‘งบคุมม็อบ’ทำพิษ หลายเสียงสวดยับ คนอีกมากไม่เข้าถึงเยียวยา แต่มีเงินไว้ทำร้ายปชช.

วันที่ 27 มกราคม 2564 หลังจากเมื่อวานนี้ ครม.ได้เห็นอนุมัติงบกลางเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุม จำนวน 191 ล้านบาท ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เสนอขอ เพื่อเป็นค่าน้ำมัน ค่ากำลังพล จัดหาที่พัก ค่าวัสดุอุปกรณ์ รวมถึงในของค่าใช้จ่ายส่วนรถเมล์ ขสมก.นั้น แม้มีเสียงแสดงความกังวลจากนักการเมืองฝั่งรัฐบาล

หลังจากการรายงานข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักโดยเฉพาะการใช้งบประมาณไม่คำนึงสภาพเศรษฐกิจและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศนี้ที่กำลังได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาลเพื่อควบคุมการระบาดของโควิด-19

 

โดยนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า

อนุมัติงบกลางไปคุมม็อบได้ แต่เยียวยาประชาชนถ้วนหน้าไม่ได้

เรามีระบบราชการที่เรียกคืนเงินเบี้ยคนชราจากคุณยายวัย 89 ปี เพราะซ้ำซ้อนจากเงินสวัสดิการของลูกชายที่เสียชีวิตในหน้าที่ทหาร

เรามีรัฐบาลที่อนุมัติงบเกือบ 200 ล้าน ไปคุมม็อบ ในขณะที่ประชาชนอีกจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงการเยียวยาโควิด

แล้วก็ไปฟ้อง #ม112 คนตรวจสอบวัคซีน

#มีรัฐบาลไว้ทำไม

ด้านรศ.ดร.โกวิท วงศ์สุรวัฒน์ อดีตอาจารย์ด้านรัฐศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นในทวิตเตอร์ว่า

ครับ ! รัฐบาลอนุมัติใช้งบกลาง 191 ล้านบาทเพื่อคุมม็อบ ชายแดนไม่ต้องคุมครับ”

ผบ.ตร.แจงขอเบิกย้อนหลัง ไม่ได้ไว้ใช้ในอนาคต

ต่อมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำเรื่องขออนุมัติงบประมาณจำนวน 191 ล้านบาท เพื่อใช้ดูแลการชุมนุมทางการเมืองว่า ในส่วนของตัวเลขตนไม่ทราบแน่ชัด แต่ยอมรับว่ามีการเสนอไปจริงแต่เป็นการขอเบิกงบประมาณย้อนหลังให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ เนื่องจากงบประมาณส่วนนี้ใช้ในภารกิจควบคุมการชุมนุมทางการเมืองในช่วงปีที่ผ่านมา และเป็นการนำงบส่วนกลางสำรองจ่ายไปก่อน ส่วนใหญ่เป็นค่าอาหารและเบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่

ส่วนจะมีเงินบางส่วนไปจ่ายให้องค์กรขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. เนื่องจากนำรถโดยสารประจำทางมาใช้ในการควบคุมการชุมนุมแต่ถูกทำลายจนเกิดความเสียหายนั้น ผบ.ตร.ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวยังไม่ทราบต้องขอไปดูในรายละเอียดเนื่องจากมีการนำมาใช้หลายส่วน พร้อมย้ำว่าการทำเรื่องขอเบิกงบประมาณครั้งนี้ไม่ได้มีการนำมาใช้ในอนาคตแน่นอน