อาภาพร นครสวรรค์ กับชีวิตไม่ยาก-ถ้าอยู่เป็น/รายงานพิเศษ

รายงานพิเศษ

 

อาภาพร นครสวรรค์

กับชีวิตไม่ยาก-ถ้าอยู่เป็น

 

นอกเหนือจากการเป็นนักร้อง นักแสดง พิธีกร และคอมเมนเตเตอร์ อาชีพใหม่ที่อาภาพร นครสวรรค์ ทำ คือเป็นแม่ค้าขายสารพันน้ำพริก กับปลาและเนื้อแดดเดียว

“เป็นธุรกิจที่เกิดขึ้นตอนโควิด” เจ้าของผลิตภัณฑ์ ‘ฮายแดดเดียว’ บอกพลางยิ้ม

ก่อนให้เหตุผลของการ ‘ขยันเกิ๊นนน’ อย่างที่หลายๆ คนแซว ว่าเป็นเพราะ “ชีวิตยังต้องดิ้นต่อ”

เพราะผลจากการประเมินจากทรัพย์สินที่มี เธอว่าถ้าเก็บไว้ใช้จ่ายแค่ตัวคนเดียวน่าจะพอ แต่ความเป็นจริงไม่ได้เป็นอย่างนั้น

“ถ้าไม่ได้ดูแลคนอื่นก็จะมีประมาณหนึ่งที่กักไว้ให้ตัวเองตอนแก่ ที่คนไม่มีครอบครัวคนหนึ่งจะต้องใช้จนถึงอายุ 80 หรือ 85 ต้องใช้วันละเท่าไหร่ เดือนหนึ่งเท่าไหร่ กินเท่าไหร่ หาหมอเวลาไม่สบายเท่าไหร่ ก็คิดว่าน่าจะดำเนินชีวิตได้อยู่ประมาณ 80 ปี”

แต่เอาเข้าจริง ชีวิตจะดำเนินไปถึงอายุเท่าไหร่ไม่สามารถตอบได้ เธอจึงตั้งใจจะทำ “เผื่อๆ ไว้”

 

อาภาพรในวัย 50 ปี ยังเล่าแบบไม่มีกั๊กว่า ช่วงก่อนหน้าโน้นเธอไม่ค่อยได้คิดถึงเรื่องเหล่านี้ เพิ่งจะมาเริ่มคิดจริงๆ ก็ราวๆ อายุ 40 ปี ว่าผู้หญิงซึ่งอยู่ตัวคนเดียวอย่างเธอ ถ้าต่อไปไม่ได้แต่งงาน ไม่มีใครมาคอยดูแล-แล้วจะยังไง?

พอเริ่มตั้งคำถาม คนซึ่ง “ไม่ค่อยได้คิดถึงตัวเอง แต่ให้เพื่อคนอื่น เทกแคร์คนอื่น เริ่มสงสารตัวเองว่ะ ประมาณอายุ 45 ก็เริ่มทำอะไรให้ตัวเองบ้าง เก็บส่วนหนึ่งที่ทำงานไว้เพื่อตัวเองตอนแก่”

และคาดว่า “อาจจะต้องหาอีกสัก 5 ปี หรืออีก 7 ปี ที่เราจะเสริมทัพตรงนี้ไป”

“เผื่อๆ ไว้” ย้ำคำที่เคยพูด แล้วเธอก็ยิ้ม

เรื่องเผื่อๆ ที่ว่า อาภาพรบอกว่าเธอเป็นกับทุกสิ่ง

“อาจจะเป็นเพราะเป็นคนชอบทำการบ้าน สมมุติชอบครีมตัวนี้ ไปญี่ปุ่นแล้วมันดี ถ้าคิดว่าเราจะไม่ได้มาบ่อยๆ ก็สต๊อกไว้เลย ดูว่าหมดอายุเมื่อไหร่ หมดอายุ 3 ปี ก็จะสต๊อกให้มีใช้ได้จนถึงตอนนั้น แล้วในช่วง 3 ปี ก็จะมีคนต้องเดินทางไป เราก็จะฝากเขาได้”

ถึงวันนี้อาภาพรบอกว่า เธออยู่ในวงการบันเทิงมานาน-นานมากๆ ซึ่งหากถามว่า อยู่แล้วสบายไหม? ใช้ชีวิตเป็นดาราน่ะยากหรือเปล่า?

“ไม่ยาก ถ้าอยู่เป็น” คือคำตอบ

“ใช้ชีวิตให้เป็นธรรมชาติ คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร กิน นอน เหมือนคนอื่นทั่วไป มันเหมือนกันหมดนะการใช้ชีวิต อยู่ที่ว่าเราติดหัวโขนนั้นหรือเปล่า”

“เวลาอยู่บนเวที ทำการแสดง เราคืออาภาพร นครสวรรค์ เพราะฉะนั้น เราต้องทำให้มันดีที่สุด แต่พอทำหน้าที่เสร็จ เราก็คือคนธรรมดาคนหนึ่ง”

“ไม่ยึดติด ไม่มีกรอบ บางทีก็จริงจังและจริงใจไป จนไม่มีอะไรจะปิด ไม่มีอะไรจะเปิดแล้ว ให้มันโฟลๆ ไป” บอกพลางหัวเราะ

