คนมองหนัง : ‘Anita’ หนังชีวประวัติของซูเปอร์สตาร์ผู้ล่วงลับ ‘เหมยเยี่ยนฟาง’

คนมองหนัง

 

‘Anita’

หนังชีวประวัติของซูเปอร์สตาร์ผู้ล่วงลับ

‘เหมยเยี่ยนฟาง’

 

“Anita” ภาพยนตร์ชีวประวัติของ “เหมยเยี่ยน (ยั่น) ฟาง” หรือ “แอนนิต้า เหมย” ซูเปอร์สตาร์นักร้อง-นักแสดงหญิงชาวฮ่องกงที่เสียชีวิตลงในวัยเพียงแค่ 40 ปี จากโรคมะเร็งปากมดลูก เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ.2003 กำลังจะมีกำหนดเข้าฉายภายในปีนี้ (สำหรับประเทศที่ควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดได้)

“เหมยเยี่ยนฟาง” คือหนึ่งในศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการเพลงป๊อปภาษากวางตุ้ง กระทั่งมีแฟนคลับทั่วทั้งทวีปเอเชีย

เธอเริ่มต้นทำงานในแวดวงบันเทิงตั้งแต่อายุเพียง 5 ขวบ ก่อนจะประสบความสำเร็จขั้นสูงสุดในฐานะศิลปินเพลงป๊อปหญิง/ดีว่า ตลอดช่วงทศวรรษ 1980-1990

จุดเริ่มต้นความสำเร็จของ “แอนนิต้า เหมย” เกิดขึ้นหลังจากเธอครองตำแหน่งผู้ชนะเลิศในรายการประกวดร้องเพลง “นิว ทาเลนต์ ซิงกิ้ง อวอร์ดส์” ของทีวีบี โดยเอาชนะคู่แข่งจำนวนมากกว่าสามพันราย

สุดยอดศิลปินหญิงรายนี้เอาชนะใจคนฟังด้วยน้ำเสียงห้าวใหญ่เป็นเอกลักษณ์และสไตล์การร้องเพลงที่แหวกแนวในยุคสมัยดังกล่าว

คู่ขนานไปกับการออกอัลบั้มที่มีเพลงฮิตมากมาย “เหมยเยี่ยนฟาง” ยังข้ามฟากไปสู่แวดวงนักแสดง เธอมีผลงานการแสดงภาพยนตร์กว่า 40 เรื่อง และเคยได้รับรางวัลทางการแสดงมาแล้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง รางวัลม้าทองคำและรางวัลฮ่องกงฟิล์มอวอร์ดส์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง “Rouge” (ล่ารัก 59 ปี) ที่กำกับฯ โดย “สแตนลีย์ กวาน” เมื่อปี 1988 ซึ่งเธอรับบทเป็น “ผีสาว” ที่ออกตามหาคนรักในอดีตชาติ (แสดงโดย “เลสลี่ จาง” ผู้เสียชีวิตในเดือนเมษายน ปี 2003 เช่นกัน จากสาเหตุการฆ่าตัวตาย)

ดังนั้น เจ้าของฉายา “มาดอนนาแห่งทวีปเอเชีย” ผู้มีสไตล์การแต่งกายอันหรูหราฉูดฉาดบนเวทีคอนเสิร์ต จึงมีสถานะเป็นหนึ่งใน “สัญลักษณ์สำคัญ” ของยุคทองแห่งเพลงป๊อปกวางตุ้งและภาพยนตร์ฮ่องกง

ทั้งยังได้รับเสียงยกย่องชื่นชม เนื่องจากเธอบริจาคเงินจำนวนมากให้แก่องค์กรการกุศลและกิจกรรมทางสังคมต่างๆ

 

ภาพยนตร์เรื่อง “Anita” จะกำกับการแสดงโดย “ลองแมน (ลองมอนด์) เหลียง” ที่สร้างชื่อจากการเป็นผู้กำกับฯ ร่วมในหนังแอ๊กชั่นชุด “Cold War”

สำหรับผู้มาสวมบทเป็น “เหมยเยี่ยนฟาง” นั้นจะได้แก่ “หลุยส์ หว่อง” นางแบบวัย 31 ปีชาวฮ่องกง ซึ่งนี่นับเป็นผลงานการแสดงลำดับแรกของเธอ

“แอนนิต้าคือตัวอย่างของคนในเจเนอเรชั่นเรา ที่ความสำเร็จของเธอไม่ได้ขึ้นอยู่กับอัจฉริยภาพส่วนบุคคลเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นจากอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญนั่นคือการทำงานหนัก” นางแบบสาวกล่าวถึงซูเปอร์สตาร์ผู้ล่วงลับ

