เว็บไซต์บีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 28 มกราคมระบุว่า สหภาพยุโรป (อียู) ได้ออกมาเรียกร้องให้ บริษัทแอสตราเซเนก้า บริษัทที่ร่วมกับมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด ผลิตวัคซีนโควิด-19 ให้ส่งวัคซีนในไตรมาสแรกของปีนี้ให้ได้เพิ่มขึ้น หลังจากมีรายงานว่า แอสตราเซเนก้า จะส่งวัคซีนโควิด-19 ให้ อียูน้อยกว่าที่ทำข้อตกลงกันไว้ถึง 60 เปอร์เซ็นต์

โดย สเตลลา ไคเรียคิเดส กรรมาธิการสาธารณสุขอียู ออกมาแสดงจุดยืนดังกล่าว หลังตัวแทนของอียู ร่วมหารือกับแอสตราเซเนก้า เมื่อวันที่ 27 มกราคมที่ผ่านมา และมีขึ้นหลังจากอียู ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกับการฉีดวัคซีนโคิด-19 ให้กับประชาชนที่ล่าช้า

“เราจะทำงานร่วมกับบริษัทแอสตราเซเนก้าเพื่อหาทางแก้ปัญหาและนำไปฉีดให้กับพลเมืองสหภาพยุโรปให้ได้เร็วที่สุด” ไคเรียคิเดส ระบุ

ก่อนหน้านี้ แอสตราเซเนก้า ระบุถึงสาเหตุที่จะส่งวัคซีนให้อียูได้ไม่ได้ตามข้อตกลงเนื่องจากปัญหาการผลิตในโรงงานในอียูเอง ขณะที่มีรายงานว่า สัญญาข้อตกลงระหว่างอียู และแอสตราเซเนก้า นั้นมีเนื้อหาที่เป็นความลับ อย่างไรก็ตาม อียู เรียกร้องให้ แอสตราเซเนก้า เปิดเผยรายละเอียดออกมา

ทั้งนี้มีรายงานว่า บริษัทไฟเซอร์/บิยอนเทค ผู้ผลิตวัคซีนที่มีสัญญาวัคซีนกับอียูที่ใหญ่กว่า แอสตราเซเนก้า เองก็มีปัญหาเรื่องการส่งวัคซีนล่าช้าเช่นกัน