นาทีบุกจับน้องไข่เน่า เซ็กซ์ครีเอเตอร์ชื่อดัง ตร.ลั่นปกป้องศีลธรรม สังคมติง-มองอีกด้าน/อาชญา ข่าวสด

บันทึกจับกุม

อาชญา ข่าวสด

 

นาทีบุกจับน้องไข่เน่า

เซ็กซ์ครีเอเตอร์ชื่อดัง

ตร.ลั่นปกป้องศีลธรรม

สังคมติง-มองอีกด้าน

 

กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมอย่างกว้างขวาง สำหรับกรณีการบุกจับกุมตัว “น้องไข่เน่า” น.ศ.สาววัย 19 ปี ที่ตั้งตัวเป็นครีเอเตอร์ ผลิตคลิปวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ในเว็บไซต์ onlyfans.com

ก่อนคุมตัวมาสอบสวนแจ้ง 2 ข้อหาหนักในเรื่องการผลิตสื่อลามกและความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

พร้อมยืนยันสาเหตุที่ต้องบุกจับเพราะหวั่นเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี แถมเป็นคดีที่ละเมิดศีลธรรมอันดีของสังคมไทย

จึงต้องดำเนินคดีเด็ดขาด!!

ซึ่งแน่นอนเมื่อกฎหมายกำหนดว่าเป็นความผิดแล้ว ก็เป็นอำนาจของตำรวจในฐานะผู้บังคับใช้กฎหมายจะต้องดำเนินการ

แต่ก็มีอีกกระแสที่ตั้งคำถามว่าการอ้างศีลธรรมอันดีเช่นนี้ ส่งผลให้การปฏิบัติรุนแรงเกินกว่าเหตุไปหรือไม่

หรือเป็นเพราะการที่ “น้องไข่เน่า” ไม่ได้ทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ ผลิตสื่อแบบใต้ดิน แต่เปิดหน้าแสดงตัวตนชัดเจนว่านี่คืออาชีพแบบหนึ่งที่ทำรายได้หาเลี้ยงชีพ และเรียกร้องการยอมรับจากสังคม

ยิ่งไปกว่านั้น ยังตั้งคำถามถึงโครงสร้างทางสังคม ที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจที่ถดถอยจากพิษโควิด ทำให้คนหันไปหารายได้ด้วยวิธีอื่นๆ

และเป็นที่น่าสงสัยอย่างยิ่งว่าการจับกุมดำเนินคดีเช่นนี้ จะคงไว้ซึ่ง “ศีลธรรมอันดี” ให้ได้ยาวนานเพียงใด

บุกจับกลางดึก

ตร.ไซเบอร์บุกจับน้องไข่เน่า

ตกเป็นข่าวร้อนแรงขึ้นมาทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ หรือกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นำหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ บุกเข้าจับกุม “น้องไข่เน่า” อายุ 19 ปี พร้อมแฟนหนุ่มอายุ 20 ปี ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ

เมื่อเคาะประตูเรียกทั้งคู่ออกมา ก็อ่านหมายจับพร้อมแจ้งข้อหา ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาร่วมกันทำผลิต มีไว้ หรือนำเข้าหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ อันลามก เพื่อความประสงค์แห่งการค้าเพื่อแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงโอวาทแก่ประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อหานำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไป

พร้อมคุมตัวมาดำเนินคดีที่ บช.สอท. เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยมี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. สอบปากคำด้วยตัวเอง

จากนั้น พล.ต.ท.กรไชยเปิดเผยว่า จากการสอบสวนพบผู้ต้องหาเริ่มทำคลิปวิดีโอตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ได้รับเงินส่วนแบ่งมาแล้วอย่างน้อย 500,000 บาท ซึ่งในการแจ้งข้อหา ทั้งคู่ยอมรับเพียงข้อหา ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าหรือส่งออก ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี รูปภาพ ฯลฯ หรือสิ่งอื่นใดอันลามก โดยมีวัตถุประสงค์แก่การค้าเพื่อแจกจ่าย หรือการแสดงอวดแก่ประชาชน

ส่วนข้อหา พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยังคงให้การภาคเสธ อ้างเหตุผลว่าเว็บไซต์ดังกล่าว เป็นระบบสมาชิกที่ต้องมีการจ่ายเงินเพื่อเข้ารับชม ไม่ใช่เว็บไซต์เปิดทั่วไปที่ใครก็สามารถเข้าถึงได้

