เหตุเกิดเมื่อ… วันระเบิดปรมาณู(原爆の日/บทความพิเศษ สุภา ปัทมานันท์

บทความพิเศษ

สุภา ปัทมานันท์

 

เหตุเกิดเมื่อ… วันระเบิดปรมาณู(原爆の日)

 

วันที่ 6 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่โตเกียว โอลิมปิก 2020 ที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2021 กำลังดำเนินอยู่จนเกือบถึงวันปิดงานคือวันที่ 8 สิงหาคม นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เดินทางไปร่วมพิธีรำลึกวันระเบิดปรมาณู (原爆の日)ที่จังหวัดฮิโรชิมา

พิธีรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดปรมาณูของฝ่ายสัมพันธมิตรและให้ทุกคนได้ตระหนักถึงการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข พิธีนี้จัดขึ้นทุกปี ในวันที่ 6 สิงหาคม ที่จังหวัดฮิโรชิมา และวันที่ 9 สิงหาคม ที่จังหวัดนางาซากิ

ปีนี้นับเป็นปีที่ครบรอบ 76 ปีของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในปี 1945 มีผู้เสียชีวิตในขณะนั้นกว่า 140,000 คนที่ฮิโรชิมา และกว่า 74,000 คนที่นางาซากิ ทั้งนี้ยังไม่นับรวมผู้เสียชีวิตจากความเจ็บป่วยที่เกิดจากการได้รับสารกัมมันตภาพรังสีต้องได้รับทุกข์ทรมานแสนสาหัส ผู้อยู่ข้างหลังที่ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้และญาติมิตรต่างก็รำลึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอย่างปวดร้าวและเศร้าสลดใจยิ่งนัก

ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวในโลกที่ได้รับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงจากระเบิดปรมาณู จาก

การทำสงครามโลกครั้งที่ 2 จนต้องประกาศยอมแพ้ ในวันที่ 15 สิงหาคม 1945 นับแต่วันนั้น ชาวญี่ปุ่นทุกคนล้วนเจ็บปวด ทุกข์ยากจากผลที่ได้รับ ต้องกระเสือกกระสนลุกขึ้นมาจากกองซากปรักหักพัง ทุ่มเทฟื้นฟูประเทศอย่างเอาเป็นเอาตาย จนกลับมาเป็นประเทศยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่คนญี่ปุ่นทำได้ และต่างก็รู้ซึ้งถึงคุณค่าของความสงบสุข โหยหาสันติภาพ ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ในปี 1968 นาย เอซากุ ซาโต นายกรัฐมนตรี (อยู่ในตำแหน่งปี1964 –1972) ได้แถลงต่อรัฐสภาถึง กฎหลักไม่มีอาวุธนิวเคลียร์สามประการ(非核三原則)คือ ไม่ครอบครอง ไม่ผลิต ไม่นำเข้ามาในประเทศซึ่งอาวุธนิวเคลียร์ แสดงถึงความมุ่งมั่นและเจตนารมณ์ของญี่ปุ่นที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์อีกต่อไป

ณ เวลา 8.15 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ระเบิดปรมาณูลูกแรกถูกทิ้งลงมาที่ฮิโรชิมา ความร้อนที่สูงกว่า3,000 องศา ร้อนเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาจะทนทานได้ เกิดเปลวไฟลุกท่วมและลามไปอย่างรวดเร็ว และในเวลาต่อมาก็เกิด “ฝนดำ”(黒い雨)ผู้คนล้มตายเป็นเบือ

ผู้คนที่มาร่วมพิธีในปีนี้มีน้อยกว่าปีที่ผ่านๆมา ด้วยมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19

ต่างยืนสงบนิ่งไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต นาย โยชิฮิเดะ สุงะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวคำไว้อาลัยต่อผู้เสียชีวิต และแสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า “ขอส่งสารไปยังผู้คนทั่วโลกว่า เราจะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะไม่ให้มีอาวุธนิวเคลียร์ในโลก และให้โลกมีสันติภาพตลอดไป”

เพียงที่กล่าวมาก็น่าจะเพียงพอที่จะเห็นความมุ่งมั่นของผู้นำญี่ปุ่นที่ต่อต้านการสะสมอาวุธนิวเคลียร์ของหลายๆประเทศ

