ล้านนาคำเมือง ชมรมฮักตั๋วเมือง : ‘บ่า-ป๊าว’

ล้านนาคำเมือง ชมรมฮักตั๋วเมือง

สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

อ่านเป็นภาษาล้านนาว่า บ่า-ป๊าว อักษรล้านนาใช้ตัวควบกล้ำเป็น ล ไม่ใช่ ร

แปลว่า มะพร้าว

มะพร้าวเป็นสมาชิกในวงศ์ปาล์มมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Cocos nucifera L.

คำว่า cocos มาจากภาษาสเปนและโปรตุเกส ว่า “coco” ที่แปลว่าหน้าตายิ้มแย้ม จากร่องรอยบนกะลาที่เหมือนหน้าคนยิ้ม ซึ่งเป็นรอยจุดติดของเมล็ดเมื่อตอนเป็นดอกมีไข่อ่อนหรือออวุล 3 อัน หลังได้รับการผสมไข่อ่อนเจริญเป็นเมล็ดเพียงเมล็ดเดียวจึงเห็นรอยจุดติดของเมล็ดบนกะลาเป็น 3 จุด มองดูเหมือนใบหน้าคนยิ้ม

และคำว่า “nucifera” แปลว่า nut-bearing มาจากผลของมะพร้าวที่มีกะลาแข็งเหมือนผลจำพวกนัทที่มีเปลือกแข็ง

 

มะพร้าวเป็นสมาชิกเพียงชนิดเดียวในสกุล Cocos มีลักษณะเป็นไม้ต้นที่มีลำต้นเดียว ไม่แตกกิ่ง สูงได้ถึง 30 เมตร

ใบประกอบแบบขนนก เวียนกระจุกรอบที่ปลายยอด

ก้านใบมีกาบเป็นเยื่อสีน้ำตาล

ดอกออกเป็นช่อที่เรียกว่า จั่น มีกาบแข็งขนาดใหญ่หุ้มทั้งช่อ ภายในมีช่อดอกย่อยหลายอันแต่ละอันประกอบด้วยดอกตัวเมียเพียงดอกเดียวทรงกลมขนาดใหญ่อยู่ล่างสุด ดอกขนาดเล็กที่เหลือเป็นดอกตัวผู้

เมื่อดอกตัวเมียได้รับการผสมแล้วดอกตัวผู้จะหลุดร่วงไป เหลือแต่แกนช่อดอกย่อยติดอยู่ที่ขั้วผล เรียกว่า “หางหนู”

ความพิเศษของผลของมะพร้าวนอกจากเปลือกผลที่แบ่งเป็น 3 ชั้นชัดเจน

คือ ชั้นนอกเป็นชั้นบางๆ สีเขียวเป็นมัน

ชั้นกลางเป็นเส้นใยหรือกาบมะพร้าว

และชั้นในสุดคือส่วนของกะลาแล้ว

ส่วนของอาหารสะสมในเมล็ดหรือเอ็นโดสเปิร์มก็มีความพิเศษที่มีอาหารสะสมอยู่ 2 แบบ คือ ส่วนของน้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าว

เมื่อผลมะพร้าวแก่ร่วงจากต้นสักระยะก็จะงอกเป็นต้นใหม่ใบเลี้ยงหรือจาวมะพร้าวก็จะดูดอาหารสะสมจากทั้งเนื้อและน้ำมะพร้าวมาเก็บไว้จนหมด จนจาวมะพร้าวขยายขนาดเกือบเต็มกะลา

จากนั้นจึงงอกต้นใหม่แทงออกมาจากลูกมะพร้าว

 

การใช้ประโยชน์ ใช้เป็นอาหารทั้งยอดมะพร้าวที่ทางเหนือเรียกว่า “ออกป๊าว” ทำอาหาร

ช่อดอกหรือจั่นมะพร้าวให้น้ำตาลมะพร้าว

ลูกมะพร้าวใช้ตั้งแต่มะพร้าวอ่อนกินเป็นผลไม้ หรือทำขนม มะพร้าวทึนทึกสำหรับทำขนมไทย และมะพร้าวแก่ไว้คั้นกะทิ เคี่ยวน้ำมัน

กาบมะพร้าวเผาไฟให้สีดำในขนมเปียกปูน หรือทำเชื้อไฟ ใช้ขัดผิวขัดหม้อ

กะลามะพร้าวใช้ทำภาชนะหรืองานฝีมือ

กระทั่งใบมะพร้าวใช้ทำเครื่องใช้มากมาย เช่น ไม้กวาดทางมะพร้าว งานจักสานอย่างตะกร้าหรือหมวกใบมะพร้าว เป็นต้น เนื้อไม้จากลำต้นสามารถใช้ทำเฟอร์นิเจอร์ได้อีก

