการณ์อยู่

ความแตกต่างระหว่างราโชมอนกับ The Last Duel อยู่ที่ว่าในราโชมอน ผู้อยู่ในเหตุการณ์ต่างเล่าเรื่องไปคนละทางในประเด็นสำคัญ คือใครเป็นคนฆ่าซามูไร และไม่ใครก็ใครต้องเป็นคนพูดเท็จ

แล้วจึงลงเอยด้วยปากคำของพยานผู้รู้เห็นเหตุการณ์มาเฉลยถึงเรื่องจริงที่เกิดขึ้น

 

ส่วนใน Last Duel นั้น เรื่องของคนทั้งสามไม่ได้แตกต่างกันในประเด็นสำคัญ แต่แตกต่างด้วยมุมมองของคนเล่าเรื่อง และลำดับของการเล่าเรื่องก็น่าจะพอบอกให้รู้ถึงน้ำหนักความน่าเชื่อถือของผู้อยู่ในเหตุการณ์

โดยเฉพาะเมื่อแม่ของฌองตำหนิลูกสะใภ้ที่โวยวายเรียกร้องความยุติธรรม จนทำให้ลูกชายของนางต้องเสี่ยงชีวิตเข้าแลก โดยบอกว่านางเองก็เคยโดนเหตุการณ์แบบนี้มาแล้ว แต่นางไม่ได้ป่าวร้องให้ใครรู้ ได้แต่เก็บงำไว้เงียบเชียบ เพราะพูดออกไปก็มีแต่จะเป็นอันตรายแก่ตัวเอง

และโดยเฉพาะเมื่อมาร์เกอริตได้รับการบอกเล่าว่าถ้าเธอยังยืนยันว่าตัวเองพูดความจริง สามีเธอก็ต้องไปพิสูจน์ความจริงด้วยการต่อสู้กับอีกฝ่าย และถ้าสามีเธอแพ้ นั่นก็จะหมายความว่าเธอพูดโกหก และต้องขึ้นตะแลงแกงโดนเผาให้ตายไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างของคนอื่น

การต่อสู้ในชุดเกราะอัศวินเต็มยศทั้งบนหลังม้าด้วยทวน และด้วยดาบและมีดบนดิน ท่ามกลางสายตานับหมื่นนับพันคู่ครั้งนั้น เป็นการตัดสินด้วยการสู้รบเป็นครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส

องค์ประกอบของหนังครบถ้วนสมบูรณ์มาก และการแสดงของตัวนำทุกตัวก็ยอดเยี่ยม

อยากแนะนำให้หามาดูกันนะคะ