ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ / หนุ่มเมืองจันท์

www.facebook.com/boycitychanFC

 

เรื่องธรรมดาสามัญประจำบ้าน

 

ขออนุญาตแนะนำหนังสือเล่มใหม่ที่ออกในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครับ

“เรื่องธรรมดาสามัญประจำบ้าน”

เป็นหนังสือชุด “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” เล่มที่ 33

ถ้าหนังสือชุดนี้เป็นการเดินทาง ก็คงเป็นการเดินทางไกลที่ยังไม่รู้ว่าจุดหมายจะอยู่ที่ไหน

เพราะตอนที่เดินก้าวแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะยาวไกลขนาดนี้

เดินไปเรื่อยๆ

ยิ่งเดินยิ่งไกล

แต่มี “ความสุข” กับ “ระหว่างทาง” มาก

และคิดว่าคนที่ร่วมทางก็คงมีความสุขด้วย

เป็น “เวลา” ที่มีความหมายจริงๆ

ตอนที่คิดถึงชื่อหนังสือเล่มใหม่

ผมจึงคิดถึงเรื่อง “เวลา”

เพราะในวงการธุรกิจ สิ่งที่ทุกคนแย่งกันมากที่สุด

คือ “เวลา”

“เวลา” ของผู้บริโภค

เพราะทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่าเทียมกัน

ไม่มีใครมีมากหรือน้อยกว่ากัน

คนทำธุรกิจจะคิดว่า ใครช่วงชิง “เวลา” จากผู้บริโภคมากกว่า

คนนั้นชนะ

อย่าง “เน็ตฟลิกซ์” บอกเลยว่าคู่แข่งของเขาไม่ใช่สถานีโทรทัศน์ หรือแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งแบบเดียวกัน

แต่เป็น “เวลาการนอน” ของคน

ถ้านอนหลับเมื่อไร คนจะไม่ดูเน็ตฟลิกซ์

แต่ถ้าลืมตาขึ้นมา เขาเชื่อว่าเน็ตฟลิกซ์จะแย่งเวลาจากเราได้

หรือผู้บริหาร “อาดิดาส” บอกว่าคู่แข่งของเขาคือเน็ตฟลิกซ์

เพราะถ้าคนดูเน็ตฟลิกซ์ก็จะไม่ออกกำลังกาย

ถ้าคนออกกำลังกายมากเท่าไร

อุปกรณ์กีฬาของเขาก็จะขายได้

“เวลา” จึงเป็นสิ่งที่มีค่า

ทุกสินค้าพยายามแย่งชิง “เวลา” ไปจากเรา

นั่นคือมุมคิดทางธุรกิจ

 

หนังสือชุดฟาสต์ฟู้ดธุรกิจของผมทั้ง 32 เล่ม ส่วนใหญ่จะพูดถึงความสำเร็จหรือล้มเหลวของผู้คน

“ความสำเร็จ” เป็นสิ่งที่หอมหวาน

ไม่มีใครไม่อยากประสบความสำเร็จ

เรื่องราวความสำเร็จ วิธีคิด หรือที่มาของคนที่ประสบความสำเร็จเป็นเรื่องที่ทุกคนอยากเรียนรู้

เช่นเดียวกับ “ความล้มเหลว”

ไม่มีใครอยากล้มเหลว

บทเรียนจากความล้มเหลวจึงเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากศึกษา

เพื่อป้องกันไม่ให้เราเดินไปสู่หุบเหวของความล้มเหลว

2 เรื่องนี้เล่ากี่ครั้งก็น่าสนใจ

แต่เมื่อตั้งคำถามว่า “เวลา” ที่ “ความสำเร็จ” หรือ “ความล้มเหลว” เกิดขึ้นกับตัวเรานั้น