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแม้ผู้ต้องหาจะปฏิเสธ ก็ยังถือว่าเข้าข่ายความผิด เพราะจากพยานหลักฐานของตำรวจที่ใช้ในการขอหมายจับ พบว่าบุคคลทั่วไปก็สามารถเข้าถึงได้โดยการใช้เงินในการเข้าถึง ซึ่งใครก็สามารถเข้าถึงได้

“สิ่งที่เราทำเพื่อจะจรรโลงวัฒนธรรมอันดี ขบบธรรมเนียบประเพณี ศีลธรรม ไม่เช่นนั้นคนในประเทศไทยก็จะหลงผิด ส่วนที่มาคอมเมนต์ว่าจับเก่งจัง ต้องชี้แจงว่าผมจับโจรไซเบอร์ ไม่ใช่โจรชิงทรัพย์ เราจับโจรไซเบอร์ และส่งผลต่อวัฒนธรรมสังคม เราเป็นคนมีศีลธรรม บอกผู้ต้องหาว่าวันหนึ่งมีลูก ลูกไปโรงเรียน แล้วมีผู้ปกครองจำได้ ลูกคุณจะเป็นโรคซึมเศร้า”

หลังสอบปากคำนาน 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่คุมตัวทั้ง 2 ไปทำแผนรับสารภาพที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งที่ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำคลิปดังกล่าว ซึ่งพบอุปกรณ์ขาตั้งกล้อง และอุปกรณ์ประกอบฉาก

ก่อนคุมตัวกลับมาที่ บช.สอท. เพื่อทำประกันในชั้นพนักงานสอบสวน แต่มีเงื่อนไขให้รับปากว่าจะไม่กลับไปมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการยุยง หรือส่งเสริมให้มีการกระทำผิดศีลธรรมอันดีงามอีก ทั้งคู่ยอมรับ จึงให้ประกันโดยยื่นเงินค่าประกันคนละ 1 แสนบาท

บันทึกจับกุม

สู้คดีในชั้นศาลต่อไป

ย้อนที่มาคนดังโอนลี่แฟน

สําหรับการจับกุมดังกล่าว มีจุดเริ่มจากกระแสในโลกออนไลน์ จากเว็บไซต์ onlyfans.com ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นเว็บไซต์ที่เปิดให้เหล่าครีเอเตอร์วิดีโอ เข้าไปทำผลงาน และให้มีผู้ติดตามจ่ายเงินเพื่อดูผลงานนั้น ทั้งนี้ ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นเรต 18+ โดยในเว็บไซต์มีทั้งคอร์สสอนการเรียน ศิลปะ และเนื้อหาสาระอีกมากมาย

อย่างไรก็ตาม หัวข้อยอดนิยมยังคงเป็นเนื้อหาวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งมี “น้องไข่เน่า” เป็น 1 ในครีเอเตอร์ ที่มีผู้ติดตามมากและพร้อมจ่ายค่าคลิปลับเฉพาะเข้าไปดูเนื้อหา

ขณะที่น้องไข่เน่า หลังจากที่โด่งดังในสังคมแบบปิด ก็ไม่ได้ทำตัวเหมือนนักแสดงวาบหวิวทั่วไปที่โลว์โปรไฟล์ตนเอง แต่กลับเดินสายออกรายการทางออนไลน์ ให้สัมภาษณ์เปิดตัวตนของตัวเอง

โดยในการออกรายการจากเพจ “บ้านกูเอง” น้องไข่เน่าเล่าว่า มีชื่อจริงว่าตะวัน เป็นนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมีมุมมองเกี่ยวกับเซ็กซ์และร่างกายว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และเธอนั้นชอบที่จะถ่ายรูปแนวเซ็กซี่อยู่แล้ว ทำให้เธอมีแฟนคลับติดตามบนโลกทวิตเตอร์อยู่เป็นจำนวนมาก

เริ่มทำ Onlyfans โดยเป็นคนชักชวนแฟนหนุ่ม จนกระทั่งมีคนนำผลงานของน้องไข่เน่าออกไปเผยแพร่ภายนอกทำให้มีหลายคนได้รู้จักมากขึ้น และมีคนที่อยากเข้ามาสนับสนุนเธออย่างถูกต้อง ทำให้น้องไข่เน่าสามารถทำรายได้หลักล้านได้ในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้น

น้องไข่เน่าระบุอีกว่า หากเรียนจบก็จะทำหน้าที่นักกฎหมายตามที่เรียนมา หรือไม่ก็เปิดคาเฟ่ เป็นแฟชั่นดีไซน์

รวมทั้งระบุว่า อาชีพตัวเองคือ เซ็กซ์ครีเอเตอร์ อยากผลักดันทางด้านอาชีพด้านนี้ เพราะอาชีพนี้ไม่ได้ทำความเสียหายให้ใคร และยังเป็นที่ยอมรับได้ในหลายประเทศ

