“อรุณี” จัดหนัก “ประยุทธ์” ส่งท้ายปี 7 ที่สุดแห่งความล้มเหลวปี 64 จี้คืนอำนาจให้ปชช.โดยเร็ว

วันที่ 29 ธันวาคม 2564ผศ.ดร.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในวาระใกล้สิ้นปี 2564 ก่อนเข้าสู่ปี 2565 ด้วยการจัดที่สุดของความล้มเหลวที่เกิดขึ้นในรัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตผู้นำก่อการรัฐประหาร 2557 นำไปสู่ผู้นำรัฐบาลเผด็จการทหาร และนายกรัฐมนตรีจากกลไกทางการเมืองที่ถูกออกแบบโดย คสช.เอง ที่ประชาชนคนไทยต้องเผชิญการบริหารอันผิดพลาดของรัฐบาลว่า
ที่สุดของความล้มเหลวแห่งปี 64 ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
.
.
ผ่านพ้นกันไปอีกปีแล้วนะคะ ที่พวกเราคนไทยต้องอยู่ภายใต้การบริหารประเทศของนายกฯ ที่ชื่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอีกปีที่พวกเราคนไทยต้องเผชิญปัญหาต่าง ๆ มากมาย ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และโรคระบาด และก็ย่างเข้าปีที่ 8 แล้วนะคะ ที่เราต้องทนอยู่กับรัฐบาลเผด็จการ
.
ไหน ๆ ก็ใกล้จะสิ้นปีแล้ว หญิงจะขอสรุปความผิดพลาดในการบริหารของพลเอกประยุทธ์และมาจัดอันดับความล้มเหลวที่สุดแห่งปีให้รัฐบาลชุดนี้กันดีกว่าค่ะ
.
1. ภาวะผู้นำยอดแย่ที่สุดแห่งปี
.
การบริหารประเทศในฐานะนายกฯ กับการบริหารกองทัพในฐานะผบ.ทบ. เป็นคนละเรื่องกัน พลเอกประยุทธ์อาจจะเคยชินกับการใช้อำนาจ ทำให้การตัดสินใจและการสื่อสารขาดความรอบคอบ ตัวอย่างเช่น การแก้ไขปัญหาพืชผักราคาแพงด้วยการ “สั่งให้ทหารปลูกผักชี” บ้างล่ะ แก้ไขปัญหาการประท้วงค่าน้ำมันของกลุ่มพี่น้องรถบรรทุกด้วยการ “สั่งให้รถทหารออกวิ่งแทน” บ้างล่ะ หรือแก้ไขปัญหาราคาทางด่วนแพงด้วยการบอกว่า “ให้คนจนวิ่งข้างล่าง ให้คนรวยวิ่งทางด่วน” บ้างล่ะ สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนนะคะว่า พลเอกประยุทธ์เคยชินกับการแก้ปัญหาด้วยอำนาจสั่งการ มากกว่าการบริหารด้วยเครื่องมือทางการตลาดเหมือนที่ผู้นำประเทศควรจะเป็น
.
ไม่รวมว่าพลเอกประยุทธ์ทำให้บทบาทผู้นำในเวทีอาเซียนของไทยตกต่ำลงจนกลายเป็นผู้ตาม จากต้นแบบประชาธิปไตยในอาเซียน ตอนนี้เราก็กลายเป็นต้นแบบเผด็จการที่ให้ความช่วยเหลือค้ำจุนประเทศเผด็จการในอาเซียนอย่างรัฐบาลเผด็จการในพม่าแทนแล้ว
.
2. คุกคามประชาชนอย่างร้ายแรงที่สุดแห่งปี
.
ปีนี้เป็นปีที่มีการคุกคามและละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชนจากรัฐบาลอย่างรุนแรง เป็นปีที่มีจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีสูงที่สุด จากใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมอย่างสันติตามสิทธิขั้นพื้นฐานอย่างไม่เป็นธรรม รวมไปถึงการกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปราบปรามผู้ชุมนุมมือเปล่าด้วยความรุนแรงผิดกับหลักสากล และใช้กฎหมายเฟคนิวส์เพื่อปิดปากประชาชนและจำกัดสิทธิในการแสดงความคิดเห็น ทั้งหมดนี้ก็เพราะพลเอกประยุทธ์ขาดจิตสำนึกประชาธิปไตย ใจไม่กว้างพอที่จะยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง แต่ก็ชอบอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยและต้องดำเนินการตามกฎหมาย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองก็มาจากการฉีกกฎหมายทิ้งเพื่อยึดอำนาจแท้ ๆ
.
