Technical Time-Out : ดีลประวัติศาสตร์ ‘โรนัลโด้’ คัมแบ๊กปีศาจแดง

ภาพประกอบจาก planetconcerns.com

ไทม์เอาต์ / SearchSri

 

ดีลประวัติศาสตร์

‘โรนัลโด้’ คัมแบ๊กปีศาจแดง

 

ถือเป็นเซอร์ไพรส์ต่อเนื่องของตลาดซื้อ-ขายนักเตะต้นฤดูกาล 2021-2022 หลังจาก ลิโอเนล เมสซี่ โบกมือลาสโมสรคู่บุญ บาร์เซโลน่า ไปร่วมทีม ปารีส แซงต์แชร์แมง ไม่กี่สัปดาห์ ก็มาเกิดดีลประวัติศาสตร์ขึ้นอีกครั้ง

เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คู่ปรับตลอดกาลของเมสซี่ ย้ายจาก ยูเวนตุส กลับสู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรเก่าที่เขาเคยแจ้งเกิด 12 ปีให้หลังจากอำลาทีมมา

ดีลนี้ถือว่าปุบปับและพลิกความคาดหมายมากๆ

เพราะแรกเริ่มสื่อโหมประโคมข่าวว่า เขาเตรียมย้ายร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ซิต แชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่แล้ว

กระแสข่าวดังกล่าวสร้างความผิดหวังและไม่พอใจให้กับแฟนบอลปีศาจแดงส่วนหนึ่ง เพราะถึงจะยอมรับได้ว่าเป็นวิถีแห่งฟุตบอล แต่การที่นักเตะระดับตำนานที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลกย้ายไปร่วมทีมคู่อริที่มีประวัติศาสตร์เป็นคู่ปรับมายาวนานย่อมเป็นเรื่องทำใจได้ยาก

ความผิดหวังดังกล่าวกลายเป็นการจุดประกายให้บรรดาอดีตนักเตะและผู้เกี่ยวข้องร่วมยุคของโรนัลโด้สมัยค้าแข้งที่โอลด์แทรฟฟอร์ดขยับตัวทำอะไรบางอย่าง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้ไฟเขียวจากครอบครัว เกลเซอร์ เจ้าของทีมแล้ว

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ในเวลาราว 24 ชั่วโมงก่อนการเซ็นสัญญาเมื่อวันศุกร์ที่ 27 สิงหาคม

ว่ากันว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือแมนฯ ยู ซึ่งโรนัลโด้นับถือเหมือนพ่ออีกคนหนึ่ง ติดต่อหาเขาด้วยตัวเองเพื่อแสดงออกว่า แมนฯ ยูอยากให้เขากลับ “บ้าน”

มีกูรูลูกหนังบอกว่า เหตุผลหนึ่งที่โรนัลโด้ย้ายจากยูเวนตุส ก็เพราะเขารู้สึกไม่เป็นที่รักหรือเป็นที่ต้องการมากนัก เพราะยูเว่เองก็พยายามจะขายเขามา 2 ปีแล้วเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย

พอเซอร์อเล็กซ์ติดต่อไปไม่นาน บรูโน่ แฟร์นันเดส ดาวเด่นของแมนฯ ยู และรุ่นน้องในทีมชาติโปรตุเกสของโรนัลโด้ก็โทร.หาเขา ต่อด้วยบรรดาอดีตแข้งปีศาจแดงที่เคยร่วมทีมกับโรนัลโด้ อาทิ ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟร่า, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ และอาจรวมถึง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือของทีมคนปัจจุบัน

หลังจากทุกคนติดต่อหาและได้รับคำยืนยันจากโรนัลโด้ว่าจะย้ายกลับสู่ถิ่นโอลด์แทรฟฟอร์ด โซลชาร์ซึ่งนั่งแถลงข่าวก่อนเกมกับสื่อก็เลยพูดเป็นนัยๆ ว่า “ถ้าเขาอยากย้าย โรนัลโด้ก็รู้ดีว่าพวกเราอยู่ตรงนี้” ทั้งที่ปกติโดยวิสัยเขาจะไม่ค่อยพูดถึงนักเตะทีมอื่นในลักษณะนี้

กระทั่งไม่กี่ชั่วโมงถัดมา แมนฯ ยูจึงยืนยันการบรรลุข้อตกลงซื้อ-ขายโรนัลโด้กับยูเวนตุสในราคา 15 ล้านยูโร (585 ล้านบาท) บวกโบนัสตามผลงานอีก 8 ล้านยูโร (312 ล้านบาท)

 

การกลับมาครั้งนี้สร้างกระแสเชิงบวกให้กับแมนฯ ยูอย่างมาก เพราะโรนัลโด้เจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย มีผลงานโดดเด่นทั้งกับทีมและส่วนบุคคลมากมาย

เขาคว้าแชมป์ลีกใน 3 ประเทศกับแมนฯ ยู, รีล มาดริด และยูเวนตุส รวม 7 ครั้ง และแชมป์ยุโรปอีก 5 ครั้ง ขณะที่ผลงานในสนาม โรนัลโด้ยิงประตูระดับสโมสรไปแล้ว 674 ประตู และทำแอสซิสต์อีก 229 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ากระแสจะดีขนาดไหน เมื่อถึงคราวปฏิบัติจริงก็ต้องมาดูกันอีกทีว่า โซลชาร์จะใช้งานโรนัลโด้ได้คุ้มค่าหรือไม่อย่างไร

ตอนนี้กองหน้าของแมนฯ ยู เมสัน กรีนวู้ด เริ่มมีบทบาทมากขึ้นในช่วงที่ อองโตนี่ มาร์ซิยาล ที่แฟนๆ หลายคนแซวว่าเป็น “ลูกรัก” ของโซลชาร์ ยังไม่สมบูรณ์

ขณะที่เอดินสัน คาวานี่ ฝีเท้าระดับโลกจริง แต่อายุอานามไม่ใช่น้อยแล้ว จึงลงไม่ได้สม่ำเสมอ

 

จริงๆ โรนัลโด้วัย 36 ปี อายุมากกว่าคาวานี่ 2 ปี แต่เรื่องความฟิตไม่แพ้พวกหนุ่มๆ เลย จะติดก็ตรงเขาเพิ่งกลับสู่พรีเมียร์ลีก ซึ่งลีกเวลานี้กับตอนนั้นแตกต่างจากเดิม ถึงจะผ่านเสือ สิงห์ กระทิง แรด มาจากลาลีก้าและกัลโช่ เซเรียอา แล้ว เมื่อเจอเกมหนักๆ ของพรีเมียร์ลีก ก็ต้องดูว่าเขาจะใช้เวลาปรับตัวมากน้อยขนาดไหน

และเมื่อได้นักเตะอย่างโรนัลโด้มา ไม่ว่ายังไงก็เป็นเงื่อนไขให้โซลชาร์ต้องส่งลงสนามสม่ำเสมอ จะกระทบกับแผนการเล่นหรืออิสระในการเล่นของผู้เล่นคนอื่นหรือไม่

ที่สำคัญที่สุดคือ การเสริมทัพที่มีกระแสขนาดนี้ ใครๆ ก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แมนฯ ยูต้องมีแชมป์ใดแชมป์หนึ่งติดมือเสียที

ไม่เช่นนั้นโซลชาร์อาจไม่ได้รับโอกาสอีกแล้วในปีต่อไป