แต่…หลังจากนั้น นาย สุงะ ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าว ขออภัยที่กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีรำลึกถึง “วันระเบิดปรมาณู” ที่ฮิโรชิมาว่า ได้อ่านข้ามข้อความที่มีความสำคัญอย่างยิ่งไป คือ “ประเทศเราเป็นประเทศหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบจากอาวุธนิวเคลียร์ในสงคราม และเราเป็นประเทศเดียวที่รู้ซึ้งและเข้าใจยิ่งกว่าประเทศใดๆถึงความโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรมของอาวุธนิวเคลียร์ (核兵器の非人道性)”

ถ้ามองจากผู้ผ่านประสบการณ์อันเลวร้าย บรรดาญาติของผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์เมื่อ 76 ปีที่แล้ว รวมถึงคนญี่ปุ่นอีกมากมายที่ไม่ต้องการสงครามและใฝ่หาสันติภาพ เนื้อความในส่วนที่นาย สุงะ ไม่ได้กล่าวนั้นมีใจความสำคัญยิ่งเพราะสื่อถึงความสูญเสีย ระทมทุกข์ถึงก้นบึ้งหัวใจของชาวญี่ปุ่น

มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นนี้น่าจะเกิดจากการที่ท่านไม่ได้พูดจากสิ่งที่คิดหากแต่ทำเพียงการอ่าน จึงขาดพลังในการสื่อสาร และยังเกิดจากความเหนื่อยล้าที่ปฏิบัติภารกิจต่างๆมาตลอด ขาดการพักผ่อนอย่างเพียงพอ น่าจะให้ท่านได้พักสัก 1 วัน

ญี่ปุ่นได้เข้าสู่การระบาดระลอกที่ 5 ของโควิด19 ขณะที่ยังไม่จบโตเกียว โอลิมปิก 2020 ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลกังวลอยู่ก่อนแล้ว ในวันที่ 5 สิงหาคม นาย สุงะ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า “ให้ทุกคนเลี่ยงการออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น ไม่เร่งด่วนอย่างทั่วหน้า(徹底)” ฟังดูเป็นคำสั่งแข็งกร้าว แทนที่จะพูดว่า “ขอกระตุ้น(促す)ทุกคนได้ตระหนักถึงการเลี่ยงการออกนอกบ้านหากไม่จำเป็น ไม่เร่งด่วน” มีเสียงวิจารณ์ว่า ท่านสื่อสารผิดพลาดในที่สาธารณะถึง 2 วันติดกันทีเดียว

นาย โยชิฮิเดะ สุงะ เข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนกันยายน ปี 2020 ต่อจากนาย ชินโซ อาเบะ ซึ่งลาออกเนื่องจากปัญหาสุขภาพ ช่วงเวลานั้น นาย สุงะ ต้องรับหน้าที่หนักในการจัดการแก้ไขปัญหาการระบาดของโควิด-19 การจัดหาวัคซีน ปัญหาเศรษฐกิจจากประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ และต้องตัดสินใจเรื่องการจัดงานโตเกียว โอลิมปิก 2020 ในเดือนกรกฎาคม 2021 ด้วย ซึ่งเมื่อกำหนดจัดงานหลังจากเลื่อนมาแล้ว ก็ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันการระบาดของโควิด-19 อีก

จากการสำรวจคะแนนนิยมของรัฐบาลในเดือนนี้พบว่า คะแนนนิยมมีอยู่เพียง 28% เท่านั้น

นอกจากนี้ ในเดือนกันยายนนี้ จะถึงวาระการเลือกหัวหน้าพรรคแอลดีพี (พรรครัฐบาล) คนใหม่ ผู้ได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรคจะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หากได้เป็นพรรคที่จัดตั้งรัฐบาลเมื่อชนะการเลือกตั้งทั่วไป จะเป็นนาย สุงะ หรือไม่นั้นก็ต้องติดตามต่อไป

ได้เห็นหน้าตาอันเหนื่อยล้าของ นาย สุงะ ผ่านทางสื่อต่างๆของญี่ปุ่นแล้ว ก็เห็นใจที่ท่านต้องปฏิบัติภารกิจอย่างหนัก ไม่ได้พักผ่อน ก็เพื่อความอยู่ดีของคนญี่ปุ่น… มองญี่ปุ่นแล้ว…ก็หันมามองไทย…

———————————-