ส่วนดาราคนอื่นๆ ที่มาร่วมแสดงในหนังเรื่องนี้ ก็มีอาทิ “กู่เทียนเล่อ” ซึ่งจะรับบทเป็น “เอ็ดดี้ หลิว” ดีไซเนอร์ผู้มีส่วนสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้แก่ยอดศิลปินหญิง ขณะที่ “เทอร์แรนซ์ หลิว” จะสวมบทบาทเป็น “เลสลี่ จาง”

ทั้งนี้ หนังเรื่อง “Anita” จะเริ่มต้นขึ้นด้วยฉากการแสดงคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายในชีวิตของ “เหมยเยี่ยนฟาง” ก่อนพาผู้ชมย้อนกลับไปสัมผัสเรื่องราวของเธอในหลายทศวรรษก่อนหน้านั้น

 

หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ผลักดันให้เกิดภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือ “บิล กง” ผู้บริหารบริษัท “เอ็ดโก ฟิล์มส์” ซึ่งมีเครดิตจากการเป็นโปรดิวเซอร์หนังเรื่อง “Crouching Tiger, Hidden Dragon” โดยเขาระบุว่านี่เป็นการสานต่อคำมั่นสัญญาที่ตนเองเคยให้ไว้กับ “เหมยเยี่ยนฟาง” ก่อนเธอจะอำลาโลกนี้ไป

“เรารู้จักกันเมื่อนานมาแล้ว ตอนนั้น เอ็ดโก ฟิล์มส์ยังเป็นแค่บริษัทเล็กๆ ขณะที่เหมยกำลังโด่งดังเป็นซูเปอร์สตาร์ แต่เธอกลับยอมช่วยเหลือเรา ด้วยการร่วมโปรโมตหนังเรื่อง ‘Laputa : Castle in the Sky’ ที่บริษัทเราเป็นผู้จัดจำหน่ายในตอนนั้น ผมยังคงสำนึกในบุญคุณจากความช่วยเหลือของเธอมาจนถึงวันนี้”

บิลย้อนสายสัมพันธ์ระหว่างตนเองกับซูเปอร์สตาร์ระดับตำนาน แล้วเล่าต่อว่าเมื่อปี 2003 “เหมยเยี่ยนฟาง” เคยมาเสนอไอเดียเรื่องการสร้างภาพยนตร์ให้เขาฟัง

“บิล ฉันอยากทำหนังดีๆ สักเรื่องหนึ่ง ฉันอยากทำหนังที่จะติดอยู่ในใจของผู้คน คุณหาโอกาสนั้นให้ฉันหน่อยได้ไหม?”

ต่อมา “บิล กง” ได้วางตัวให้นักร้อง-ดาราดัง รับบทเป็นนักแสดงนำหญิงในหนังเรื่อง “House of Flying Daggers” ของ “จางอี้โหมว” แต่ต้องเปลี่ยนแผน เพราะเธอมาป่วยหนักและเสียชีวิตไปก่อน

 

แถลงการณ์ของ “เอ็ดโก ฟิล์มส์” บรรยายถึงภาพยนตร์เรื่อง “Anita” เอาไว้ว่า

“ในธุรกิจ (บันเทิงร่วมสมัย) ที่เหล่าดาราทั้งหลายต่างพุ่งทะยานและร่วงหล่นลงจากฟากฟ้าอย่างรวดเร็ว แอนนิต้ากลับยังคงสถานภาพเป็นสุดยอดศิลปินในแขนงของตนเอง ตลอดเส้นทางวิชาชีพของเธอ

“การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในขณะมีอายุเพียง 40 ปี กลับช่วยเสริมส่งให้มรดกตกทอดและบทเพลงของเธอมีอายุยืนยาวต่อไป โดยสามารถดึงดูดความสนใจของแฟนรุ่นใหม่ๆ และเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนบันเทิงรุ่นหลังๆ”

ขณะที่ “บิล กง” อธิบายว่า “Anita” มิได้เป็นเพียงเรื่องราวของดาราคนหนึ่ง แต่ยังเป็นกระจกสะท้อนภาพสังคมฮ่องกงยุค 1980

“สำหรับผม เหมยคือแบบอย่างในการเป็น ‘บุตรสาวแห่งฮ่องกง’ เธอไม่เคยยอมแพ้ ไม่ว่าตนเองจะประสบความทุกข์ยากขนาดไหน ด้วยเหตุนี้ถ้ามองในภาพกว้าง ชีวิตของเหมยจึงเป็นเรื่องราวของประชาชนชาวฮ่องกงด้วย”