3. การทุจริตคอร์รัปชั่นครั้งมโหฬารที่สุดแห่งปี
.
ในปี 2558 องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International) ได้จัดอันดับดัชนีการรับรู้การทุจริตให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 85 จาก 180 ประเทศทั่วโลก จนมาถึงในปี 2020 ที่ประเทศไทยร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่ 104 ซึ่งจะเห็นได้นะคะว่า ดัชนีการรับรู้การทุจริตของไทยตกต่ำลงมาเรื่อย ๆ นับตั้งแต่การรัฐประหารในปี 2557 แม้ว่าฝ่ายค้านจะยื่นเรื่องการทุจริตให้หน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบ หรือการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วก็ตาม แต่เรื่องกลับเงียบหาย ไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการจากหน่วยงานเหล่านี้เลย เช่น ปัญหาการจัดซื้อถุงมือยางของกระทรวงพาณิชย์ที่มีงบประมาณสูงถึงหลักแสนล้านบาท หรือการจัดซื้อวัคซีนโควิด-19 ที่มีราคาไม่ตรงกันเลยในแต่ละการสั่งซื้อ ทั้ง ๆ ที่ตอนเข้ามาอ้างว่าจะเข้ามาปรามการทุจริต แต่พอเป็นเรื่องที่ส่อแววทุจริตของฝั่งตัวเอง กลับเงียบเลยนะคะ
.
4. ปัญหาเศรษฐกิจเลวร้ายที่สุดแห่งปี
.
ในฐานะที่พลเอกประยุทธ์นั่งเก้าอี้หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พี่น้องประชาชนก็คงคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะแข็งแกร่งมากขึ้น แต่ก็ต้องผิดหวังค่ะ เมื่อพลเอกประยุทธ์ไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นได้ พลเอกประยุทธ์ได้ทำในสิ่งที่ผู้นำคนอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้ ด้วยการทำลายสถิติการกู้เงินสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ แถมเงินจำนวนมหาศาลที่กู้มายังไม่สามารถใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นได้ ทำลายสถิติหนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะ การขาดดุลงบประมาณสูงที่สุด ทำให้ประชาชนคนไทยต้องกลายเป็นจนเพิ่มขึ้นถึง 5 แสนคน และทำให้เส้นความยากจนขยับลงมาได้อีก ท่านสามารถทำให้คนรวยรวยมากยิ่งขึ้นไปอีก แต่กลับทำให้คนที่จนอยู่แล้วยิ่งจนลงเข้าไปใหญ่ สามารถทำในสิ่งที่ไม่เคยมีนายกฯ คนไหนทำได้มาก่อนเลยนะคะเนี่ย
.
5. การศึกษาถอยหลังลงคลองแห่งปี
.
นับตั้งแต่ที่พลเอกประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศในปี 2557 จนถึงปัจจุบัน การวัดผลและการประเมินของเด็กไทยในระดับโลกตกต่ำลงทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นคะแนน PISA หรือความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งจัดอันดับโดย EF Education First องค์กรนานาชาติที่เชี่ยวชาญเรื่องการฝึกอบรมภาษา ในปี 2562 ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 74 จาก 100 ประเทศ ปี 2563 ประเทศไทยร่วงลงมาอยู่อันดับที่ 89 จาก 100 ประเทศ และปี 2564 ประเทศไทยร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่ 100 จาก 112 ประเทศ รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่มประเทศอาเซียน
.
จากการคาดการณ์ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ภายในสิ้นปีการศึกษา 2564 จะมีเด็กนักเรียนหลุดจากระบบการศึกษากว่า 65,000 แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่านี่เป็นผลจากวิกฤตโควิด-19 แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาเชิงโครงสร้างและระบบเศรษฐกิจที่เปราะบางของไทย รวมไปถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาที่พุ่งสูงขึ้น เด็กยากจนถูกทิ้งโดยไร้การเหลียวแลจากรัฐ ทั้ง ๆ ที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ หญิงสงสัยมากค่ะว่า ทำไมตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปีที่ผ่านมา การศึกษาไทยถึงไม่ได้มีการพัฒนาคุณภาพเลยแม้แต่น้อย แถมยังถอยหลังลงคลองเรื่อย ๆ อีกต่างหาก
.
