เผยแพร่ |
---|
ต้องยอมรับว่า แคมเปญแจก #คู่มือเอาตัวรอดในโรงเรียน ของกลุ่ม “นักเรียนเลว” ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง
ไม่ว่าจะมองในด้าน “ความคิด” ไม่ว่าจะมองในด้าน”การเมือง”
ตัวอย่างที่เห็นอย่างเด่นชัดก็คือ เพียงเปิดแคมเปญขึ้นในกลาง เดือนพฤศจิกายน เพียง 2 วันจำนวนผู้แสดงความจำนงขอรับ”คู่มือ”ในแต่ละวันทะยานเข้าสู่หลักหมื่น
กระทั่งมีความจำเป็นต้องออกแคมเปญใหม่ “ระดมทุนเพื่อผลิตคู่มือเพิ่ม” เพื่อแจกถึงมือนักเรียน 1,000,000 คนทั่วประเทศ ทุกการ สนับสนุน 50 บาท ส่งต่อคู่มือให้นักเรียนได้ 1 เล่ม
เห็นหรือยังว่าพลานุภาพของ”นักเรียนเลว”กำลังแผ่ขยายไปตามโรงเรียนต่างๆ ไม่เพียงแต่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น หากกระจายไปยังส่วนภูมิภาคอย่างคึกคัก
ไม่ว่าจะเป็นอุบลราชธานี ไม่ว่าจะเป็นพิษณุโลก นครสวรรค์
ยิ่งคู่มือ”เอาตัวรอดในโรงเรียน”แพร่กระจายออกไปกว้างขวาง มากเพียงใด นั่นหมายถึงขอบข่ายที่ใหญ่ขึ้นของ”นักเรียนเลว”
เท่ากับเป็นการหว่านและเพาะเมล็ดพันธุ์ในทาง”ความคิด”
ต้องยอมรับว่า ปรากฏการณ์”นักเรียนเลว” บังเกิดขึ้นในระยะกาลใกล้เคียงกันกับของ”เยาวชนปลดแอก” และ”แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”ในเดือนกรกฎาคม สิงหาคม 2563
เห็นได้จากการแสดงออกผ่านการผูก”โบว์ขาว”และการ”ชู 3 นิ้ว”ในห้วงแห่งการเคารพธงชาติ
ไม่ว่าจะเป็นทางภาคเหนืออย่างพิษณุโลก ลำพูน ไม่ว่าจะเป็นทางใต้อย่างหาดใหญ่ สงขลา นครศรีธรรมราช ไม่ว่าจะเป็นทางภาคอีสานอย่างร้อยเอ็ด อุบลราชธานี และนครราชสีมา
จากนั้นก็นำไปสู่การชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาธิการในยุคของ นายณัฐพล ทีปสุวรรณ เป็นรัฐมนตรี
ต่อเนื่องมาถึงยุคของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ในปัจจุบัน
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายเนติวิทย์ โชติภัทรไพศาล ก็เริ่มการเคลื่อน ไหวตั้งแต่เป็นนักเรียน อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ก็เริ่มการเคลื่อนไหวตั้งแต่เป็นนักเรียน
นั่นคือ เส้นทางของ”รุ่นพี่”ที่กรุยทางไว้สำหรับ”นักเรียนเลว”
หาก น.ส.ตรีนุช เทียนทอง มีโอกาสศึกษา”คลิป”ที่กลุ่ม”นักเรียนเลว”จัดทำออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าก็จะเข้าใจ
เข้าใจว่าทิศทางของ”นักเรียนเลว”จะพัฒนาไปอย่างไร