การ์ตูนที่รัก/Master Keaton

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

Master Keaton (1)

ขณะเขียนต้นฉบับนี้ บ้านเราวางถึงเล่ม 3 ฉบับภาษาอังกฤษเล่ม 11 ไม่ทราบญี่ปุ่นถึงเล่มที่เท่าไรแล้ว

มาสเตอร์คีตัน เล่ม 11 ของ นาโอกิ อุระซาวะ ครั้งนี้อุระซาวะมิได้เขียนเรื่องยาวเหมือนทุกที มิได้ลึกลับเหมือน 20th Century Boy หรือสยองขวัญเหมือน Monster

อันที่จริงแล้วนี่เป็นผลงานก่อนหน้าผลงานลือชื่อทั้งสองเรื่องข้างต้น มาสเตอร์คีตันเป็นงานเขียนระหว่างปี 1988-1994 ร่วมสมัยกับ Yawara 1986-1993 มาก่อน Monster 1994-2001 และ 20th Century Boy 2000-2006

มาสเตอร์คีตันมีความยาว 144 บท รวมเล่มได้ 18 เล่มขนาดใหญ่ สร้างเป็นอะนิเมะแล้วและมีดีวีดีจำหน่าย

มังงะฉบับภาษาไทยเป็นของเนชั่นกรุ๊ป คุณภาพการพิมพ์ ขนาดรูปเล่ม และการออกปกเหมือนฉบับภาษาอังกฤษทุกประการ

แต่ละเล่มประกอบด้วยเรื่องสั้นจบในตอน มีบางบทเท่านั้นที่ไม่จบในตอน

พระเอกชื่อ ทาอิชิ ฮิรากะ-คีตัน เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่น-อังกฤษ พ่อเป็นนักสัตววิทยาจอมเจ้าชู้ แม่เป็นสุภาพสตรีอังกฤษ พ่อแม่หย่ากันตั้งแต่คีตันอายุได้ 5 ขวบ ชื่อฮิรากะ-คีตันคือชื่อสกุลของทั้งสองฝ่าย

คีตันติดตามแม่กลับประเทศอังกฤษ ได้รับการศึกษาด้านโบราณคดีจากอ๊อกซ์ฟอร์ด

คีตันแต่งงานที่อ๊อกซ์ฟอร์ดกับนักคณิตศาสตร์ชาวญี่ปุ่น ซึ่งภายหลังเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยและนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ทั้งสองหย่ากันเมื่อลูกสาวยูริโกะอายุได้ 5 ขวบ

เมื่อคีตันจบอ๊อกซ์ฟอร์ดแทนที่จะทำงานกลับไปสมัครเป็นทหารหน่วย SAS ของอังกฤษ กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านทักษะการเอาชีวิตรอด เป็นหนึ่งในทีมจู่โจมเหตุการณ์จับตัวประกันสถานทูตอิหร่านที่เซาธ์เคนซิงตัน กรุงลอนดอน ปี 1980 แล้วเข้าร่วมรบในสงครามหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ปี 1982

นักอ่านสมัยใหม่จะลืมเหตุการณ์ปี 1980 ไปแล้ว ผู้ก่อการร้าย 6 คนบุกจับตัวประกัน 27 คน กลางกรุงลอนดอนระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึง 5 พฤษภาคม ในสมัยรัฐบาล มาร์กาเร็ต แธตเชอร์ หน่วย SAS โรยตัวลงมาจากหลังคาในวันที่ 6 ของการเจรจาแล้วบุกโจมตีอย่างรวดเร็ว ยิงผู้ก่อการร้ายตาย 5 คน ตัวประกันเสียชีวิต 1 คน เป็นเหตุการณ์ที่สร้างชื่อให้แก่แธตเชอร์และทำให้โลกรู้จักความยอดเยี่ยมของ SAS เป็นครั้งแรกๆ

คีตันออกจาก SAS มาเป็นอาจารย์โบราณคดีต๊อกต๋อยในมหาวิทยาลัย ไปไหนมาไหนชอบหยิบฉวยของติดไม้ติดมือ

ตอนที่เปิดตัวเล่ม 1 เขาชอบหยิบเทปกาวไปจากโต๊ะทำงานของคนอื่น หรือหยิบวัสดุรูปร่างประหลาดไปจากสถานที่เกิดเหตุหรือไซต์ขุดค้นโบราณคดี

ซึ่งในไม่กี่หน้าต่อมามักได้ใช้เทปกาวหรือวัสดุเหล่านั้นช่วยชีวิตคน รวมทั้งชีวิตของตนเองในสถานการณ์คับขัน

ทักษะที่เขามีเขาใช้ไม่ต่างจากแม็กไกเวอร์เท่าไรนัก

แม้ว่าหน้าฉากจะเป็นอาจารย์กระจอกๆ แต่หลังฉากเขาทำงานให้ Lloyd”s of London ลอยด์ออฟลอนดอนไม่ใช่บริษัทประกัน แต่เป็นการรวมกลุ่มของบริษัทประกันเพื่อประกันซ้ำและกระจายความเสี่ยง

ลอยด์ออฟลอนดอนตั้งตามกฎหมายลอยด์ออฟลอนดอนปี 1871 แต่ที่จริงมีประวัติย้อนหลังยาวนานไปจนถึงปี 1686 เมื่อเหล่าบริษัทและนักเดินเรือสมุทรรวมหัวกันเป็นตลาดประกันความเสี่ยงซึ่งกันและกัน

คีตันทำงานเป็นนักสืบให้แก่ลอยด์ออฟลอนดอน เขาจึงมิใช่นักสืบบริษัทประกันทั่วไป เขามักมีเป้าหมายของตัวเอง วิธีทำงานของตัวเอง และวิสัยทัศน์ของตัวเองอีกด้วย แต่เขาทำงานสำเร็จทุกครั้ง