6. รับมือกับโควิด-19 ได้ไม่เป็นท่าที่สุดแห่งปี
.
รัฐบาลประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ผิดคาดที่สุดเลยค่ะ ซึ่งมาจากความประมาท ความไม่รู้จริง และไม่ยอมรับฟังคนอื่นของรัฐบาลเอง ทำให้การตัดสินใจมีความผิดพลาดจนการระบาดขยายวงกว้างเกินกว่าที่ระบบสาธารณสุขของไทยจะรับมือไหว จนมีผู้ป่วยบางหลายทนต้องเสียชีวิตคาบ้านหรือต้องตายริมถนน เป็นอีกครั้งนะคะที่ท่านทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำได้ คือ ทำให้ระบบสาธารณสุขไทยที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้น ๆ เกือบจะล่มสลายได้ แถมมาตรการต่าง ๆ ที่มาจากภาครัฐก็มีความสับสนกลับไปกลับมา ผลกระทบลามไปถึงปากท้องของพี่น้องประชาชน หลายคนต้องตกงานและอีกหลายคนที่ตัดสินใจจบชีวิตลงเพราะหมดสิ้นหนทาง การจัดซื้อวัคซีนก็มีความผิดพลาดจนทำให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมสูงขึ้นถึง 2 ล้านกว่าคน ทั้ง ๆ ที่สามารถป้องกันได้ด้วยการสั่งซื้อวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้ทันการณ์ สถานการณ์โควิด-19 ในบ้านเราคงไม่แย่ถึงจุดนี้หรอกค่ะ
.
7. ยาเสพติดและอาชญากรรมเยอะที่สุดแห่งปี
.
ในสายตาชาวโลกตอนนี้ ประเทศไทยคงถูกมองว่าเป็นแหล่งส่งออกยาเสพติดที่ใหญ่ที่สุดในโลกไปแล้วค่ะ ถ้ายังจำกันได้ เคยมีข่าวที่ตำรวจไต้หวันสามารถยึดเฮโรอีนบริสุทธิ์น้ำหนัก 446.8 กิโลกรัม มูลค่าราว 6,000 ล้านบาทได้ ซึ่งถูกซุกซ่อนมากับไม้แปรรูปที่ส่งมาจากประเทศไทย หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ศุลกากรฮ่องกงยึดเฮโรอีนน้ำหนัก 22 กิโลกรัม มูลค่า 124 ล้านบาท ที่ถูกซ่อนมากับผลไม้กระป๋องจากประเทศไทยเช่นเดิม ภายใต้การบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ ประเทศไทยดูคล้ายว่าจะเป็นศูนย์กลางยาเสพติดไปแล้ว ปัญหายาเสพติดไม่ได้ระบาดแค่ในเมืองไทย แต่ลามไปจนถึงต่างประเทศด้วยการส่งออกจากประเทศไทย แถมคดีอาชญากรรมในประเทศยังมีมากขึ้น จนพี่น้องประชาชนไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอีก
.
ทั้งหมดนี้คือผิดพลาดจากการบริหารประเทศของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หญิงขอมอบรางวัลความล้มเหลวที่สุดแห่งปีในทุก ๆ ด้านให้กับท่านไปเลยค่ะ หญิงว่าไม่เคยมีครั้งไหนที่พี่น้องคนไทยต้องอยู่กับความสิ้นหวังได้เท่ารัฐบาลนี้อีกแล้วค่ะ
.
สุดท้ายนี้ เนื่องในวาระขึ้นปีใหม่ หญิงขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย โปรดช่วยดลบันดาลให้พี่น้องคนไทยมีความสุข คิดหวังสิ่งใดให้สมปรารถนา สุขภาพร่างกายแข็งแรงปราศจากโรคภัย อดทนให้ผ่านพ้นความทุกข์ยากจากการบริหารของรัฐบาลชุดนี้ไปได้ด้วยดี และขอวิงวอนไปยังท่านนายกฯ ว่า ถ้าอยากจะมอบของขวัญวันปีใหม่ให้พี่น้องประชาชนคนไทย ไม่ต้องมอบโครงการสลาก 80 ให้หรอกค่ะ ขอแค่ท่านคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการเลือกตั้งใหม่ แค่นี้ก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยและประเทศไทยแล้วค่ะ