เป็น “เวลา” ส่วนใหญ่ของเราหรือเปล่า

คำตอบที่ได้ก็คือ ถ้าเทียบกับเวลาในชีวิตทั้งหมด

เจ้าความสำเร็จและความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่เราจะรู้สึกมากๆ ระดับจำฝังใจจะเกิดขึ้นนานๆ ครั้ง

เราใช้เวลากับ 2 เรื่องนี้น้อยมาก

แล้วอะไรที่กัดกินเวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของเรา

ผมคิด-คิด-คิด

แฮ่ม…ประมาณ 1 นาที

คำตอบก็คือ “เรื่องธรรมดา” ที่แสนจะเรียบง่าย

นอนหลับ ตื่นนอน เข้าห้องน้ำ กินข้าว ดูหนัง อ่านหนังสือ ทำงาน คุยกับคน ออกกำลังกาย ฯลฯ

การใช้ชีวิตประจำวันธรรมดาแบบนี้ที่เรามักมองผ่าน

คุ้นเคยจนไม่เห็นค่า

แต่ถ้าเราลองมองเรื่องราวต่างๆ ที่สุดแสนจะธรรมดาในมุมใหม่

ทุกเรื่องล้วนมีมุมคิดและคุณค่า

บางเรื่องให้รอยยิ้ม ทุกข์เมื่อไร คิดถึงเรื่องนี้หัวเราะได้ทุกครั้ง

บางเรื่องให้หลักคิดบางอย่าง

บางเรื่องให้ความอบอุ่น ฯลฯ

ทุกเรื่องมีคุณค่าให้เราได้เรียนรู้

และนี่คือที่มาของหนังสือเล่มนี้ครับ

“เรื่องธรรมดาสามัญประจำบ้าน”

ตอนคิดชื่อหนังสือ ผมนึกถึงยาสามัญประจำบ้าน พวก “พาราเซตามอล-ยาลดกรด-ยาแก้ไอ-ยารักษาแผลสด”

หรือยาดม “โป๊ยเซียน” ใช้ดมใช้ทาในหลอดเดียวกัน

ขอเขียนถึงนิดนึงครับ เพราะเป็นโฆษณาใต้คอลัมน์ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” ใน “มติชนสุดสัปดาห์” มานานกว่า 10 ปี

อยากขอบคุณมานานแล้ว

เหล่ายาสามัญประจำบ้านทั้งหลายเป็นสิ่งที่เราคุ้นเคย

แต่ไม่ค่อยเห็นค่า จนเมื่อป่วย

เหมือนกับ “เรื่องธรรมดา” ในชีวิตของเรา

 

อย่างที่บอกไป หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือชุด “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” เล่มที่ 33

ไล่ตาม “เพชรพระอุมา” มาเรื่อยๆ

ขอขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตาม

ตอนที่ผมโพสต์ถึงหนังสือเล่มนี้ในเพจ “หนุ่มเมืองจันท์”

ผมชอบคำพูดของคุณไพบูลย์ มิตรรักแฟนหนังสือท่านหนึ่ง

เขาบอกสั้นๆ

“นับญาติกันแล้ว ออกหนังสือเล่มใหม่ก็ต้องอุดหนุนกัน”

สั้นๆ แต่ซึ้งใจ

ครับ เขาคงรู้สึกว่า คนเขียนก็ขยันเขียนเหลือเกิน คนอ่านก็ติดตามอ่านทุกเล่ม

เราร่วมเดินทางในเส้นทางที่ชื่อ “ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ” มายาวไกลและยาวนาน

อ่านกันมานาน จนเหมือนเป็น “ญาติน้ำหมึก”

ดังนั้น ใครอ่านมาถึงบรรทัดนี้

ผมขออนุญาตนับ “ญาติ”

ไม่ได้บังคับซื้อนะครับ

แต่อย่าลืมว่าเราเป็น “ญาติ” กันแล้ว

ขอบคุณที่ติดตามกันมาจนถึงเล่มนี้

ไม่ซื้อไม่ว่ากัน

แต่เราเป็น “ญาติ” กันแล้วนะครับ