มังงะมาสเตอร์คีตันแต่ละตอนจะพานักอ่านไปในสถานที่ต่างๆ ของยุโรป แต่ละบทแต่ละตอนจะให้ข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ บางบทไม่เล็กน้อย เล่าเรื่องราวสถานที่นั้นๆ ตำนานและประวัติศาสตร์ของผู้คน ชาติพันธุ์ต่างๆ

รายละเอียดเหล่านี้มีมากมายเสียจนอดสงสัยไม่ได้ว่ามีอยู่จริง เป็นเช่นนั้นจริงๆ หรือแต่งเอาเองโดยไม่มีมูล

ครั้นทดลองสืบค้นดูก็พบว่ามีมูล เหมือนเรื่องหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ เหตุการณ์จับตัวประกันที่สถานทูตอิหร่าน หรือบรรษัทยักษ์แห่งยุโรปลอยด์ออฟลอนดอนซึ่งมีสำนักงานใหญ่โตมโหฬารอยู่ที่ถนนไลม์ กลางกรุงลอนดอนจริงๆ

เรียกว่าหากนักอ่านท่านใดสนใจจะค้นคว้าข้อมูลหลังการอ่านจบแต่ละตอนรับรองเรื่องได้ความรู้โบราณดีและประวัติศาสตร์เพียบ

จึงแนะนำให้อ่านฉบับภาษาอังกฤษเพื่อจะได้ไม่ต้องแปลคำไทยเป็นอังกฤษอีกที

เล่ม 11 Made in Japan สามตอนจบ

นักธุรกิจชาวอังกฤษนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ริมแม่น้ำเทมส์ตรงข้ามมหาวิหารเซนต์พอล นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นแก่ๆ คนหนึ่งเดินผ่านมา ขอให้เขาช่วยถ่ายรูปตัวเองกับเซนต์พอลให้หน่อย

นักธุรกิจชาวอังกฤษรับกล้องถ่ายรูปมา “เมดอินเจแปน” แล้วยกกล้องขึ้นเล็งในวิวไฟน์เดอร์ ชายชราชาวญี่ปุ่นไปยืนเรียบร้อยรอเขากดรูป

“เอาละนะ” คลิก แล้วนักธุรกิจชาวอังกฤษนั้นก็ล้มลงขาดใจตาย

ระหว่างที่ชายชรากำลังกินข้าวเช้าฟังข่าววิทยุเรื่องการตายของชายชาวอังกฤษซึ่งเป็นรองประธานบริษัทอิเล็กทรอนิกส์แห่งหนึ่งระหว่างการเจรจาควบรวมกิจการ เสียงปริ๊นเตอร์ก็ดังขึ้นข้างตัว เขารับคำสั่งที่ส่งมาใหม่แล้วแต่งตัวใส่สูทผูกไท้อย่างเรียบร้อยเดินออกจากห้องพัก เพื่อนบ้านเรียกเขาว่าคุณนากามูระ

เกาะอัลวา ทางตะวันตกของสกอตแลนด์ หญิงสาวผมดำสองคนบ่นเรื่องอากาศร้อนและเรื่องที่ตัวเองต้องมานั่งทนร้อนท่ามกลางนักท่องเที่ยวแก่ๆ ที่สนใจโบราณคดี แทนที่จะเป็นนักศึกษาอังกฤษหนุ่มๆ หล่อๆ ตามที่ฝันเอาไว้

ข้างๆ หญิงสาวผมดำสองคนนั้นคือคุณนากามูระและยูริโกะ!

คืนนั้นเดือนมืดดวงดาวดารดาษ ชายชรานากามูระและยูริโกะนั่งสนทนากัน ยูริโกะว่าที่โตเกียวไม่เห็นดาวมากมายขนาดนี้ “พ่อเคยบอกว่าดาวแต่ละดวงบนท้องฟ้าแทนคนหนึ่งคน” พ่อจะมาถึงวันพรุ่งนี้ ใช่แล้ว คือคีตัน

ชายชรานากามูระเล่าว่าตัวเองเป็นเซลส์แมนขายของ “เมดอินเจแปน” ขายมาสามสิบปีทั่วทั้งอเมริกาและยุโรป ไม่ได้กลับประเทศญี่ปุ่นเลย และคงจะไม่ได้กลับไปอีก

“บริษัทอะไร ใจร้ายมาก” ยูริโกะว่า

แอฟริกาใต้ นากามูระถูกนายพลคนหนึ่งยกเลิกสัญญาการค้าที่ทำไว้แล้ว นั่นทำให้ชายชราสิ้นเนื้อประดาตัว เขายกเศียรเทวรูปชิ้นหนึ่งขึ้นมาทุบนายพลนั้นถึงตาย ที่ข้างๆ นั้นเองนายพลเลี้ยงกบพิษสีเหลืองสดสวยเอาไว้ พิษเพียงนิดเดียวสามารถล้มช้างหรือเสือโคร่งได้ทั้งตัว

นากามูระตื่นขึ้นจากฝันร้าย เขาออกไปไซต์ขุดค้นและได้พบกับคีตันแต่เช้าตรู่

ที่แท้ก่อนที่เขาจะเดินทางมาสกอตแลนด์ ปริ๊นเตอร์ที่บ้านได้ส่งคำสั่งสังหารรายใหม่มาให้ คือรูปทาอิชิ ฮิรากะ-คีตัน คืนนั้นชายชราเตรียมไม้จิ้มฟันและยาพิษ

“ใช้เวลาไม่นาน ยูริโกะ” ชายชราพูดคนเดียวในเต็นท์ส่วนตัวระหว่างเตรียมการ “พ่อของเธอจะไม่ทรมาน”