ท่ามกลางความโด่งดังที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ในกลุ่มที่เห็นต่างกลับมองว่าเป็นเรื่องที่ผิดมหันต์ และต้องมีใครเข้าไปจัดการ

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 กันยายน ตำรวจไซเบอร์ได้ออกหมายเรียกน้องไข่เน่า ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เรื่องการชักชวนให้ผู้อื่นกระทำอนาจาร ซึ่งโทษสูงสุด มีถึงจำคุก 5 ปี และโทษปรับ โดยวิเคราะห์ว่าการบอกถึงเงินรายได้ที่สูงเกือบล้านบาทนั้น เป็นการชักชวนให้ผู้อื่นทำอนาจาร

ด้านน้องไข่เน่าเข้าพบตำรวจพร้อมยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่เผยแพร่ในคลิปยูทูบจริง กระแสแรงจนน้องไข่เน่าต้องประกาศเลิกทำคลิปลง Onlyfans

แต่ก็ไม่เพียงพอ จนกระทั่งคืนวันที่ 20 กันยายน ตำรวจยกกำลังบุกจับกลางดึก

คุมตัวชี้จุดทำแผน

ผดุงไว้ซึ่งสังคมแห่งศีลธรรม

แนะแก้ปัญหาเซ็กซ์เวิร์กเกอร์

อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวยังมีความเห็นหลากหลาย โดยเฉพาะมุมมองเรื่องปัญหาสังคมปากท้องว่าเกิดวิกฤตจากโควิด ทำให้คนต้องดิ้นรนหารายได้ในทางอื่น ซึ่งทางแก้ไขควรจะเป็นในรูปแบบการปรับโครงสร้างสังคมมากกว่าการไล่จับเป็นกรณีๆ ไป

แนท-เกศริน ชัยเฉลิมพล นางแบบสาวเซ็กซี่รุ่นใหญ่ ระบุว่า คนทำคอนเทนต์ใช่ทุกคนจะนำเสนอคลิปลามกอนาจารเสมอไปทุกคน เพราะฉะนั้น ไม่ควรปิดกั้นช่องทางเหล่านั้น เพราะช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ดี เห็นน้องๆ หลายคนหันมาทำคอนเทนต์เพื่อสร้างรายได้ที่หายไป และหลายคนก็แค่ทำแนวเซ็กซี่ทั่วไป โซเชียลเปิดกว้าง เราต้องเข้าใจตรงจุดนี้ อย่าแก้ที่ปลายเหตุ

นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล รองประธานคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ ระบุว่า ระบบเทคโนโลยีปัจจุบันสามารถกำหนดเงื่อนไขหรืออายุของผู้เข้าถึงได้

การที่ทำให้อาชีพนี้ขึ้นมาบนดินโดยมีกฎหมายรองรับและกำกับน่าจะแก้ไขปัญหาการล่อลวงเด็กและเยาวชน การค้ามนุษย์ การเรียกรับสินบน ไปจนถึงการลดปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศได้ดีกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ อีกทั้งกลุ่มดังกล่าวยังสนับสนุนเรื่องเซ็กซ์ทอยในฐานะวัตถุทางการแพทย์ สนับสนุนการสอนเรื่องเพศวิถีศึกษาที่เข้าใจและเคารพความแตกต่างของมนุษย์ทุกเพศสภาพ

“แทนที่รัฐบาลและผู้บังคับใช้กฎหมายจะแก้ไขปัญหาความรุนแรงทางเพศในสังคมอย่างเข้าใจและเป็นระบบ แต่กลับเลือกไม่ยอมรับความเป็นจริง พยายามทำให้ผู้ให้บริการทางเพศไม่มีตัวตน เป็นผู้ผิดต่อกฎหมาย เป็นความเสื่อมโทรมของสังคม ยิ่งนำไปสู่ช่องทางที่ลงใต้ดินมากยิ่งขึ้น ยากต่อการควบคุม เป็นช่องทางในการเรียกรับผลประโยชน์ และท้ายสุดปัญหาการข่มขืนกระทำเราหรือการล่วงละเมิดทางเพศก็ไม่ได้ลดลงแต่ประการใด ท่านอาจหยุดยั้งศีลธรรมบางอย่างที่ท่านเชื่อเช่นนั้นในระยะเวลาหนึ่งได้ แต่ไม่อาจหยุดยั้งความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลาได้”

เป็นอีกความเห็นต่างที่ควรรับฟัง!!