ส่วนของกะลานำมาเผาเป็นถ่านสีดำตำให้ละเอียด กะลามะพร้าวจะให้ผงถ่านที่เนียนละเอียดสม่ำเสมอจากเซลล์ให้ความแข็งแรงในกะลาที่เป็นรูปทรงกลมขนาดเท่าๆ กัน

สมัยก่อนใช้ในการ “ขึ้นตัวหนังสือ” ในการจารใบลาน (ใช้ผงถ่านกะลามะพร้าวโรยบนใบลานที่จารแล้ว ผงถ่านจะร่วงลงไปในร่องที่ถูกเหล็กจาร ช่วยให้เห็นตัวหนังสือเป็นสีดำชัดขึ้น บนพื้นสีน้ำตาลอ่อนของใบลาน)

น้ำมะพร้าวถือได้ว่าเป็นซูเปอร์ฟู้ด คุณค่าทางโภชนาการสูงราคาไม่แพง รสหวานให้พลังงาน ช่วยดับกระหายคลายร้อน อุดมด้วยแคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม ช่วยคลายความอ่อนล้าอ่อนเพลียได้ดี

นอกจากแร่ธาตุต่างๆ ในน้ำมะพร้าวยังมีฮอร์โมนเพศ ช่วยปรับฮอร์โมนชะลอความแก่ในหญิงวัยหมดประจำเดือนได้ ช่วยชะลอภาวะกระดูกพรุน ทำให้ผิวพรรณสดใส

นอกจากน้ำมะพร้าว เนื้อมะพร้าวแก่ยังให้น้ำมันมะพร้าวซึ่งถือเป็นไขมันอิ่มตัวที่มีความยาวของโมเลกุลของไตรกลีเซอไรด์ขนาดกลาง ซึ่งร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ง่าย ช่วยเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดีในเลือด หากรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

การใช้ประโยชน์ทางยาใช้น้ำมันทาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แดดเผา ช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนได้ ช่วยรักษาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ที่มีอาการคัน แดง แห้ง ตกสะเก็ดและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ มีสรรพคุณช่วยบำรุงผิวหนัง เพิ่มความชุ่มชื้น บรรเทาอาการระคายเคือง

และลดจำนวนแบคทีเรียกลุ่ม Staphylococcus บนผิวหนังได้

 

การแพทย์แผนไทยใช้รากมะพร้าวไฟ รสฝาดหวานหอม ใช้เข้ายาขับปัสสาวะ แก้ท้องเสีย ทุบพอแตกต้มน้ำ 5 แก้ว เคี่ยวเหลือ 2 แก้ว ดื่มครั้งละครึ่งแก้ว เช้า กลางวัน เย็น

ความเชื่อที่ใช้น้ำมะพร้าวในการล้างหน้าศพ เพราะเชื่อกันว่าน้ำมะพร้าวนั้นเป็นของสูง อยู่ในผลในกะลาที่ปิดผนึกหลายชั้นบนปลายยอดมะพร้าวที่มีลำต้นแข็งแรงสูงใหญ่ อยู่เหนือสิ่งสกปรกทั้งปวง น้ำมะพร้าวจึงสะอาดบริสุทธิ์ ไม่ถูกปนเปื้อนใดๆ ถือเป็นน้ำที่สะอาดกว่าน้ำธรรมดา

เมื่อนำมาล้างหน้าศพเปรียบเหมือนการล้างอกุศลกรรมให้หมดสิ้น ทำให้ผู้ตายเกิดความผ่องใสและความสงบในจิตใจ สามารถเดินทางไปยังภพหน้าได้อย่างปกติสุข

และในการจุดไฟหน้าโลงศพสมัยก่อนจะใช้น้ำมันมะพร้าวไส้เชือกด้ายดิบ ใส่ในกะลามะพร้าว และใส่เกลือเม็ดลงไปด้วย เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติว่า “น้ำมันและเกลือนั้น ถึงอยู่ด้วยกันในกะลาก็ไม่ละลายรวมกัน เช่นเดียวกับบุญและบาปที่ไม่อาจรวมกันได้ บุญส่วนบุญ บาปส่วนบาป ทำสิ่งใดไว้ย่อมต้องได้รับกรรมนั้นๆ”

ส่วนการจุดไฟนั้นเพื่อเป็นความหมายช่วยเตือนสติว่า

“ชีวิตนั้น ดั่งเช่นแสงไฟ เมื่อยังมีเชื้อไฟ ไฟย่อมลุกโชนอยู่ได้ เมื่อหมดเชื้อไฟ ไฟย่อมดับลง เช่นเดียวกับชีวิตคนเราเกิดมาเพราะกรรม สิ้นสุดลงเพราะกรรมเช่นกัน”

บ่าป๊าว เปิ้นตึงมีไว้กิ๋นไว้ใจ๊ในบ้าน

แปลว่า มะพร้าว แต่ละบ้านนิยมปลูกเอาไว้กินไว้ใช้