 

ก่อนจะเปลี่ยนโหมดเป็นจริงจัง เมื่อพูดถึงนิสัยส่วนตัวที่คนอยู่ใกล้จะรู้ดีว่า “เป็นคนชอบอยู่คนเดียวเวลาเลิกงาน อยากนอนนิ่งๆ ไม่ต้องมาถาม ไม่ต้องมาคุย ฉันทำงานมาแล้ว 4-5 วันติด ตื่นเช้า นอนดึก ตื่นเช้า นอนดึก วันนี้ฉันขอตาย แล้วก็จะนิ่งๆ เลย แล้วอย่ามาคุยนะ รำคาญ เป็นอย่างนั้น”

นักร้องคนดังยังเปิดใจอีกว่า ถ้าจะให้พูดกันตามตรง เธอเองก็รู้ตัวดีว่า ชีวิตของเธอน่ะผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว ที่เป็นอยู่ตอนนี้ คือการประคับประคองว่า จะไม่ยอมให้ไหลไปอยู่ในจุดที่ ‘ต่ำสุด’

“เราจะไม่ต่ำสุด จะต้องอยู่แค่กลาง แล้วก็กระเถิบขึ้นไป อย่าลงจนถึงศูนย์ ต้องไม่ถึงขนาดนั้น ต้องประคองตัวเองให้ 5 ขึ้นไป อย่า 50 ลงมา 40, 30 แบบนั้นไม่เอา ถ้า 50, 60, 70 ได้ ไม่แตะเพดานก็ได้ แต่จะต้องอยู่ประมาณนี้”

อาภาพรที่แม้จะพูดเหมือนบ่นว่า ชีวิตที่ผ่านมานั้นเหนื่อยหนัก ยากนัก เพราะ “ไม่เคยได้อะไรมาง่ายๆ เลย จะต้องเหงื่อตก ยางออก เหนื่อยเยอะมากกว่าคนอื่น” แต่กระนั้นก็ยืนยันว่า “ถ้าจะให้กลับไปแก้ไขอะไรไหม จะไม่แก้เลย”

ด้วยพอมานึกๆ ดูแล้ว “ชีวิตโคตรมันส์”

แม้ตอนที่ต้องขับรถหนีไฟแนนซ์อยู่นานถึง 3 เดือนเต็ม ตอนไม่มีเงินผ่อนจะไม่ได้รู้สึกสนุกเลยแม้แต่นิดก็ตาม

“เราใช้ชีวิต 9 ปีกับการเดินทาง กว่าจะมาถึงจุดที่มีชื่อเสียง” เจ้าตัวย้อนอดีตเล่า

โดยว่า ช่วงที่เดินสายไปแสดงคอนเสิร์ตแบบล้อมวิก ปิดรั้วกับยิ่งยง ยอดบัวงาม เธอมีรายได้ดี แต่ละเดือนก็เป็นหลักแสนบาท และพอเก็บหอมรอบริบได้ราว 3 แสน ก็อยากมีรถใช้

“แล้วดัดจริตไง คันแรกก็เอาบีเอ็ม ดาวน์แค่แสนกว่า” ซึ่งฟังดูแล้วก็น่าจะโอเค

แต่สถานการณ์ก็พลิกผันเมื่อยิ่งยงแยกไปทำวงดนตรีของตัวเอง เธอซึ่งตอนนั้นยังไม่โด่งดังจึงงานหด เงินลดน้อย สุดท้ายก็ต้องขับรถหนีไฟแนนซ์ดังว่า

โชคดีที่เพลง ‘เลิกแล้วค่ะ’ มาช่วยไว้ เพราะพอเพลงดัง เธอก็เป็นที่ต้องการตัว แต่ละวันบางทีมีถึง 5-10 งาน เก็บเงินเพลินได้ไม่ทันไร โรคไทรอยด์ก็มาขัดจังหวะ ทำให้รับงานได้ไม่เต็มที่เสียอีก

“โอ๊ย…อุปสรรคมันเยอะมาก แต่เราสู้”

“ท้อ แต่ไม่ถอย อึด แต่กัดไม่ปล่อย”

“เพราะเรามองแล้วว่าเราทำได้ เราประสบความสำเร็จ ตอนที่ชื่อเสียงพีกๆ น้องนอนไม่หลับ, อารมณ์เสีย, เลิกแล้วค่ะ, ชอบมั๊ย, เชฟบ๊ะ มันประสบความสำเร็จ ก็ฮึกเหิม ก็ทำไปเรื่อย แล้วสนุกกับงาน ก็ทำๆ ไป”

ถึงได้บอกไงว่า “ถ้าจะให้กลับไปแก้ไขอะไรไหม จะไม่แก้เลย”

“ชีวิตมันสอนอะไรเราเยอะมาก”

 

และ ‘อะไรๆ ที่ว่า’ เธอก็ตั้งใจจะบอกต่อให้ลูกหลานได้รู้

“จะเริ่มเขียนหนังสือละ” อาภาพรประกาศ

หนังสือที่จะบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางของชีวิตเอาไว้

“เผื่อเราตายไป จะได้มีอะไรให้เขามีแรงบันดาลใจ”

เจ้าของชีวิตโคตรมันส์ ผู้มากประสบการณ์บอกอย่างนั้น